เน็ตไอดอลมาเลเซีย เปลี่ยนงานศพเพื่อนเป็นคอนเทนต์
อัดคลิปขณะช่วยงานศพเพื่อน เจอถล่มหนัก ถามหาความเหมาะสม เจ้าตัวเมินดราม่า
ลั่นคงไปคุมใจใครไม่ได้
ภาพจาก Instagram hafizmahamad
วันที่ 29 ธันวาคม 2563 เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ มีรายงานกรณีของเน็ตไอดอลชาวมาเลเซียรายหนึ่ง
ซึ่งกำลังตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์
ภายหลังจากที่เขาเปลี่ยนเอาช่วงเวลาขณะที่ตัวเองไปร่วมงานศพของเพื่อนรัก
ให้กลายมาเป็นคอนเทนต์บนอินสตาแกรม และยังไม่สนใจว่าใครจะมองตนยังไง
หลังผู้คนพากันตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของคลิปดังกล่าว
โดยเน็ตไอดอลรายนี้คือ ฮาฟิซ มาฮามัด ซึ่งมีจำนวนผู้ติดตามบนอินสตาแกรมกว่า 1.1 ล้านคน ไม่นานมานี้เขาเพิ่งเผชิญช่วงเวลาแสนเศร้า เมื่อเพื่อนรักของเขาได้เสียชีวิตลงจากโรคหลอดเลือดสมอง ฮาฟิซจึงตั้งใจที่จะไปช่วยครอบครัวของเพื่อนในงานศพ
โดยเน็ตไอดอลรายนี้คือ ฮาฟิซ มาฮามัด ซึ่งมีจำนวนผู้ติดตามบนอินสตาแกรมกว่า 1.1 ล้านคน ไม่นานมานี้เขาเพิ่งเผชิญช่วงเวลาแสนเศร้า เมื่อเพื่อนรักของเขาได้เสียชีวิตลงจากโรคหลอดเลือดสมอง ฮาฟิซจึงตั้งใจที่จะไปช่วยครอบครัวของเพื่อนในงานศพ
อย่างไรก็ตาม จากคลิปยาว 3.38 นาทีของเขา เผยให้เห็นฮาฟิซที่สวมชุดดำในแบบแฟชั่นเล็กน้อย สวมแว่นตา กำลังเดินอยู่ในสนามบิน ก่อนที่ภาพจะตัดมาขณะที่เขาร้องไห้อยู่ข้างศพของเพื่อน จากนั้นเขายังได้ช่วยเคลื่อนย้ายศพขึ้นรถและขับพาไปยังสถานที่จัดพิธี โดยที่ฮาฟิซยังร่วมพิธีสวด และเป็นคนช่วยนำร่างของเพื่อนลงหลุมอีกด้วย
ภาพจาก Instagram hafizmahamad
ขณะเดียวกัน มีผู้คนที่ตั้งคำถามด้วยว่าการถ่ายคลิปของผู้เสียชีวิตในงานศพแบบนี้ ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วหรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายมาทำเป็นคอนเทนต์ลงโซเชียลเช่นนี้
ทั้งนี้ ในตอนแรกที่มีกระแสต่อว่า ฮาฟิซก็เลือกที่จะอยู่เฉยไม่โต้ตอบอะไร จนกระทั่งมีแรปเปอร์ชื่อดังเข้ามาแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าว ทำให้เขาเงียบต่อไปไม่ไหว ฮาฟิซจึงได้อธิบายผ่านไอจีสตอรี่ของเขา บอกว่า
"มีแค่พระเจ้าที่รู้ถึงเจตนาของผม ผมไม่ต้องการโทษใครสำหรับความเห็นในเรื่องที่เกิดขึ้น มันเป็นมุมมองของพวกคุณ บางคนได้รับประโยชน์จากโพสต์ของผม บางคนที่เห็นคลิปผมบอกว่าผมไร้สาระ ซึ่งผมก็น้อมรับทุกความเห็นไว้ เพราะผมคงไม่สามารถไปควบคุณจิตใจพวกคุณได้หรอก"
ภาพจาก Instagram hafizmahamad
ภาพจาก Instagram hafizmahamad
ภาพจาก Instagram hafizmahamad
ภาพจาก Instagram hafizmahamad
ภาพจาก Instagram hafizmahamad
ขอบคุณข้อมูลจาก เวิลด์ออฟบัซ