ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แจมกลางคลับเฮ้าส์ในชื่อ Tony Woodsome ออกมาพูดถึงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจ และเปิดให้ประชาชนตอบคำถาม พร้อมเผย รู้สึกยังไงที่ พล.อ. ประยุทธ์ เคลมผลงาน 30 บาทรักษาทุกโรค
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ในโซเชียลมีเดีย Clubhouse ได้สร้างความฮือฮาขึ้นสุด ๆ เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาในห้อง "ไทยรักไทย ใครเกิดทันมากองกันตรงนี้" พร้อมด้วยอดีตรัฐมนตรีจากรัฐบาลไทยรักไทย ทั้งนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งพบว่า 1 ห้องในคลับเฮาส์ สามารถรองรับได้เพียง 8,000 คน และห้องก็เต็มอย่างรวดเร็ว แต่คนในห้องก็ได้มีการแตกห้องและถ่ายทอดเสียงออกไปอีกประมาณ 5 ห้อง จึงนับได้ว่า คนที่รอฟังนายทักษิณจนดึกดื่นเที่ยงคืน มีประมาณไม่ต่ำกว่า 50,000 คน
ล่าสุด เฟซบุ๊ก Political ideology ได้สรุปส่วนหนึ่งที่นายทักษิณ ชินวัตร ออกมาพูดในคลับเฮ้าส์ ดังนี้
ทักษิณมองว่า รัฐธรรมนูญก็คือเศรษฐกิจ การจะทำให้เศรษฐกิจดีได้นั้น รัฐธรรมนูญก็ต้องดีด้วย พร้อมกับยกย่องรัฐธรรมนูญปี 2540 ว่าเป็นฉบับประชาชน และเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด
ภาพจาก PKittiwongsakul / Shutterstock.com
นโยบายของพรรคไทยรักไทย ให้ความสำคัญกับงบขาดดุลและเกินดุลเป็นอย่างมาก
ทักษิณยอมรับว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจเรื่อง OTOP มาจากโครงการของญี่ปุ่น ที่แต่ละที่ก็จะมีของดีประจำภูมิภาค เขาต้องการให้คนไทยมีผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่สามารถแข่งขันได้ ถือเป็น Creative Economy
ทักษิณนำหวยใต้ดินขึ้นมาบนดิน และยอมรับเลยว่านั่นเป็น "เงินโง่ ๆ" และต้องการใช้เงินโง่ ๆ นั้น ทำให้เด็กไทยฉลาด นั่นทำให้เขานำเงินนั้นไปสนับสนุนการศึกษาของเด็กไทยให้ไปเรียนเมืองนอก กลายเป็นโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน
นโยบายแจก Tablet ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็เพื่อที่จะให้เด็กทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้เท่าเทียมมัน ส่งเสริมนวัตกรรม ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เพราะเขามองว่า ไม่ว่าจะเด็กที่เกิดที่เกิดในไทย หรือเด็กที่เกิดในนิวยอร์ก ทุกคนต่างมีสมองเท่ากัน
แนวคิดของพรรคไทยรักไทย คือจาก "ล่างขึ้นบน" คิดว่าประชาชนต้องการอะไร อยากมีงาน อยากมีเงิน อยากมีบ้าน จึงกลายมาเป็นโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค, OTOP, บ้านเอื้ออาทร
ภาพจาก PKittiwongsakul / Shutterstock.com
หลังจากที่พูดแล้ว นายทักษิณได้เปิดโอกาสให้มีการตอบคำถามขึ้น ซึ่งมีคนถามถึงกรณีกรือเซะ-ตากใบ ที่มีคนเสียชีวิตกว่า 85 คน โดยที่ทักษิณยอมรับว่า เขาเองจำเหตุการณ์ไม่ได้มากนัก เพราะเหตุการณ์มันผ่านมานานแล้ว เขาจำได้เพียงว่าเขาไม่ได้เข้าไปคุมเหตุการณ์นี้โดยตรง เพียงแค่ได้รับรายงานเฉย ๆ และรู้สึกเสียใจอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทักษิณรู้สึกอย่างไรที่เวลาพูดชื่อทักษิณ และ พล.อ. ประยุทธ์ ไม่พอใจ - รู้สึกอย่างไรที่โดนเคลมผลงาน
มีคนเข้ามาถามว่า ทักษิณรู้สึกอย่างไรที่เวลาพูดชื่อทักษิณแล้ว พล.อ. ประยุทธ์ ไม่พอใจ ซึ่งทักษิณก็บอกว่า ส่วนตัวเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม พล.อ. ประยุทธ์ ไม่พอใจเวลาพูดชื่อทักษิณ ต้องไปถาม พล.อ. ประยุทธ์ เอง จากนั้นก็หัวเราะขำขันนิดหน่อย
ส่วนเรื่องที่มีการเคลมผลงาน 30 บาทนั้น ทักษิณบอกว่า ส่วนตัวเขาไม่รู้สึกอะไร และเปรียบว่า นโยบายไหนดี ก็จะเหมือนคนมีหลายพ่อ แต่ถ้านโยบายไหนไม่ดี ก็จะเปรียบเหมือนลูกกำพร้า หากนโยบาย 30 บาทมันดีจริง ๆ จะมีคนมาเคลมก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ภาพจาก JLStock / Shutterstock.com
