วิษณุ เครืองาม ชี้ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง โทษถึงขั้นเนรเทศออกนอกประเทศ

 
              วิษณุ เครืองาม ชี้ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง มาตรา 11 เจอโทษถึงขั้นเนรเทศออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุม ทำลาย รื้อเวที ยังไม่ถึงขั้นเคอร์ฟิว แต่จะประกาศเมื่อไรก็ได้

              วันที่ 16 ตุลาคม 2563 สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เผยถึงกรณีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร เป็นไปตามมาตรา 11 คนละส่วนกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามมาตรา 5 ซึ่งใช้ในสถานการณ์โควิดทั่วประเทศ

              โดยเบื้องต้น พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง ดังกล่าว มีกรอบเวลา 30 วัน หากสถานการณ์เบาบางลง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถยกเลิกได้ทันที ไม่ต้องเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนเคอร์ฟิว ยังไม่มีเงื่อนไขที่จะประกาศวันนี้ แต่จะประกาศเมื่อใดก็ได้

              นายวิษณุ ระบุว่า ตามรัฐธรรมนูญระบุว่า บุคคลมีเสรีภาพชุมนุมโดยสงบและเปิดเผยได้ แต่เมื่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะมีความร้ายแรงหรือไม่ จึงมีข้อจำกัดของเสรีภาพนั้น จะมาอ้างเสรีภาพเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ ยกเว้นเป็นการชุมนุมทำกิจกรรมทางสังคม ทางธุรกิจหรือวัฒนธรรม เช่น งานศพ สังสรรค์รื่นเริง แม้จะเกิน 5 คน เป็น 100 คน หรือ 1,000 คน ก็สามารถทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย เป็นเฉพาะกรณีไป

              นายวิษณุ ระบุเพิ่มเติมว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง ตามมาตรา 11 เจ้าหน้าที่มีอำนาจสามารถเข้าจับกุม ยึด ทำลาย รื้อเวที สั่งห้ามเข้าสถานที่ จนถึงสั่งเนรเทศออกนอกประเทศได้ เจ้าพนักงานสามารถตัดสินใจได้เลยหรือไม่ เป็นการพิจารณาของผู้อำนวยการสถานการณ์ คือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ