สาวปล่อยโฮ โวยตำรวจสงขลา ยึดรถ จยย. ยอมรับผิดหัวร้อนเอง เพราะรีบไปรับลูก เลยขัดขืนไม่ให้กุญแจรถกับเจ้าหน้าที่ จนเรื่องบานปลาย ด้าน ผกก. แจง ที่ยึดรถเพราะมีความผิดหลายกระทง
กรณีโลกออนไลน์ มีการโพสต์คลิปเหตุการณ์ตำรวจจราจร สภ.เมืองสงขลา จับรถจักรยานยนต์ของหญิงคนหนึ่งไม่สวมหมวกกันน็อก บริเวณสี่แยกวัดเลียบ ถนนไทรบุรีตัดถนนสายบุรี เขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งหญิงคนนี้ร้องให้พยายามอ้อนวอนขอรถคืน อ้างว่าจะไปรับลูกกับแม่ และจะไปเสียค่าปรับในภายหลัง แต่ตำรวจไม่ยอมก่อนจะยกรถพาไปโรงพัก จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุนั้น
ล่าสุด (27 กรกฎาคม 2563) อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยสอบถามไปยัง น.ส.พิชยา อายุ 27 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกตำรวจยึดไป เจ้าตัวเล่าว่า เหตุเกิดช่วงเที่ยงของวานนี้ (26 กรกฎาคม) ขณะที่ตนขี่รถกลับจากตลาดนัด และถูกตำรวจจราจรขี่ตามหลังมาเพื่อขอตรวจ พ.ร.บ. รถ ว่ามีหรือไม่ ตนจึงบอกว่าไม่มี มีแต่เล่มเขียว ตำรวจจึงได้ออกใบสั่งให้และยึดรถ
จากนั้น ตนจึงขอร้องว่าอย่ายึดรถเพราะต้องขี่ไปหาลูกที่ขายของอยู่ในตลาดคนเดียว และจะไปเสียค่าปรับให้ทีหลัง แต่ตำรวจไม่ยอม จึงได้ล็อกล้อรถ และตนเดินร้องไห้ออกไปก่อนไปพบกับผู้ชายคนที่ถ่ายคลิปซึ่งพยายามช่วยเหลือตน
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า ตอนเกิดเหตุตนมีอารมณ์และคำพูดของตนก็อาจทำให้ตำรวจไม่พอใจ โดยเฉพาะกรณีที่ไม่ยอมให้ยึดรถและพากุญแจเดินหนี เพราะทราบจากพี่สาวว่า หากถูกตำรวจจับก็อย่าให้กุญแจและอย่าให้ยึดรถ แต่ที่พูดไปก็เพราะต้องการรถคืน เพื่อที่จะขี่ไปหาลูก
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
สุดท้ายเหตุการณ์นี้ก็มีตำรวจอีกนายหนึ่งที่เป็นผู้กอง
คุยดีมากมาเปรียบเทียบปรับให้เหลือแค่ 200 บาท จากที่มากกว่านั้นเพราะสงสาร
และตำรวจก็ยกรถตนไปโรงพัก
ส่วนตนก็นั่งรถจักรยานยนต์ของเพื่อนที่ขับผ่านมาไปหาลูกที่ตลาด
และวันนี้ช่วงสายตนก็นำใบสั่งไปเสียค่าปรับและนำรถคืน
อย่างไรก็ตาม น.ส.พิชยา ได้ยกมือไว้ขอโทษว่า อย่าไปด่าผู้กองที่เปรียบเทียบปรับตน เพียงแต่ตอนนั้นทั้งตนและตำรวจที่จับกุมต่างอารมณ์ร้อน และตนก็ไม่เข้าใจเรื่องกฎหมายด้วย เพียงเพราะสงสารลูกที่ขายของอยู่ในตลาดคนเดียว จึงต้องการรถคืนเท่านั้น
ด้าน
พ.ต.อ. เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผู้กับการ สภ.เมืองสงขลา
ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว
โดยสาเหตุที่ตำรวจต้องยึด เพราะมีความผิดหลายกระทง ทั้งไม่สวมหมวกกันน็อก
ไม่มีใบอนุญาตขับรถ ไม่พกสำเนาคู่มือประจำรถ
ไม่มีเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี และอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ
แต่เหตุการณ์เฉพาะหน้าตอนนั้น
ผู้เสียหายอาจจะอารมณ์ร้อนทำให้กลายเป็นเรื่องขึ้นมา
ส่วนตำรวจที่จับกุมก็จะสอบถามเหตุการณ์อีกครั้ง
เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ขอบคุณข้อมูลจาก อมรินทร์ ทีวี
ล่าสุด (27 กรกฎาคม 2563) อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยสอบถามไปยัง น.ส.พิชยา อายุ 27 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกตำรวจยึดไป เจ้าตัวเล่าว่า เหตุเกิดช่วงเที่ยงของวานนี้ (26 กรกฎาคม) ขณะที่ตนขี่รถกลับจากตลาดนัด และถูกตำรวจจราจรขี่ตามหลังมาเพื่อขอตรวจ พ.ร.บ. รถ ว่ามีหรือไม่ ตนจึงบอกว่าไม่มี มีแต่เล่มเขียว ตำรวจจึงได้ออกใบสั่งให้และยึดรถ
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า ตอนเกิดเหตุตนมีอารมณ์และคำพูดของตนก็อาจทำให้ตำรวจไม่พอใจ โดยเฉพาะกรณีที่ไม่ยอมให้ยึดรถและพากุญแจเดินหนี เพราะทราบจากพี่สาวว่า หากถูกตำรวจจับก็อย่าให้กุญแจและอย่าให้ยึดรถ แต่ที่พูดไปก็เพราะต้องการรถคืน เพื่อที่จะขี่ไปหาลูก
อย่างไรก็ตาม น.ส.พิชยา ได้ยกมือไว้ขอโทษว่า อย่าไปด่าผู้กองที่เปรียบเทียบปรับตน เพียงแต่ตอนนั้นทั้งตนและตำรวจที่จับกุมต่างอารมณ์ร้อน และตนก็ไม่เข้าใจเรื่องกฎหมายด้วย เพียงเพราะสงสารลูกที่ขายของอยู่ในตลาดคนเดียว จึงต้องการรถคืนเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก อมรินทร์ ทีวี