หนุ่มวัย 25 เปิดเส้นทางชีวิต จากอดีตเด็กไร้บ้านจน ๆ สู่แรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ พลิกชีวิตเป็นเศรษฐีได้ใน 2 ปี ตอนนี้มีครบทั้งรถหรู ชีวิตที่สุขสบาย ยังหวังซื้อบ้านใหม่ให้แม่
หลายต่อหลายครั้งที่ความสำเร็จไม่ได้มีจุดเริ่มต้นจากพื้นฐานชีวิตที่ดีพร้อม แต่อาจเกิดขึ้นจากความลำบากในวัยเยาว์ ที่กลายมาเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ให้เดินไปข้างหน้า ดังเช่นเรื่องราวชีวิตของ แบรนเดน คอนดี มหาเศรษฐีหนุ่มวัย 25 ปี ที่ใช้เวลาไม่นานนักในการสร้างเนื้อสร้างตัว พลิกชีวิตตัวเองจากอดีตคนไร้บ้านจน ๆ ให้กลายมาเป็นซีอีโอของบริษัท ซึ่งช่วยให้เขาสามารถเลี้ยงดูคนสำคัญในชีวิตได้ดังที่ต้องการ
โดยเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยถึงเส้นทางชีวิตของแบรนเดนที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เศรษฐีหนุ่มยอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาเคยอยู่ในฐานะคนที่ไม่มีทั้งเงินและบ้าน แม่ของเขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานอย่างหนักวันละหลายชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถหาเงินมาจ่ายบิลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และทำให้ลูกชายอย่างเขายังมีอาหารตกถึงท้อง
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเขากับครอบครัวมาถึงจุดตกอับ ในวันที่อยู่ ๆ แม่ก็ถูกไล่ออกจากงาน และยังถูกขอให้ย้ายออกจากบ้านที่อาศัยอยู่ภายใน 12 ชั่วโมง
มันเป็นความโหดร้ายที่ครอบครัวไม่อยากให้เกิด แต่ก็จำต้องเผชิญหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม่ของแบรนเดนต้องพาลูกชายมาพักอาศัยอยู่นอกบ้าน อาศัยความใจดีของเพื่อนฝูงเพื่อให้มีหลังคาคุ้มหัวตอนนอน พาลูก ๆ ไปขอพึงพิงเพื่อนคนต่าง ๆ ย้ายที่นอนก็หลายครั้ง การใช้ห้องน้ำสาธารณะในการชำระล้างร่างกายกลายเป็นเรื่องปกติ หลายครั้งที่พวกเขาถูกขับไล่ออกจากที่อาศัย
ความลำบากในวัยเด็กกลายมาเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้แบรนเดนแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าแก่ครอบครัว เขาเริ่มทำงานครั้งแรกตั้งแต่อายุ 16 ปี ด้วยการเป็นเด็กล้างจาน จากนั้นก็เปลี่ยนงานมาอีกหลายครั้ง จนอายุ 21 ปี เขาก็กลายมาเป็นคนทำความสะอาดเรือยอชต์ของเหล่าคนรวยและเซเลบต่าง ๆ
สิ่งที่ได้พบเห็นระหว่างทำงานดังกล่าว มอบแรงบันดาลใจแก่เขาอย่างมาก เขาหวังว่าจะสร้างสิ่งต่าง ๆ ที่คนอื่น ๆ มีให้แก่ตัวเองบ้าง ซึ่งใครจะรู้ว่าในอีกไม่กี่ปีต่อมา เขาจะสามารถทำได้จริง ๆ
ในตอนนี้ แบรนเดนกลายมาเป็นผู้ประกอบการที่ร่ำรวย มีทั้งรถแลมโบกินี่และเสื้อผ้าแบรนด์เนมเป็นของตัวเอง เขาสามารถใช้วันหยุดในแบบหรูหราสุขสบายได้ตามต้องการ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มต้นสร้างบริษัททำการตลาดบนโซเชียลมีเดียอย่าง Branden Condy LLC. ที่เขาเองเป็นซีอีโอ
เขายอมรับว่าตัวเองได้รับไอเดียต่าง ๆ จากการอ่านหนังสือ นอกจากนั้นต้องขอบคุณความกล้าของเขาที่ตัดสินใจลุยเมื่อพบเป้าหมาย เขาติดต่อไปหานักลงทุนและผู้ประกอบการหลาย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จ เพื่อขอเรียนรู้จากคนเหล่านั้น จนได้พบคนใจดีที่พร้อมจะถ่ายทอดเคล็ดลับความสำเร็จให้ และยังเป็นช่องทางที่ทำให้เขาได้พบกับพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจด้วย
"ผมเริ่มพูดคุยกับใครหลาย ๆ คนในรัฐแอริโซนา ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจด้านการตลาดบนอินสตาแกรม จากนั้นพวกเขาก็เชิญผมไปหา เราได้พบกันและผมก็ชอบในทุก ๆ สิ่งที่พวกเขาทำ ผมได้เห็นทั้งรถ เงิน ความสำเร็จ และอยากเป็นแบบพวกเขาบ้าง" แบรนเดน เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจของเขา
"ก่อนจากมา ผมบอกพวกเขาว่าผมจะกลับไปใหม่ในอีก 30 วัน เพราะผมมีแผนจะเริ่มธุรกิจของตัวเองบ้าง แน่นอนว่าพวกเขาไม่เชื่อผม กระทั่งผมลาออกจากงานที่ทำอยู่ และขับรถข้ามประเทศไปเริ่มบริษัทด้านการตลาดกับพวกเขา" แบรนเดน เผย และชี้ว่าคนเหล่านั้นได้กลายมาเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของเขาในช่วงเวลาหนึ่ง
แบรนเดนเผยว่า ตอนที่เขายังหนุ่มกว่านี้ เขาเก็บเงินทั้งหมดที่หามาได้ และเริ่มทำงานเพื่อเพิ่มยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมของเขาเอง ซึ่งเขาก็ทำได้สำเร็จจนมีผู้ติดตามแตะหลักแสน อย่างไรก็ตาม การเป็นอินฟลูเอนเซอร์เองก็อย่างหนึ่ง แต่การทำบริษัทการตลาดเพื่อเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ และเซเลบต่าง ๆ ก็ยังเป็นงานที่เขาทุ่มเท และนำมาซึ่งรายได้อันงดงาม
ในตอนนี้ แบรนเดนทำหน้าที่เป็นทั้งอินฟลูเอนเซอร์และผู้ประกอบการที่ประสำความสำเร็จ อินสตาแกรมของเขามีตัวเลขผู้ติดตามมากกว่า 238,000 คน และทำกำไรแก่เขากว่า 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 746,000 บาท ทุกเดือน
ทั้งนี้ เศรษฐีหนุ่มชี้ว่า ในขณะที่อินฟลูเอนเซอร์คนอื่น ๆ อาจจะเข้ามาสู่จุดนี้เพื่อมองหาเงินและการยอมรับ ซึ่งหากล้มเหลวก็ยังมีครอบครัวและเพื่อน ๆ คอยหนุนหลัง แต่ตัวเขานั้นต่างออกไป สิ่งที่ผลักดันเขาก็คือความกลัวที่จะเห็นอนาคต กลับไปสู่จุดเดียวกับอดีตที่จากมา
ในตอนนี้นอกจากแสวงหาอนาคตที่ไม่ต้องยากลำบากแก่ตัวเอง เขายังเตรียมที่จะซื้อบ้านหลังใหม่ให้แก่แม่ เพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับทุก ๆ อย่างที่เธอเคยทำเพื่อลูกอย่างเขา "แม่สมควรได้รับมันครับ ผมรู้สึกขอบคุณแม่มาก ๆ เลย" แบรนเดน กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล, ยาฮู ไฟแนนซ์
หลายต่อหลายครั้งที่ความสำเร็จไม่ได้มีจุดเริ่มต้นจากพื้นฐานชีวิตที่ดีพร้อม แต่อาจเกิดขึ้นจากความลำบากในวัยเยาว์ ที่กลายมาเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ให้เดินไปข้างหน้า ดังเช่นเรื่องราวชีวิตของ แบรนเดน คอนดี มหาเศรษฐีหนุ่มวัย 25 ปี ที่ใช้เวลาไม่นานนักในการสร้างเนื้อสร้างตัว พลิกชีวิตตัวเองจากอดีตคนไร้บ้านจน ๆ ให้กลายมาเป็นซีอีโอของบริษัท ซึ่งช่วยให้เขาสามารถเลี้ยงดูคนสำคัญในชีวิตได้ดังที่ต้องการ
โดยเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยถึงเส้นทางชีวิตของแบรนเดนที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เศรษฐีหนุ่มยอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาเคยอยู่ในฐานะคนที่ไม่มีทั้งเงินและบ้าน แม่ของเขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานอย่างหนักวันละหลายชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถหาเงินมาจ่ายบิลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และทำให้ลูกชายอย่างเขายังมีอาหารตกถึงท้อง
อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเขากับครอบครัวมาถึงจุดตกอับ ในวันที่อยู่ ๆ แม่ก็ถูกไล่ออกจากงาน และยังถูกขอให้ย้ายออกจากบ้านที่อาศัยอยู่ภายใน 12 ชั่วโมง
มันเป็นความโหดร้ายที่ครอบครัวไม่อยากให้เกิด แต่ก็จำต้องเผชิญหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม่ของแบรนเดนต้องพาลูกชายมาพักอาศัยอยู่นอกบ้าน อาศัยความใจดีของเพื่อนฝูงเพื่อให้มีหลังคาคุ้มหัวตอนนอน พาลูก ๆ ไปขอพึงพิงเพื่อนคนต่าง ๆ ย้ายที่นอนก็หลายครั้ง การใช้ห้องน้ำสาธารณะในการชำระล้างร่างกายกลายเป็นเรื่องปกติ หลายครั้งที่พวกเขาถูกขับไล่ออกจากที่อาศัย
ความลำบากในวัยเด็กกลายมาเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้แบรนเดนแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าแก่ครอบครัว เขาเริ่มทำงานครั้งแรกตั้งแต่อายุ 16 ปี ด้วยการเป็นเด็กล้างจาน จากนั้นก็เปลี่ยนงานมาอีกหลายครั้ง จนอายุ 21 ปี เขาก็กลายมาเป็นคนทำความสะอาดเรือยอชต์ของเหล่าคนรวยและเซเลบต่าง ๆ
สิ่งที่ได้พบเห็นระหว่างทำงานดังกล่าว มอบแรงบันดาลใจแก่เขาอย่างมาก เขาหวังว่าจะสร้างสิ่งต่าง ๆ ที่คนอื่น ๆ มีให้แก่ตัวเองบ้าง ซึ่งใครจะรู้ว่าในอีกไม่กี่ปีต่อมา เขาจะสามารถทำได้จริง ๆ
ในตอนนี้ แบรนเดนกลายมาเป็นผู้ประกอบการที่ร่ำรวย มีทั้งรถแลมโบกินี่และเสื้อผ้าแบรนด์เนมเป็นของตัวเอง เขาสามารถใช้วันหยุดในแบบหรูหราสุขสบายได้ตามต้องการ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มต้นสร้างบริษัททำการตลาดบนโซเชียลมีเดียอย่าง Branden Condy LLC. ที่เขาเองเป็นซีอีโอ
เขายอมรับว่าตัวเองได้รับไอเดียต่าง ๆ จากการอ่านหนังสือ นอกจากนั้นต้องขอบคุณความกล้าของเขาที่ตัดสินใจลุยเมื่อพบเป้าหมาย เขาติดต่อไปหานักลงทุนและผู้ประกอบการหลาย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จ เพื่อขอเรียนรู้จากคนเหล่านั้น จนได้พบคนใจดีที่พร้อมจะถ่ายทอดเคล็ดลับความสำเร็จให้ และยังเป็นช่องทางที่ทำให้เขาได้พบกับพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจด้วย
"ผมเริ่มพูดคุยกับใครหลาย ๆ คนในรัฐแอริโซนา ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจด้านการตลาดบนอินสตาแกรม จากนั้นพวกเขาก็เชิญผมไปหา เราได้พบกันและผมก็ชอบในทุก ๆ สิ่งที่พวกเขาทำ ผมได้เห็นทั้งรถ เงิน ความสำเร็จ และอยากเป็นแบบพวกเขาบ้าง" แบรนเดน เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจของเขา
"ก่อนจากมา ผมบอกพวกเขาว่าผมจะกลับไปใหม่ในอีก 30 วัน เพราะผมมีแผนจะเริ่มธุรกิจของตัวเองบ้าง แน่นอนว่าพวกเขาไม่เชื่อผม กระทั่งผมลาออกจากงานที่ทำอยู่ และขับรถข้ามประเทศไปเริ่มบริษัทด้านการตลาดกับพวกเขา" แบรนเดน เผย และชี้ว่าคนเหล่านั้นได้กลายมาเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของเขาในช่วงเวลาหนึ่ง
แบรนเดนเผยว่า ตอนที่เขายังหนุ่มกว่านี้ เขาเก็บเงินทั้งหมดที่หามาได้ และเริ่มทำงานเพื่อเพิ่มยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมของเขาเอง ซึ่งเขาก็ทำได้สำเร็จจนมีผู้ติดตามแตะหลักแสน อย่างไรก็ตาม การเป็นอินฟลูเอนเซอร์เองก็อย่างหนึ่ง แต่การทำบริษัทการตลาดเพื่อเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ และเซเลบต่าง ๆ ก็ยังเป็นงานที่เขาทุ่มเท และนำมาซึ่งรายได้อันงดงาม
ในตอนนี้ แบรนเดนทำหน้าที่เป็นทั้งอินฟลูเอนเซอร์และผู้ประกอบการที่ประสำความสำเร็จ อินสตาแกรมของเขามีตัวเลขผู้ติดตามมากกว่า 238,000 คน และทำกำไรแก่เขากว่า 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 746,000 บาท ทุกเดือน
ทั้งนี้ เศรษฐีหนุ่มชี้ว่า ในขณะที่อินฟลูเอนเซอร์คนอื่น ๆ อาจจะเข้ามาสู่จุดนี้เพื่อมองหาเงินและการยอมรับ ซึ่งหากล้มเหลวก็ยังมีครอบครัวและเพื่อน ๆ คอยหนุนหลัง แต่ตัวเขานั้นต่างออกไป สิ่งที่ผลักดันเขาก็คือความกลัวที่จะเห็นอนาคต กลับไปสู่จุดเดียวกับอดีตที่จากมา
ในตอนนี้นอกจากแสวงหาอนาคตที่ไม่ต้องยากลำบากแก่ตัวเอง เขายังเตรียมที่จะซื้อบ้านหลังใหม่ให้แก่แม่ เพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับทุก ๆ อย่างที่เธอเคยทำเพื่อลูกอย่างเขา "แม่สมควรได้รับมันครับ ผมรู้สึกขอบคุณแม่มาก ๆ เลย" แบรนเดน กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล, ยาฮู ไฟแนนซ์
