นักวอลเลย์แฝด ขวัญใจชาวเกาหลี ถูกแบนไม่มีกำหนด - ปลดพ้นทีมชาติ ปมบูลลี่เพื่อนเมื่อ 10 ปีก่อน

        อย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมท่วมท้นกลับถูกแทนที่ด้วยความโกรธแค้น เมื่ออดีตเพื่อนร่วมทีมที่ตกเป็นเหยื่อของพวกเธอได้ออกมาเปิดโปง แฉให้โลกได้รู้ว่าที่ผ่านมาคู่แฝดเคยทำเรื่องโหดร้ายอะไรไว้กับพวกเธอบ้าง

จุดเริ่มต้นของเรื่องราว

        ข้อมูลจาก allkpop เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้อีดายองเคยตกเป็นข่าวมาแล้วหลายครั้งในช่วงปี 2563 หลังจากที่เธอกล่าวหาเพื่อนร่วมทีมอย่าง คิมยอนคยอง ว่าเคยกลั่นแกล้งเธอ


        สำหรับ คิมยอนคยอง หรือที่ชาวไทยเรียกติดปากว่า กัปตันคิม นับเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลระดับท็อปและเป็นขวัญใจมหาชน แต่แล้วอยู่ ๆ แฟนกีฬาเกาหลีใต้ก็เริ่มสังเกตเห็นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง คิมยอนคยอง กับ อีดายอง จากการเล่นในสนาม และยังพบว่าอีดายองเคยโพสต์โซเชียลมีเดีย เหน็บแนมถึงรุ่นพี่รายหนึ่งว่า "แค่เพราะเธออายุมากกว่า เลยคิดว่าจะปฏิบัติกับคนอายุน้อยกว่ายังไงก็ได้เหรอ"

        นอกจากนี้อีดายองยังโพสต์ข้อความอีกว่า "คนที่บูลลี่คนอื่นอาจจะสนุกนะ แต่คนที่ถูกบูลลี่นี่สิที่อยากตาย"

สถานการณ์พลิก ความเห็นใจกลายเป็นต่อต้าน

        อย่างไรก็ตาม ข้อความของอีดายองที่โพสต์ถึงการถูกบูลลี่กลับเป็นเหมือนสิ่งกระตุ้นให้คนที่เคยตกเป็นเหยื่อบูลลี่ของเธอ ตัดสินใจออกมาโพสต์แฉพฤติกรรมของคู่แฝด ที่เคยเป็นหัวโจกบูลลี่คนอื่นสารพัด เพื่อเรียกร้องให้ทั้งคู่ออกมาขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

        "แล้วตอนที่พวกเธอบูลลี่เราตอน ม.ต้น ล่ะ พวกเธอคงเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าตอนที่พวกเราถูกบูลลี่ ความรู้สึกมันเป็นยังไง" อดีตเพื่อนร่วมทีมของคู่แฝด ระบุ

        พร้อมกันนั้นอดีตเพื่อนร่วมทีมของคู่แฝด อีแจยอง และ อีดายอง ยังได้ร่ายยาวถึงพฤติกรรมความรุนแรงที่คู่แฝดกระทำต่อเพื่อนร่วมทีม สมัยที่อยู่ในทีมวอลเลย์บอลของโรงเรียนมัธยมต้นกึนยอง ในเมืองจอนจู โดยลิสต์ออกมาเป็น 21 ข้อด้วยกัน ซึ่งสามารถสรุปได้บางส่วน ดังนี้

        - เคยตบเพื่อนร่วมทีมจนแว่นกระเด็น เพราะส่งเสียงเชียร์ไม่ดังพอ
        - ใช้มีดข่มขู่เพื่อนร่วมทีม ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของตัวเองในตอนกลางคืน
        - คู่แฝดมักทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมทีมเสมอ
        - เคยไถเงินเพื่อนเพื่อนำไปซื้อขนม
        - สั่งให้เพื่อนอยู่ห่าง ๆ เพราะตัวเหม็นและสกปรก
        - เคยด่าทอถึงพ่อแม่ของเพื่อนร่วมทีม

        ทั้งนี้ อดีตเพื่อนร่วมทีมรายดังกล่าวชี้ว่า คนที่ตกเป็นเหยื่อบูลลี่ของคู่แฝดมีไม่ต่ำกว่า 4 คน ในขณะที่สุดท้ายคู่แฝดก็แค่ย้ายโรงเรียนจากไปเฉย ๆ โดยไม่เคยเอ่ยคำขอโทษ ซึ่งแม้ว่าตอนนี้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปหลายปี แต่เหยื่ออย่างพวกเธอยังคงทรมานจากบาดแผลในอดีต และยังต้องทนทุกข์เมื่อเห็นคนที่เคยบูลลี่พวกเธอ ยังคงปรากฏตัวตามโทรทัศน์ด้วยรอยยิ้ม
 
คำขอโทษเมื่อสายไป

        หลังโพสต์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสร้อนที่ถูกพูดถึงกันสนั่นสังคมออนไลน์ ในที่สุด อีแจยอง ก็ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษผ่านโซเชียลมีเดียของเธอ ระบุว่า "ฉันทำร้ายผู้คนมากมายด้วยพฤติกรรมอันขาดความรับผิดชอบของฉันในอดีต ฉันขอโทษจากใจต่อผู้คนที่เผชิญช่วงเวลาที่เจ็บปวดจากกระกระทำแย่ ๆ ของฉันที่โรงเรียน"

        ขณะที่ อีดายอง ก็ได้โพสต์ขอโทษอดีตเพื่อนร่วมทีมสำหรับความทรงจำแย่ ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำว่าเธออยากจะไปขอโทษอดีตเพื่อนร่วมทีมเหล่านั้นด้วยตัวเอง หากพวกเธออนุญาต

        อย่างไรก็ตาม แม้คู่แฝดจะออกมาขอโทษ แต่พฤติกรรมในอดีตของพวกเธอกลับสร้างความไม่พอใจและไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม โดยพบว่ามีผู้คนมากมายเข้าไปถล่มบอร์ดแสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์ของสมาคมวอลเลย์บอลเกาหลี (Korean Volleyball Association) โดยขอให้ทางสมาคมขับไล่นักกีฬาทั้งคู่ออกจากสมาคม มิเช่นนั้นจะไม่ติดตามการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลอีก

ลงดาบสั่งแบน

        ทั้งนี้ พบว่าในวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 กุมภาพันธ์) ทางสโมสรต้นสังกัดของพวกเธอได้ออกแถลงการณ์ ชี้ว่าการบูลลี่กันในหมู่นักกีฬานั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ไม่ว่าจะสถานการณ์ใด ๆ ก็ตาม ดังนั้นทางสโมสรจึงตัดสินใจแบนนักกีฬาทั้ง 2 รายนี้อย่างไม่มีกำหนด

        ขณะเดียวกันทางสมาคมวอลเลย์บอลเกาหลีก็ได้สั่งลงดาบ ด้วยการแบนคู่แฝดดังกล่าวจากทีมชาติเกาหลีใต้เช่นกัน โดยอ้างถึงกฎที่ระบุไว้ว่า หากนักกีฬาหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคมคนใดที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในสังคม จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศในการแข่งขันระดับนานาชาติได้

        ขณะเดียวกันสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ยังได้พร้อมใจกันถอดรายการที่คู่แฝดเคยปรากฏตัว หรือมีตารางถ่ายทอดหลังจากนี้ รวมถึงถอดโฆษณาที่มีพวกเธอร่วมแสดงด้วย

        ทั้งนี้ แน่นอนว่าการสั่งแบนคู่แฝด อีแจยอง และ อีดายอง ย่อมส่งผลกระทบถึงการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของทั้งสมาคมและทีมชาติเกาหลีใต้ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเธอเป็นหนึ่งในนักกีฬาตัวหลักของทีม แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเด็ดขาดและเสียงสะท้อนของสังคมที่มีต่อเหตุบูลลี่ที่เกิดขึ้น

        อนึ่ง เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ใช่การบูลลี่ครั้งเดียวที่เกิดขึ้นในวงการกีฬาเกาหลีใต้ โดย ชองยองชอล ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาการกีฬา ของมหาวิทยาลัยโซกัง ชี้ว่า เคสของคู่แฝดสะท้อนให้เห็นภาพรวมพฤติกรรมรุนแรงหลาย ๆ อย่างภายในวงการกีฬาของเกาหลีใต้ โดยพฤติกรรมที่มิชอบของนักกีฬาตัวหลักหรือโค้ชมักถูกมองข้ามไป หากพวกเขาทำผลงานจนคว้าเหรียญในการแข่งขันโอลิมปิกและเวทีนานาชาติอื่น ๆ ได้