มือฆ่า 2 โจ๋มัดเผาอำพราง แค้นเมียโดนรุมโทรม เรื่องแดงเพราะคืนนั้นฝนตก

มือฆ่าเปิดปมแค้น ชวน 2 โจ๋กินเหล้า ก่อนลวงไปฆ่า - เผาอำพรางศพ หลังเมียบอกโดนรุมโทรม โป๊ะแตกเพราะฝนตก ศพไหม้ไม่หมด ก่อนจัดฉากป้ายความผิดให้เพื่อน หวังเอาเข้าคุกด้วยกัน

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

จากกรณี ตำรวจจับกุม นายวิรัตน์ แก้วทองพันธ์ หรือ แวว อายุ 36 ปี เอเย่นต์ค้ายาเสพติด เป็นผู้ต้องหาฆ่า นายอนุชา หรือ ปุณ อายุ 27 ปี และนายประเสริฐ หรือ บอย อายุ 17 ปี แล้วจับมัดรวมกันเอาไปจุดไฟเผา บริเวณชายป่าข้างบ่อขยะเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยก่อนหน้านี้ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้อีก 2 คน คือ นายบ่าว และนายเอส แต่หลังสอบสวนแล้วพบว่ามีนายวิรัตน์เป็นผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนเหตุจูงใจนั้น นายวิรัตน์ สารภาพว่า แค้นที่ผู้ตายข่มขืนภรรยาของตนเอง ซึ่งประวัติของนายวิรัตน์ เคยถูกต้องสงสัยในคดีฆ่ายัดท่อสายตำรวจด้วย แต่สู้จนศาลยกฟ้อง

อ่านข่าว : ฆ่าล้างแค้น ! รวบมือฆ่า 2 โจ๋ เผานั่งยาง ฉุนขาด รุมข่มขืนเมียจนกลายเป็นบ้า
อ่านข่าว : พ่อค้ายารายใหญ่ รับฆ่าเผานั่งยาง 2 โจ๋ พบต้องสงสัยฆ่ายัดท่อสาย ตร. - อีก 2 คนยังปากแข็ง

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (26 พฤษภาคม 2563) รายการทุบโต๊ะข่าว สัมภาษณ์ ย่าของนายวิรัตน์ มือฆ่า บอกว่า ตนกับหลานไม่ค่อยสนิทกัน แยกกันอยู่อีกบ้านหนึ่ง ส่วนพ่อของนายวิรัตน์ ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ นอนติดเตียงทำอะไรไม่ได้ หลังทราบข่าวก็ไม่คิดว่าจะฆ่าคนได้ขนาดนี้ แต่ก็ไม่แปลก เพราะก่อนหน้านี้มีประวัติฆ่าคนมาเหมือนกัน

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

ด้าน นายเอส ผู้ต้องสงสัยที่ถูกตำรวจปล่อยตัวออกมา บอกว่า ไม่ได้สนิทกับนายวิรัตน์เป็นการส่วนตัว แต่สนิทกับนายบ่าว จึงมักมานั่งดื่มกินที่บ้านนายบ่าวเป็นประจำ ซึ่งในเย็นวันเกิดเหตุก็เหมือนกัน ตนขับรถมานั่งดื่มกินที่ขนำหลังบ้านของนายบ่าว พร้อมด้วยนายปุณ ผู้ตาย, นายบอย ผู้ตาย และนายเอ จู่ ๆ นายวิรัตน์ก็ชวนนายปุณไปไหนไม่รู้

พอใกล้รุ่งเช้า นายบอยขับรถไปบ้านนายวิรัตน์ ส่วนนายเอขับรถกลับบ้าน ส่วนตนนอนอยู่กับนายบ่าวที่ขนำ จนเช้าก็ขับรถกลับบ้าน ตกเย็นก็มานั่งดื่มกินกันต่อ และมานั่งดูข่าวว่ามีการพบศพนายบอยและนายปุณถูกฆ่าตาย ตอนนั้นตกใจมาก ยังคุยกับนายบ่าวว่าคนฆ่าต้องเป็นนายวิรัตน์แน่ ๆ กระทั่งวันรุ่งขึ้น ตำรวจมาเชิญตัวไปสอบปากคำ เพราะนายวิรัตน์ให้การว่าตนเป็นคนยิงนายปุณ ซึ่งไม่เป็นความจริง

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

ขณะที่ นายบ่าว ผู้ต้องสงสัยอีกคน เล่าว่า หลังเกิดเหตุในใจลึก ๆ มั่นใจว่านายวิรัตน์เป็นคนลงมือฆ่าแน่นอน โดยลวงผู้ตายทั้ง 2 คน มานั่งดื่มเหล้าก่อนลงมือ สาเหตุเกิดจากนายวิรัตน์เชื่อว่าภรรยาถูกผู้ตายข่มขืนในรีสอร์ต ก่อนจะป้ายความผิดมาให้ตนกับนายเอสเข้าคุกไปด้วย

ทั้งนี้ พล.ต.ท. รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แถลงสรุปคดีนี้ว่า คนร้ายคือ นายวิรัตน์ เพียงคนเดียว หลักฐานสำคัญคือรถกระบะที่ขับออกจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นรถของนายวิรัตน์ พรมสีส้มที่บ้านก็ตรงกับพรมที่จุดไฟเผา รวมทั้งอาวุธปืนกล็อก 9 มม. ปลอกกระสุนปืน 6 ปลอก และกองเลือดที่บ้านของนายวิรัตน์

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

          สำหรับสาเหตุของคดีนี้ แม้ว่าผู้ตายและผู้ต้องหาจะอยู่ในกลุ่มค้ายาเสพติดกลุ่มเดียวกัน แต่สาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เพราะนายวิรัตน์บอกว่า ทั้ง 2 คน รุมข่มขืนภรรยา วัย 29 ปี และภรรยาเพิ่งบอกก่อนเกิดเหตุเพียง 2 วัน ซึ่งขณะนี้ภรรยาของนายวิรัตน์สติฟั่นเฟือน พูดจาไม่รู้เรื่อง นายวิรัตน์ บอกว่า ถูกรุมข่มขืนจนทำให้เสียสติ

          ขณะนั่งกินกันในวงเหล้า ตนชวนนายปุณออกมาที่บ้าน ก่อนที่นายบอยจะตามมาด้วย ตนพูดทำนองว่า "กูรู้ว่ามึงทั้ง 2 คน ทำอะไรเมียกู" และทั้ง 2 คนก็ทำสีหน้าเลิ่กลั่ก ตนจึงใช้ปืนจ่อยิงทั้งคู่จนตาย ก่อนที่จะนำศพมัดไขว้กัน ห่อด้วยพรมแล้วเอาใส่ท้ายรถกระบะไปเผาอำพรางคดี แต่คืนนั้นฝนตกเลยไหม้ไม่หมด

          ส่วนประเด็นที่นายวิรัตน์อ้างว่า ภรรยาถูกผู้ตายรุมข่มขืนจนเสียสตินั้น แพทย์ต้องตรวจก่อน พร้อมหาร่องรอยการถูกข่มขืนมายืนยัน โดยเฉพาะสาเหตุที่สติฟั่นเฟือน ว่าเกิดขึ้นก่อนหรือหลังถูกข่มขืน โดยภายหลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่พาตัวนายวิรัตน์ไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวเปิดใจสาเหตุที่ลงมือเพียงสั้น ๆ ว่า "ถ้าเขาไม่ทำอะไรผมก่อน ผมก็ไม่ทำอะไรเขา มันข่มขืนภรรยาผม"

ขอบคุณข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

มือฆ่าแค้นสุมอก ลวง 2 โจ๋ไปตาย หลังเมียบอกโดนรุมโทรม - เรื่องแดงเพราะคืนนั้นฝนตก