ผู้บริหารอิชิตัน กรุ๊ป ลาออกแล้ว หลัง 3 คนถูก ก.ล.ต. ปรับกว่า 33 ล้าน อันเนื่องจากรู้ข้อมูลภายในของหุ้น ICHI และมีการเทขายหุ้นออกก่อนที่จะมีการประกาศงบการเงินว่าขาดทุน
วันที่ 23 ตุลาคม 2563 กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นายอภิชาติ สุขจิรวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ-สายงานบัญชีและการเงิน ของ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ลาออกและมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2563 จากคดีอื้อฉาวที่เป็น 1 ใน 3 รายของบริษัท ที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งปรับ 33 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการที่นายอภิชาติ รู้ข้อมูลภายในเกี่ยวกับผลการดำเนินงานปี 2559 ที่มีกำไรลดลง มีผลขาดทุนในไตรมาส 4 ปี 2559
ทั้งนี้ นายอภิชาติ ได้ขายหุ้น ICHI เมื่อวันที่ 10-20 มกราคม 2560 จำนวน 3.52 ล้านหุ้น และทำให้สามารถเลี่ยงผลการขาดทุนได้ ก่อนที่จะมีการเปิดเผยงบการเงินปี 2559 ของ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ต่อ ตลท.
ทั้งนี้ นายอภิชาติ ได้ขายหุ้น ICHI เมื่อวันที่ 10-20 มกราคม 2560 จำนวน 3.52 ล้านหุ้น และทำให้สามารถเลี่ยงผลการขาดทุนได้ ก่อนที่จะมีการเปิดเผยงบการเงินปี 2559 ของ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ต่อ ตลท.
ทั้งนี้ ผู้กระทำผิด 3 รายที่ถูกดำเนินการทางแพ่ง ได้แก่
1. นายอภิชาติ สุขจิรวัฒน์ : กรณีขายหุ้นของอิชิตัน (ICHI) เนื่องจากรู้ข้อมูลภายใน
2. นางอิง ภาสกรนที : เปิดเผยข้อมูลภายใน ICHI ให้แก่บุคคลอื่น และให้ความช่วยเหลือในการขายหุ้น
3. นางสาวสุภาณี สุขพันธุ์ถาวร : กรณีขายหุ้นของอิชิตัน (ICHI) เนื่องจากรู้ข้อมูลภายใน
ด้าน ก.ล.ต. สั่งให้ผู้กระทำผิดทั้ง 3 ชำระค่าปรับทางแพ่ง ส่งคืนผลประโยชน์จากการกระทำผิดและจ่ายชดเชยเป็นเงินกว่า 33 ล้านบาท และห้ามทั้ง 3 คนเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 12 เดือน ซึ่งในส่วนของนายอภิชาติ คิดเป็นเงินรวม 7,801,494.66 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ
1. นายอภิชาติ สุขจิรวัฒน์ : กรณีขายหุ้นของอิชิตัน (ICHI) เนื่องจากรู้ข้อมูลภายใน
2. นางอิง ภาสกรนที : เปิดเผยข้อมูลภายใน ICHI ให้แก่บุคคลอื่น และให้ความช่วยเหลือในการขายหุ้น
3. นางสาวสุภาณี สุขพันธุ์ถาวร : กรณีขายหุ้นของอิชิตัน (ICHI) เนื่องจากรู้ข้อมูลภายใน
ด้าน ก.ล.ต. สั่งให้ผู้กระทำผิดทั้ง 3 ชำระค่าปรับทางแพ่ง ส่งคืนผลประโยชน์จากการกระทำผิดและจ่ายชดเชยเป็นเงินกว่า 33 ล้านบาท และห้ามทั้ง 3 คนเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 12 เดือน ซึ่งในส่วนของนายอภิชาติ คิดเป็นเงินรวม 7,801,494.66 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ