อธิบดีกรมราชทัณฑ์มาเอง ! ไขข้อข้องใจ ทำไมแกนนำ กปปส. ติดคุกแล้วไม่ตัดผม ชี้ เวลากระชั้นชิด ต้องตรวจโรค - เข้านอน สุดท้ายได้ปล่อยตัวก่อน
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่า 8 แกนนำ กปปส. ที่จำคุกหลังศาลตัดสิน ทำไมจึงไม่ถูกตัดผม และเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่นั้น
นายอายุตม์ เผยว่า กรณีการไม่ตัดผมแกนนำกลุ่ม กปปส.นั้น โดยแนวทางปฏิบัติทั่วไป เมื่อบุคคลใดต้องโทษเข้ามาในเรือนจำและทัณฑสถานจะได้รับการปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอน คือ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจค้นตัวตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมดำเนินการตรวจคัดกรองโรคโดยแพทย์ และเจ้าหน้าที่พยาบาล ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่เข้าอบรบชี้แจงระเบียบ การปฏิบัติตน รวมถึงการใช้ชีวิตในเรือนจำ
นายอายุตม์ เผยว่า กรณีการไม่ตัดผมแกนนำกลุ่ม กปปส.นั้น โดยแนวทางปฏิบัติทั่วไป เมื่อบุคคลใดต้องโทษเข้ามาในเรือนจำและทัณฑสถานจะได้รับการปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอน คือ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจค้นตัวตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมดำเนินการตรวจคัดกรองโรคโดยแพทย์ และเจ้าหน้าที่พยาบาล ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่เข้าอบรบชี้แจงระเบียบ การปฏิบัติตน รวมถึงการใช้ชีวิตในเรือนจำ
ในกรณีของ นายสุเทพ พร้อมกับพวก เรือนจำฯ ก็ได้ดำเนินการตามระเบียบ และขั้นตอนตามที่กล่าวข้างต้นอย่างไม่มีข้อยกเว้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้รับตัว นายสุเทพ พร้อมกับพวก คือ เวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 และเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจค้นตัว คัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แล้วเสร็จ ในเวลาประมาณ 22.45 น. ซึ่งสมควรแก่เวลาที่ต้องแยกขัง
ต่อมา เวลาประมาณ 08.30 น. นายสุเทพ พร้อมพวก ได้ออกมาพบทนายความจนถึงเวลา 10.30 น. ทั้งหมดได้พบแพทย์เพื่อตรวจอาการตามที่แจ้งไว้จนแล้วเสร็จประมาณ 14.45 น. โดยเวลาดังกล่าวเป็นเวลากระชั้นชิดกับเวลาที่ผู้ต้องขังต้องเตรียมตัวขึ้นเรือนนอน จึงยังไม่ได้ดำเนินการตัดผมของนายสุเทพ พร้อมกับพวก

ภาพจาก สำนักข่าวไทย
กระทั่งวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 08.30 น. ทางเรือนจำได้รับการประสานงานว่าให้นำตัวนายสุเทพ พร้อมพวกไปยังที่ทำการพัศดีเวร เพื่อรอการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นเวลาต่อเนื่องจึงเป็นเหตุที่ นายสุเทพ พร้อมกับพวก ยังไม่ได้รับการตัดผมตามระเบียบกรมราชทัณฑ์
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า ตนขอให้สังคมและประชาชนทุกฝ่ายเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของกรมราชทัณฑ์ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน และเป็นมาตรฐาน ตามหลักสิทธิมนุษยชน และไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง โดยยึดถือกฎ ระเบียบ และวินัยต่าง ๆ ที่ข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทุกคนพึงยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า ตนขอให้สังคมและประชาชนทุกฝ่ายเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของกรมราชทัณฑ์ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน และเป็นมาตรฐาน ตามหลักสิทธิมนุษยชน และไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง โดยยึดถือกฎ ระเบียบ และวินัยต่าง ๆ ที่ข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทุกคนพึงยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
ขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ