ศาลมาเลเซียมีคำสั่งตัดสิน นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ให้จ่ายภาษีย้อนหลัง 1.2 หมื่นล้าน ผู้พิพากษาชี้ แม้เป็นอดีตนายกฯ ก็ไม่มีการยกเว้น
ตามรายงานระบุว่า เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ทางคณะกรรมการสรรพากร (IRB) ของมาเลเซีย ได้ยื่นฟ้องนาจิบเพื่อเรียกจ่ายเงินภาษีที่ค้างชำระสะสมระหว่างปี 2554-2560 พร้อมกับดอกเบี้ย 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นับจากวันที่ศาลมีคำสั่งตัดสิน พร้อมทั้งค่าปรับและใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่ศาลพิจารณา โดยมีระยะเวลาให้ชำระภายใน 60 วัน แต่เขาไม่ได้ดำเนินการ
นอกจากนี้ นาจิบกำลังเผชิญกับการดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริต 5 ข้อหาใหญ่
ซึ่งเกี่ยวข้องกับกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติมาเลเซีย หรือ Malaysia
Development Berhad (1MDB) ที่กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวครั้งใหญ่
จุดประกายให้มีการสอบสวนทั่วโลก เกี่ยวกับเรื่องการทุจริตและการฟอกเงิน
โดยอัยการคาดว่าจะมีจำนวน 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.4 แสนล้านบาท)
ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทมาจากกองทุนดังกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก The Straits Times, scmp
ภาพจาก MOHD RASFAN / AFP
วันที่ 22 กรกฎาคม 2563 เว็บไซต์เดอะสเตรตไทมส์ และ เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า ศาลสูงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ของประเทศมาเลเซีย มีคำสั่งให้อดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค (Najib Razak) จ่ายภาษีรายได้เพิ่มเติมรวม 1.69 พันล้านริงกิต (ราว 1.25 หมื่นล้านบาท) ให้กับทางรัฐบาลตามรายงานระบุว่า เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ทางคณะกรรมการสรรพากร (IRB) ของมาเลเซีย ได้ยื่นฟ้องนาจิบเพื่อเรียกจ่ายเงินภาษีที่ค้างชำระสะสมระหว่างปี 2554-2560 พร้อมกับดอกเบี้ย 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นับจากวันที่ศาลมีคำสั่งตัดสิน พร้อมทั้งค่าปรับและใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่ศาลพิจารณา โดยมีระยะเวลาให้ชำระภายใน 60 วัน แต่เขาไม่ได้ดำเนินการ
ภาพจาก ymphotos / Shutterstock.com
จากนั้นในเดือนกรกฎาคม 2562 นาจิบได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ภาษีอากรต่อทางคณะกรรมการ IRB ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมาย อย่างไรก็ คำร้องถูกปฏิเสธ ส่งผลให้มีการดำเนินส่งคำร้องไปยังศาลเพื่อพิจารณาสรุปชี้ขาดการตัดสิน โดย อัมหมัด บาเช ผู้พิพากษาสูง ระบุว่า แม้เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้รับการยกเว้น ต้องจ่ายหนี้คืนให้กับรัฐบาลขอบคุณข้อมูลจาก The Straits Times, scmp