อาจารย์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ค้นพบ ปลาค้างคาวชนิดใหม่ของโลก จากลุ่มน้ำแม่ตื่น อ.อมก๋อย มีชื่อว่า "ปลาค้างคาวอมก๋อย" ดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ สร้างความมั่นคงทางอาหารให้คนบนพื้นที่สูง
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 MJU RADIO สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยแม่โจ้ รายงานว่า รศ. ดร.อภินันท์ สุวรรณรักษ์ อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ และผู้อำนวยการสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ค้นพบปลาค้างคาวชนิดใหม่ของโลก จากลุ่มน้ำแม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ มีชื่อเรียกว่า "ปลาค้างคาวอมก๋อย" และตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Oreoglanis omkoiense Suvarnaraksha, 2020 การค้นพบครั้งนี้ ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Raffles Bulletin of Zoology ฉบับที่ 68 หน้า 779-790 ปี 2020 ซึ่งปลาในสกุลนี้พบได้ในบริเวณต้นน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำ น้ำไหลแรง ใสสะอาด ถือเป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ทั้งยังสร้างความมั่นคงทางอาหารให้คนบนพื้นที่สูงอีกด้วย
สำหรับรายละเอียดของปลาค้างคาวอมก๋อย (Oreoglanis omkoiense) - จัดอยู่ในสกุล Oreoglanis ซึ่งเป็นสกุลของปลาที่มีรูปทรงลู่ไปกับน้ำ ส่วนท้องแบนราบ แนบติดกับก้อนหินใต้น้ำ
- ก้านครีบเดี่ยวของครีบท้องกับครีบหู รวมถึงหนวดที่ขากรรไกรบนและบริเวณริมฝีปาก จะมีตุ่มขนาดเล็กมากใช้ในการยึดเกาะกับก้อนหิน
- ส่วนของปากจะเป็นช่องสามเหลี่ยม ส่วนปลายของหนวดที่ขากรรไกรมีพังผืดยึดและลู่ไปด้านหลัง จัดอยู่ในวงศ์ปลาแค้ติดหิน (Sisoridae)
- เป็นปลาค้างคาวที่พบในลุ่มน้ำแม่ตื่น จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับปลาค้างคาวสยาม (O.siamensis) ที่พบในลุ่มน้ำแม่กลางของดอยอินทนนท์ แต่มีความแตกต่างจากชนิดอื่น ๆ ตรงปลายหนวดที่ขากรรไกรบนจะมีปลายแหลม หนวดที่จมูกยาว ครีบไขมัน งอยปาก และความลึกของคอดหาง รวมถึงครีบหางเป็นแบบเว้าเข้าเล็กน้อย ซึ่งปลาเหล่านี้ชาวท้องถิ่นนำมาปรุงอาหารรับประทานได้หลายรูปแบบ
รศ. ดร.อภินันท์ กล่าวว่า ปลาค้างคาวอมก๋อย เป็นปลาที่อาศัยอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่ดีมาก คือมีอุณภูมิของน้ำต่ำตลอดทั้งปี น้ำใส ไหลแรง มีปริมาณออกซิเจนสูง มีร่มเงาของป่าไม้ ปลากินแพลงตอนและแมลงน้ำขนาดเล็กที่เกาะอยู่บนก้อนหินเป็นอาหาร และไวต่อสารเคมีมาก ออกไข่มีจำนวนน้อย ประมาณ 30-60 ฟอง จึงเป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ
ดังนั้นหากมีการตัดไม้ทำลายป่า หรือใช้ยาฆ่าแมลง ก็จะเป็นการทำลายห่วงโซ่อาหาร เพราะจะไม่มีแมลงบกที่ลงมาไข่ในน้ำ ปลาก็ไม่มีอาหารกิน ทรายที่เกิดจากการพังทลายของหน้าดินก็จะเข้ามาทับถมก้อนหิน ทำให้ไม่มีแพลงตอนบนก้อนหิน ไม่มีอาหาร ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีที่สืบพันธุ์และเลี้ยงตัวอ่อน เป็นการทำลายแหล่งที่อยู่ของปลาเหล่านี้ และที่สำคัญยังเป็นการทำลายแหล่งอาหารโปรตีน จากปลาของประชาชนบนพื้นที่สูงอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก
ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ / MJU RADIO สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยแม่โจ้