เจนภพ วีรพร ผู้ต้องหา คดีขับรถเบนซ์ชนฟอร์ด ได้รับการพักโทษ ชี้เป็นนักโทษชั้นดี ด้านญาติเหยื่อค้านปล่อยตัว ซ้ำไม่ได้รับเงินค่าเสียหาย
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า จากกรณีคดีดัง นายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหาคดีขับรถเบนซ์ชนฟอร์ด ในปี 2559 จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน โดย นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้รับโทษจำคุกและได้จ่ายเงินเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียหายจนได้รับค่าชดเชยไประดับหนึ่งแล้ว จึงอยู่ในข่ายการพักโทษของกรมราชทัณฑ์
น.ส.กัญจนา ฮ้อแสงชัย น้องสาวของ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย หนึ่งในผู้เสียชีวิต ชี้แจงว่า ค่าเสียหายดังกล่าวเป็นการชดเชยเพียงทางแพ่ง จำเลยนำเงินมาวางศาลไม่กี่ล้านบาท ทางครอบครัวไม่ได้ให้ความสำคัญกับเงินก้อนนั้น เพราะชีวิตของพี่สาวที่เสียไปไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเงินได้
สำหรับกรณีที่ว่ามีจำเลยชดใช้เงินให้จนเป็นที่พึงพอใจแล้วนั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่ความจริงอย่างแน่นอน โดยหลังเกิดเหตุ ทางครอบครัวไม่เคยได้รับการติดต่อนอกรอบหรือรับการเยียวยาใด ๆ ทั้งสิ้นจากทางฝ่ายจำเลย
ครอบครัวต้องการยุติคดีแพ่งเพื่อดำเนินการต่อ และยังคงติดตามกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ยืนยันว่าอยากให้คดีรถเบนซ์ชนฟอร์ดเป็นบรรทัดฐานใหม่ของสังคมส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นคนมีฐานะหรือไม่ ก็ควรได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมและเป็นธรรมทั่วถึงกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลจะออกมาว่าต้องพักโทษหรือไม่ เรื่องนี้ขอให้เป็นดุลพินิจของกรมราชทัณฑ์
ด้าน สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
กล่าวถึงการพักโทษของนายเจนภพ เสี่ยเบนซ์ชนฟอร์ด ว่า
ตนได้รับรายงานจากกรมราชทัณฑ์ว่า น.ช.เจนภพ เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดี ในความผิดฐานความผิดต่อชีวิต กำหนดโทษจำคุก 4 ปี และได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปี 2563 โดยได้รับลดโทษ 1 ใน 4 ตามมาตรา 7 (2)
ปัจจุบัน น.ช.เจนภพ เหลือกำหนดโทษหลังจากได้รับอภัยโทษ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2562 แต่ได้รับโทษจำคุกมาแล้ว 1 ปี 3 เดือน 28 วัน (นับถึงวันที่ 2 กันยายน 2563) จึงทำให้เหลือโทษจำคุกต่อไป 1 ปี 8 เดือน 7 วัน โดยจะพ้นโทษวันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ทำให้เข้าเกณฑ์พักการลงโทษชั้นดี
น.ช.เจนภพ จะเข้าเกณฑ์พักการลงโทษชั้นดี ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เบื้องต้นทางเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทำหนังสือขอข้อมูลการสืบเสาะข้อเท็จจริงไปยังสำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 9 เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการพิจารณาพักการลงโทษแล้ว โดยจะสามารถขอเอกสารสืบเสาะข้อเท็จจริงล่วงหน้าได้ 1 ปี
นายสมศักดิ์
ยืนยันว่า หลักเกณฑ์การพิจารณาพักการลงโทษจะต้องคำนึงถึงผลกระทบของการกระทำผิดต่อผู้เสียหายและสังคม
รวมถึงการเยียวยาความเสียหายให้กับผู้เสียหายหรือผู้เสียชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม หากญาติผู้เสียชีวิต หรือผู้เสียหาย ยังติดใจเอาความ ก็ต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบว่าสมควรได้รับการพักการลงโทษหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์, สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น

น.ส.กัญจนา ฮ้อแสงชัย น้องสาวของ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย หนึ่งในผู้เสียชีวิต ชี้แจงว่า ค่าเสียหายดังกล่าวเป็นการชดเชยเพียงทางแพ่ง จำเลยนำเงินมาวางศาลไม่กี่ล้านบาท ทางครอบครัวไม่ได้ให้ความสำคัญกับเงินก้อนนั้น เพราะชีวิตของพี่สาวที่เสียไปไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเงินได้
สำหรับกรณีที่ว่ามีจำเลยชดใช้เงินให้จนเป็นที่พึงพอใจแล้วนั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่ความจริงอย่างแน่นอน โดยหลังเกิดเหตุ ทางครอบครัวไม่เคยได้รับการติดต่อนอกรอบหรือรับการเยียวยาใด ๆ ทั้งสิ้นจากทางฝ่ายจำเลย
ครอบครัวต้องการยุติคดีแพ่งเพื่อดำเนินการต่อ และยังคงติดตามกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ยืนยันว่าอยากให้คดีรถเบนซ์ชนฟอร์ดเป็นบรรทัดฐานใหม่ของสังคมส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นคนมีฐานะหรือไม่ ก็ควรได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมและเป็นธรรมทั่วถึงกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลจะออกมาว่าต้องพักโทษหรือไม่ เรื่องนี้ขอให้เป็นดุลพินิจของกรมราชทัณฑ์

ตนได้รับรายงานจากกรมราชทัณฑ์ว่า น.ช.เจนภพ เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดี ในความผิดฐานความผิดต่อชีวิต กำหนดโทษจำคุก 4 ปี และได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปี 2563 โดยได้รับลดโทษ 1 ใน 4 ตามมาตรา 7 (2)
ปัจจุบัน น.ช.เจนภพ เหลือกำหนดโทษหลังจากได้รับอภัยโทษ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2562 แต่ได้รับโทษจำคุกมาแล้ว 1 ปี 3 เดือน 28 วัน (นับถึงวันที่ 2 กันยายน 2563) จึงทำให้เหลือโทษจำคุกต่อไป 1 ปี 8 เดือน 7 วัน โดยจะพ้นโทษวันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ทำให้เข้าเกณฑ์พักการลงโทษชั้นดี
น.ช.เจนภพ จะเข้าเกณฑ์พักการลงโทษชั้นดี ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เบื้องต้นทางเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทำหนังสือขอข้อมูลการสืบเสาะข้อเท็จจริงไปยังสำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 9 เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการพิจารณาพักการลงโทษแล้ว โดยจะสามารถขอเอกสารสืบเสาะข้อเท็จจริงล่วงหน้าได้ 1 ปี
ทั้งนี้ ก่อนเข้าเกณฑ์การพักการลงโทษ
ได้มอบหมายให้สำนักงานคุมประพฤติติดต่อสอบถามญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2
คนในคดีนี้แล้วว่ายังติดใจเอาความหรือไม่อย่างไร
และได้รับการชดใช้เยียวยาหรือไม่ ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตยังติดใจเอาความ
และไม่ยินยอมให้ น.ช.เจนภพ ได้รับปล่อยตัวและได้รับการพักโทษ
อย่างไรก็ตาม หากญาติผู้เสียชีวิต หรือผู้เสียหาย ยังติดใจเอาความ ก็ต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบว่าสมควรได้รับการพักการลงโทษหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์, สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น