บิณฑ์ มั่นใจ เสี่ยโป้ เป็นคนดี โต้ สันธนะ ลั่นถ้าโกหก ขอให้มีอันเป็นไป - เสี่ยโป้ แจงแล้ว

 

            บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อัดคลิปโต้ปมโดน สันธนะ แจ้งความจัดทำเสื้อชมพู ลั่นกล่าวหาแบบนี้สามารถฟ้องกลับได้ ด้าน เสี่ยโป้ แจงเรื่องปมเงินบริจาคแล้ว งงทำไมต้องทำเป็นเรื่องใหญ่

             จากกรณีที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล ได้ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สืบสวนพฤติการณ์การรับเงินบริจาคของบุคคลที่มีชื่อเสียงรายหนึ่ง กรณีแอบอ้างโครงการจัดทำเสื้อสีชมพูของโรงพยาบาลศิริราช อาจเป็นการแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวโดยมิชอบ

             อ่านข่าว : สันธนะ ร้องสอบดาราดัง อ้างรับบริจาคทำเสื้อชมพู รพ.ศิริราช เข้าบัญชีตัวเอง

             ล่าสุด วันที่ 10 ธันวาคม 2563 เฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ มีการไลฟ์ชี้แจงต่อเรื่องดังกล่าว พร้อมปฏิเสธสิ่งที่นายสันธนะกล่าวหา มีรายละเอียดดังนี้

             จริง ๆ แล้วเรื่องมันไม่มีอะไรเลย เรื่องที่นายสันธนะไปร้องเรียนเรื่องเสื้อมูลนิธิศิริราช ความจริงแล้วนายสันธนะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วไปทำหนังสือแบบนั้น นายสันธนะทำไม่ถูก สิ่งที่ถูกคือต้องไปคุยกับเสี่ยโป้ อานนท์ ก่อน

             แต่ถึงยังไง ตนจะเล่าความจริงทั้งหมด ถ้ามีการโกหก ขอให้มีอันเป็นไป เรื่องมีอยู่ว่า วันนั้นก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน เสี่ยโป้โทรศัพท์มาหาตน บอกว่า ผมมีเงินจะให้พี่ 20 ล้าน เผื่อใช้ในการทำโน่นทำนี่ แต่ตนบอกว่าไม่เป็นอะไร งั้นวันที่ 1 พฤศจิกายน มาเจอกันแล้วกัน พอถึงวันนั้นก็มีการทักทายกัน ไม่ได้พูดถึงเงิน 20 ล้านแต่อย่างใด

             ทั้งนี้ ในสายตาตน มองว่าเสี่ยโป้เป็นคนดีคนหนึ่ง เพราะตอนน้ำท่วมก็ให้เงิน 1 ล้านบาท ใครจะว่าเขายังไงแล้วแต่ ตนมองว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือชาวบ้านตลอด

             นอกจากนี้ มีคนใจบุญมอบเสื้อชมพู 500 ตัว ตนก็เอามาใส่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน แล้วก็แจกจ่ายให้คนไปด้วย ซึ่งในวันนั้นก็มีคนจากระนองเห็นตนใส่เสื้อชมพูพอดี จึงติดต่อเข้ามา บอกว่ามีเสื้ออยู่ 3 แสนตัว เดี๋ยวจะมอบให้บิณฑ์ 5,000-10,000 ตัวได้เลย แต่พอหาคนใจบุญได้ไหม เพราะทำเสื้อออกมายังไม่เคยจำหน่ายเลย ตอนนั้นติดช่วงที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 สวรรคตพอดี

             หลังจากนั้น เสี่ยโป้ก็ได้เจอกับนายนิรันดร คนที่ผลิตเสื้อสีชมพู มีตราสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 9 และมีการตกลงกันอย่างเรียบร้อย ไม่มีปัญหา เบื้องต้นเสี่ยโป้จะโอนเงินมาก่อน 2 ล้าน แต่พอถึงวันนั้นกลับไม่มีเงินเข้ามา อ้างว่าติดภารกิจ ขอเลื่อนไปอีกสัปดาห์หนึ่ง พอถึงเวลาก็ไม่ได้โอนอีก โทรศัพท์ไปหลายทีก็ไม่รับ แต่พอนาน ๆ เข้า ลูกน้องก็มารับแทน บอกว่าเสี่ยโป้ติดภารกิจอยู่

             ตนก็ได้คุยกับนายนิรันดร และเคลียร์กันเรื่องเสื้อ ขอโทษขอโพย ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ติดใจอะไร กระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์ นายสันธนะโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องเสื้อชมพู บอกว่าตนไปบังคับเสี่ยโป้ ซึ่งตนก็ถามกลับว่า ตนไปบังคับอะไร ต้องไปถามเสี่ยโป้ เพราะรับปากเอง ถ้าตอนนั้นเสี่ยโป้ไม่เอาก็บอกไม่เอา ตนจะได้ไม่ต้องไปนัดเจอนายนิรันดรให้ และมีรายละเอียดชัดเจนด้วยว่าโอนเข้ามูลนิธิ ไม่ได้โอนเข้ากระเป๋าใคร

             เสร็จแล้วเรื่องก็เงียบไป กระทั่งวันนี้มีข่าวออกมา ทำให้ตนเสียหาย เรื่องนี้เสี่ยโป้ต้องออกมา ไม่ใช่ให้นายสันธนะโผล่ไปยื่นเรื่อง ตนสามารถฟ้องกลับได้ เพราะทำให้ตนเสียหาย


ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์