อุทาหรณ์ศัลยกรรม หญิงเล่าฝันร้าย
ทรมานแทบขาดใจหลังทำศัลยกรรมราคาถูก เพิ่งรู้ความจริงเกือบตายบนเตียงผ่าตัด
หลังติดเชื้อในกระแสเลือด เกือบไม่รอดชีวิต
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในขณะที่การทำศัลยกรรมเสริมความงาม
กลายมาเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนอยากสวยหรือต้องการคืนความมั่นใจในรูปร่างของตัวเอง
แต่ในบางครั้งการทำศัลยกรรมนั้น ๆ
อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือมีอันตรายถึงชีวิต
หากเลือกรับบริการจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือแพทย์เถื่อนที่ไม่ได้รับใบอนุญาต
และไม่นานมานี้ก็ได้เกิดอีกหนึ่งเคสอุทาหรณ์ของคนอยากสวย เมื่อพี่น้องคู่หนึ่งตัดสินใจไปทำศัลยกรรมพลิกโฉมตัวเองใหม่จากคลินิกแห่งหนึ่งในตุรกี หลังถูกแพ็กเกจราคาถูกจูงใจ แต่สุดท้ายกลับต้องช็อกกับสภาพสุดเลวร้ายของคลินิกดังกล่าว แถมเพิ่งมารู้ความจริงเอาภายหลังว่าฝ่ายพี่สาวนั้นแทบจะไม่รอดชีวิตจากเตียงผ่าตัดด้วย
และไม่นานมานี้ก็ได้เกิดอีกหนึ่งเคสอุทาหรณ์ของคนอยากสวย เมื่อพี่น้องคู่หนึ่งตัดสินใจไปทำศัลยกรรมพลิกโฉมตัวเองใหม่จากคลินิกแห่งหนึ่งในตุรกี หลังถูกแพ็กเกจราคาถูกจูงใจ แต่สุดท้ายกลับต้องช็อกกับสภาพสุดเลวร้ายของคลินิกดังกล่าว แถมเพิ่งมารู้ความจริงเอาภายหลังว่าฝ่ายพี่สาวนั้นแทบจะไม่รอดชีวิตจากเตียงผ่าตัดด้วย
ซาช่า น้องสาววัย 41 ปีของเธอก็เดินทางไปเข้ารับการผ่าตัดในแพ็กเกจเดียวกัน แต่เพิ่มเงินไปอีกเล็กน้อยเพื่อจะทำการผ่าตัดยกกระชับหน้าท้องด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lisa Macdonald
ทว่าทันทีที่ได้เห็นสภาพของคลินิก สองพี่น้องก็ถึงกับช็อกหนัก โดย ลิซ่า ชี้ว่า สภาพของคลินิกดูเหมือนบางอย่างที่มาจากโลกที่สาม ทั้งเย็นและมืด แถมบนพื้นก็มีผ้าปูไว้ สภาพเตียงคนไข้เหมือนแผ่นไม้ที่นำมาปะ ๆ ไว้ แถมเจ้าหน้าที่ยังใช้เชือกเก่า ๆ จับเธอมัดไว้ก่อนทำการผ่าตัดด้วย
ลิซ่ายอมรับว่าเธอกับน้องหวาดผวากับสภาพที่เผชิญมาก แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อ เพราะได้จ่ายเงินตามแพ็กเกจไปหมดแล้ว
และหลังการผ่าตัดเสร็จสิ้น ลิซ่าก็ได้เผชิญสิ่งที่เรียกว่านรกอีกครั้ง เธอเจ็บปวดเจียนตาย ทุกข์ทรมานอย่างหนัก ที่หน้าอกของเธอทั้งเจ็บและมีรอยช้ำ แค่หายใจยังลำบาก นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังนำเธอกับน้องไปไว้ในห้องเล็ก ๆ และปล่อยทิ้งไว้โดยไม่เหลียวแล ไม่ได้รับยาแก้ปวด ไม่มีแพทย์มาให้คำปรึกษา เธอเจ็บปวดมากจนลุกไปห้องน้ำเองไม่ได้ด้วยซ้ำ ต้องปัสสาวะใส่ผ้าที่ปูไว้ แม้แต่ตอนที่เธออาเจียนออกมา ก็ไม่มีใครเข้ามาทำความสะอาดให้
"ฉันเชื่อจริง ๆ ว่าตัวเองกำลังจะตาย โดยไม่รู้สักนิดว่าฉันได้ตายไปรอบนึงแล้วจริง ๆ" ลิซ่า กล่าว
คนที่คลินิกพยายามอ้างกับพวกเธอว่าความเจ็บปวดนั้น ๆ เป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่เสริมหน้าอก แต่หลังจากที่เธอได้คุยกับแม่ซึ่งทำงานในโรงพยาบาล ก็มีแพทย์แนะนำให้พวกเธอรีบกลับมายังอังกฤษด่วน หลังจากการพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายขายของคลินิก พวกเธอก็ได้รับการออกเอกสารจนสามารถขึ้นเครื่องบินกลับมายังบ้านเกิดได้ใน 6 วันต่อมา
อย่างไรก็ตาม 3 สัปดาห์หลังจากนั้น ลิซ่าก็อาการทรุดหนักจนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ซึ่งแพทย์ที่โรงพยาบาลเว็กซ์แฮมปาร์ก ชี้ว่าลิซ่าเกิดอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 12 ชั่วโมงเท่านั้น หากเธอไม่เข้ารับการผ่าตัดนำเต้าเทียมที่เสริมไว้ออกในทันที
ทั้งนี้ ภายหลังการผ่าตัด ลิซ่าได้รู้ในภายหลังว่าเต้าเทียมที่คลินิกในตุรกีนำมาผ่าตัดให้เธอ เป็นวัสดุที่ถูกห้ามใช้ในอังกฤษและยุโรป ยิ่งไปกว่านั้นแพทย์ยังพบว่าซี่โครงของเธอเกิดรอยร้าวทั้งหมด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเธอได้ผ่านการทำ CPR มา
นั่นหมายถึงแท้จริงแล้ว เธอได้เกิดภาวะที่หัวใจหยุดเต้นไปแล้วระหว่างการทำศัลยกรรมในตุรกี ซึ่งศัลยแพทย์ที่นั่นต้องทำการกู้ชีพเธอขึ้นมา
"ยากจะเชื่อจริง ๆ ว่าฉันตายไปแล้ว แต่กลับไม่มีใครบอกอะไรฉันเลย" ลิซ่า กล่าว
ทั้งนี้ Channel 4 รายงานว่า ในตุรกีมีบริษัทหลายแห่งที่นำเสนอกแพ็กเกจการทำศัลยกรรมราคาถูก โดยบริษัทเหล่านี้จะเป็นนายหน้าที่คอยหาลูกค้าให้แก่ศัลยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ หรือแพทย์เถื่อนที่ไม่ได้รับใบอนุญาต
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่สตาร์ , เดอะซัน
