อาถรรพ์ป่า มีจริงหรือ !? 4 ชีวิตหลงป่า ไม่ได้ยินเสียง ฮ. ทั้งที่บินหลายรอบ

          แกะรอย 4 ชีวิต หลงป่าเขาจอมปลวก ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ไล่จุดเริ่มต้นหลงได้อย่างไร ทั้งที่เข้าป่าบ่อย อาถรรพ์ป่ามีจริงหรือไม่ ทำไม่ได้ยินเสียง ฮ. ทั้งที่บินวนหลายรอบ ก่อนยกมือไหว้บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนรอดมาได้
          เป็นเรื่องที่ทุกคนติดตามและเอาใจช่วยกันอย่างมาก สำหรับกรณี ชาวบ้านป่ามะกรูด ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก 4 คน หลงป่าขณะขึ้นไปหาเห็ด บนเทือกเขาลำพาด หรือเทือกเขาจอมปลวก เขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหากันอย่างต่อเนื่อง กระทั่งสามารถพาออกมาได้ในที่สุด พร้อมกับสุนัขอีก 3 ตัว รวมระยะเวลาอยู่ในป่ากว่า 6 วัน ตามไปแกะรอยการหลงป่าครั้งนี้ อะไรทำให้พวกเขาหลงป่า และเอาตัวรอดในป่าอย่างไร

จุดเริ่มต้นหลงป่า 12 พฤษภาคม 2563

          - เวลาประมาณ 9 โมงเช้า ชาวบ้าน 4 คน ได้แก่ นายวิโรจน์ อายุ 45 ปี, นางแดง อายุ 43 ปี ภรรยานายวิโรจน์, นางทองรัตน์ อายุ 46 ปี และ ด.ช.ปัญญา อายุ 13 ปี ทั้งหมดเป็นญาติกัน พร้อมด้วยสุนัข 3 ตัว ไปเก็บเห็ดในป่าเขาจอมปลวก พกกับข้าวติดตัวไปนิดหน่อย

          - ต่อมา 4 โมงเย็น นางแดง โทร. บอกลูกสาวว่ากำลังกลับบ้าน กระทั่ง 5 โมง ทุกคนรู้ตัวแล้วว่าหลงป่า เนื่องจากเดินไปจุดที่ไม่เคยไปแล้วหลงทิศ ไม่สามารถย้อนกลับทางเดิมได้ โดยก่อนหน้านั้น นางแดง เดินสะดุดกับเครือเถาหลง และพลั้งสบถคำหยาบไปด้วย

          - โชคดีที่มีไฟแช็ก 1 อัน ติดตัวกันไป คืนนั้นจึงก่อกองไฟพักค้างคืนกันในป่า นายวิโรจน์ฝันเห็นเงาดำผู้ชายร่างใหญ่ นุ่งโจงกระเบน มาบอกว่า "อยู่ตรงนี้ไปก็ไม่มีใครมารับ"

          - เช้าวันที่ 13 พฤษภาคม ทุกคนออกเดินทางไปเรื่อย ๆ เพื่อหาทางออก จนช่วงบ่าย 3 โมง นางแดงโทร. หาลูกสาวบอกพิกัดว่าอยู่ใกล้ต้นมะค้อ ซึ่งลูกสาวก็คิดว่าเดี๋ยวก็คงจะกลับออกมาได้ แต่กลายเป็นว่าหลงไปกันใหญ่ แถมฝนตก ยิ่งทำให้ร่องรอยในป่าหายไปหมด ท่ามกลางฝนตกเจออึ่งอ่าง 3 ตัว จึงจับมาปิ้งกินประทังความหิว ต่อมาได้ยินเสียงช้างอยู่รอบ ๆ ทำให้พากันเตลิดหนีช้างขึ้นที่สูง

14 พฤษภาคม เริ่มการค้นหาจากภายนอก

          - วันที่ 14 พฤษภาคม ชาวบ้านเริ่มออกตามหา ขณะที่ 7 ชีวิตยังคงหาทางออกจากป่า กระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จึงรีบวิ่งตามหาต้นเสียง เพราะคิดว่าคงเป็นนายพรานเข้ามาล่าสัตว์ แต่ยิ่งวิ่งก็ยิ่งหลง ระหว่างทางกินมะไฟ กระท้อน หยวกกล้วย เห็ด หน่อไม้ และดื่มน้ำในลำห้วยประทังชีวิต

          - วันที่ 15 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหากว่า 100 นาย พร้อมชาวบ้าน นายพราน สุนัขดมกลิ่น เดินเท้าไกลกว่า 10 กิโลเมตร รวมถึงบินโดรน และพารามอเตอร์ 3 ลำ แต่ยังไร้วี่แวว โดย 1 ในผู้สูญหาย มีคนป่วยความดันโลหิตและเบาหวานด้วย จึงเร่งค้นหาแข่งกับเวลา

          - นายพรานเจอรอยเท้าหมี จึงยิ่งเป็นห่วงความปลอดภัยของกลุ่มคนหลงป่า อีกทั้งผู้เฒ่าในหมู่บ้านกลัวว่ากลุ่มผู้สูญหายจะเดินไปเหยียบเครือเขาหลง หรือเครือเถาหลงหรือไม่ ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้หาทางออกไม่เจอ

          - ทีมกู้ภัยหลายคนบอกว่า ได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย เสียงห่างไปไม่เกิน 200 เมตร แต่ได้ค้นหาจนทั่วก็ไม่เจอต้นตอของเสียง ส่วนทุกคนในป่ายังเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ค่ำไหนนอนนั่น

          - วันที่ 16 พฤษภาคม ชาวบ้านนิมนต์พระสงฆ์มาสวดแผ่กุศลและทำพิธีตามความเชื่อ เจ้าหน้าที่ภาคพื้นระดมค้นหาเต็มกำลัง ขณะที่กองทัพภาค 3 ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกช่วยค้นหา แต่ยังไร้วี่แวว

ไฟความหวังถูกจุดขึ้นอีกครั้ง

          - วันที่ 17 พฤษภาคม นางแดง เอ่ยปากบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมนึกถึงพระธาตุศรีสองรัก ที่นับถือ ว่า ถ้าออกจากป่าได้ จะกลับมาถวายหัวหมู่ 1 หัว ข้าวเหนียว 1 กระติบ เหล้า 1 ขวด และต้นผึ้ง 10 ต้น หลังจากบนบานไม่นาน ทุกคนก็รู้สึกอ่อนล้า นายวิโรจน์บอกเหมือนมีอะไรดลใจและให้หยุดพัก นอนใต้ต้นไม้ตรงนั้น

          - จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ก็บินผ่านมาเจอกลุ่มควันไฟที่จุดขอความช่วยเหลือ ส่วนเด็กชายวัย 13 ถอดเสื้อโบกส่งสัญญาณกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่โรยตัวพร้อมโยนขวดน้ำไปให้ พร้อมบอกให้ทุกคนอยู่กับที่ ห้ามไปไหน และให้ก่อกองไฟใหญ่ ๆ ไว้
         - วันที่ 18 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่นำเฮลิคอปเตอร์ไปรับทุกคนรวมถึงสุนัข 3 ตัว ออกมาจากป่า ทุกคนปลอดภัยดี แต่มีอาการอิดโรยและอ่อนเพลีย รวมเวลาที่หลงอยู่ในป่า 6 วัน กับอีก 2.30 ชั่วโมง ท่ามกลางความดีใจของเจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน และครอบครัว

          - หลังออกมาได้อย่างปลอดภัย นายวิโรจน์ เล่าว่า ตนแปลกใจมาก ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์บินผ่านหลายรอบ แต่พวกตนกลับไม่ได้ยินเสียงเลย เพิ่งได้ยินเสียงหลังบนบาน ซึ่งเชื่อว่าคงเกี่ยวกับอาถรรพ์ป่า เพราะบางครั้งสบถคำหยาบไปโดยไม่ตั้งใจ เจ้าที่อาจไม่พอใจ จากนี้ไปตนคงไม่กล้าเข้าป่าไปตลอดชีวิต...

          บ่อยครั้งที่เรามักได้ยินคำบอกเล่าจากปากผู้รอดชีวิตถึงสิ่งเร้นลับที่ถูกเรียกว่า เจ้าป่าเจ้าเขา หรืออาถรรพ์ป่า ซึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล หรืออาจเป็นผลจากสภาพร่างกายและจิตใจที่อ่อนล้าอิดโรย หรือไม่ว่าจะเป็นอะไรกันแน่... หากไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ !
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อาถรรพ์ป่า มีจริงหรือ !? 4 ชีวิตหลงป่า ไม่ได้ยินเสียง ฮ. ทั้งที่บินหลายรอบ อัปเดตล่าสุด 19 พฤษภาคม 2563 เวลา 15:08:55 17,117 อ่าน
TOP
x close