โครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง มีกรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าของโครงการ และมีบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTS) เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถ ซึ่งภาครัฐไม่ต้องใช้เงินลงทุนใด ๆ ในการก่อสร้าง และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะกลายเป็นทรัพย์สินของกรุงเทพมหานคร และภาครัฐจะได้รับรายได้จากค่าตั๋วโดยสารทั้งหมด
รถไฟฟ้าสายสีทอง เกิดจากการสนับสนุนของภาคเอกชน 100% โดยเงินลงทุนก่อสร้างมาจากการขายพื้นที่โฆษณาของรถไฟฟ้าสายสีทองให้กับเอกชนล่วงหน้า ซึ่งทำให้รัฐได้รับผลประโยชน์เต็ม ๆ
รถไฟฟ้าสายสีทอง : ทางออกการเดินทาง
ของคนฝั่งธน
- มีการคาดการณ์ว่า การมีรถไฟฟ้าสายสีทอง จะช่วยลดจำนวนรถยนต์บนถนนคลองสาน ประมาณ 6,000 คันต่อชั่วโมง ทำให้ผู้คนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกสบาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในขณะที่คนนอกพื้นที่ สามารถเข้ามาใช้บริการ ทำงาน หรือใช้ชีวิตทุกวัน ๆ ในสถานที่ราชการ และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในพื้นที่บริเวณนี้ได้สะดวกขึ้น และทำให้บรรดาธุรกิจที่รายล้อมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ได้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อของรถ เรือ และระบบรางขนส่งมวลชน สร้างความสะดวกในการสัญจรได้ครบวงจร
- ในแต่ละวัน จะมีผู้คนเข้า-ออกเส้นทางนี้เกือบ 60,000 คน ตั้งแต่เดินทางไปใช้บริการโรงพยาบาลตากสิน กว่า 4,000 คน ไปโรงเรียน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่บริเวณนี้กว่า 30,000 คน และเดินทางผ่านพื้นที่นี้ เพื่อใช้บริการเรือข้ามฟากและเรือโดยสารจาก 20 ท่าเรือที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีทอง กว่า 25,000 คน
ซึ่งหลังจากที่รถไฟฟ้าสายสีทอง เชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ คนเหล่านี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับผู้คนที่ต้องเดินทางมาในพื้นที่ทุกวันเพื่อทำงาน หรือใช้บริการสถานที่ราชการและสถานที่ต่าง ๆ อาทิ โรงพยาบาลตากสิน โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ สำนักงานเขตคลองสาน สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ท่าเรือคลองสาน เป็นต้น จะได้รับประโยชน์ทันที ตั้งแต่การช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง
จุดเด่นของรถไฟฟ้าสายสีทอง
ที่สร้างบนความใส่ใจคุณภาพชีวิตของผู้คน
- รถไฟฟ้าสายสีทอง เป็นระบบขนส่งมวลชนแบบนำทางอัตโนมัติ Automated Guideway Transit (AGT) แบบไร้คนขับสายแรกของประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสาร 42,000 คน/วัน
- เสาตอม่อของรถไฟฟ้าสายสีทอง ถูกออกแบบให้ยกสูงขึ้นมากกว่ารถไฟฟ้าสายอื่นทั่ว ๆ ไปในเมือง ประมาณ 3-4 เมตร โดยเสาตอม่อของรถไฟฟ้าสายสีทอง มีความสูงประมาณ 15-19 เมตร ในขณะที่ เสาตอม่อรถไฟฟ้าสายอื่นทั่วไปในเมือง จะมีความสูงประมาณ 12-15 เมตร เพื่อไม่ให้บังตึกแถวบ้านเรือนประชาชน และช่วยลดผลกระทบทางเสียง
- ระบบล้อของรถไฟฟ้าสายสีทอง ไม่ใช่ล้อเหล็ก แต่เป็นล้อยางเหมือน ๆ กับล้อรถยนต์ทั่วไป ซึ่งจะช่วยลดเสียงดังจากการวิ่งของรถไฟฟ้า ลงได้ 40% หากเทียบกับระบบล้อเหล็ก โดยเสียงจากการวิ่งของล้อยางของรถไฟฟ้าสายสีทอง ก่อให้เกิดเสียงประมาณ 43.3-69.5 เดซิเบล (เอ) ในขณะที่เสียงจากการวิ่งของล้อเหล็กจะอยู่ที่ประมาณ 90-115 เดซิเบล (เอ)
- วงเลี้ยวของรถไฟฟ้าสายสีทองถือว่าดีมาก โดยมีรัศมีประมาณ 70 เมตร ในขณะที่รถไฟฟ้าทั่วไปมีรัศมีวงเลี้ยวปกติอยู่ที่ประมาณ 200 เมตร นั่นทำให้ช่วยลดจำนวนและขนาดของเสาตอม่อที่จะต้องสร้าง ณ บริเวณช่วงเลี้ยว ซึ่งส่งผลต่อการลดสิ่งกีดขวาง หรือสิ่งบดบังวิสัยทัศน์ของผู้ใช้รถใช้ถนนและคนเดินทางเท้า ทั้งนี้ เส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีทองมีจุดหักเลี้ยวอยู่หลายตำแหน่ง ระบบล้อนี้จะช่วยให้สามารถชะลอความเร็วรถเมื่อเข้าโค้งช่วงต่าง ๆ ได้ดี