สลด เด็กหญิง 3 ขวบ ตกเป็นเหยื่อ 2 โจ๋รุมโทรมในอินเดีย ก่อนฆ่าอำพรางศพ นำร่างโยนทิ้งเขื่อน ก่อนตีเนียนปล่อยข่าวลือ หวังเบี่ยงเบนแนวทางการสืบคดี

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานเหตุสลด กรณีเด็กหญิงอายุเพียง 3 ขวบ ในเมืองชหินทวรา
รัฐมัธยประเทศ ของอินเดีย กลายเป็นเหยื่อถูก 2 คนร้ายรุมโทรมแล้วฆ่า
ก่อนนำศพไปโยนทิ้งเขื่อนอำพรางคดี
โดยพบว่าคนร้ายยังมีความพยายามปล่อยข่าวลือให้ตำรวจเข้าใจผิด
คิดว่าเด็กตกเป็นเหยื่อถูกคนเล่นมนตร์ดำนำไปบูชายัญ
รายงานเผยว่า ทางตำรวจได้รับแจ้งเรื่องการหายตัวไปของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะพบศพของเธออยู่บริเวณใกล้ ๆ เขื่อนใน 3 วันต่อมา ซึ่งผลการชันสูตรบ่งชี้ว่าเด็กเสียชีวิตจากการหายใจไม่ออกและอาการบาดเจ็บ
ระหว่างการสืบสวน ทางตำรวจได้ดำเนินการสอบปากคำกว่า 300 คน กระทั่งในวันที่ 21 กรกฎาคม จึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน คือชายวัย 21 และ 23 ปี โดยทางตำรวจเชื่อว่าพฤติการณ์ก่อเหตุน่าจะเริ่มจากคนร้ายใช้ผ้าผูกไว้รอบหน้าของเด็ก ก่อนจะลงมือข่มขืนและบีบคอเด็กจนตาย จากนั้นก็ยัดศพใส่กระสอบและนำไปโยนทิ้งลงเขื่อน ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาในการก่อเหตุไม่ถึง 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ อินเดียนับเป็นประเทศที่เกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศสูงมากตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา นำมาสู่การออกกฎหมายฉบับใหม่ หวังยุติเหตุความรุนแรงและการล่วงละเมิดเด็ก โดยรัฐบาลของรัฐมัธยประเทศ ได้อนุมัติให้ใช้โทษประหารชีวิตกับผู้ต้องหาคดีข่มขืนเด็กและคดีรุมโทรม ตั้งแต่ปี 2560 ก่อนที่โทษประหารสำหรับผู้ที่ข่มขืนเด็กอายุไม่ถึง 12 ปี จะมีการนำมาใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พบว่าเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ออกมาโต้แย้งการใช้โทษประหาร โดยอ้างว่าบทลงโทษนี้ไม่ได้ช่วยยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงได้ และเรียกร้องให้ยุติการใช้โทษประหารชีวิต
อนึ่ง ข้อมูลจากปี 2560 พบว่าตำรวจอินเดียมีการลงบันทึกคดีข่มขืนมากกว่า 32,500 คดี โดยคาดว่ายังมีอีกหลายคดีที่ไม่ถูกรายงานต่อทางการ