หลอกคนแก่ลงคอ ! ใช้แบงก์พันปลอมหลอกซื้อของร้านชำ ฟาดเงินทอน ไป 970

 

            หลอกคนแก่ลงคอ ! ใช้แบงก์พันปลอมหลอกซื้อของร้านชำ 30 บาท ฟาดเงินทอน ไป 970 บาท คาดตระเวนใช้แบงก์ปลอมซื้อของเฉพาะร้านที่เป็นคนแก่ขาย
              วันที่ 6 มีนาคม 2564 ช่อง 3 รายงานว่า ที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่งได้มีหญิงร่างท้วม สวมเสื้อคลุมและหมวกกันน็อกเต็มใบ ทำทีเข้ามาซื้อของ และจ่ายด้วยแบงก์ 1,000 บาท โดยเจ้าของร้านเป็นหญิงชราก็ได้รับเงินไว้ก่อนจะนับเงินทอน โดยหญิงร่างท้วมคนดังกล่าวก็รับเงินทอนและขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป

              โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกไว้ได้ด้วยกล้องวงจรปิด ซึ่งเจ้าของคลิปได้โฑสต์เฟซบุ๊กพร้อมระบุข้อความว่า "เตือนภัยนะครับ เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 4 มีนาคม 2564 ได้มีผู้หญิงคนนี้ได้เอาแบงก์ปลอมมาซื้อของที่ร้านแม่ผมท่านแก่แล้ว ซื้อของ 30 บาทใช้แบ๊งค์พันปลอม แม่ผมอายุ 86 ปี อาศัยช่วงเวลาที่แม่ผมอยู่ร้านคนเดียวเข้ามาซื้อของที่ร้าน ตอนนี้ผมแจ้งความไว้แล้ว หากใครมีเบาะแสรบกวนแจ้งผมได้นะครับ ถ้าสามารถหาตัวคนทำผิดผมมีรางวัลให้ครับ ไม่เห็นรถที่คนร้ายขับมาครับ เพราะกล้องถ่ายไม่ถึง"

              ต่อมาผู้สื่อข่าวช่อง 3 ได้สอบถามไปยัง นายศรีชัย แซ่อื้อ อายุ 39 ปี ผู้โพสต์เฟซบุ๊ก เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 4 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 10.30 น. แม่ของตนขายของหน้าร้านคนเดียว ส่วนตนนอนพักผ่อนหลังร้านไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก่อนจะมีหญิงร่างท้วมอายุประมาณ 30-35 ปี เข้ามาซื้อสินค้าซึ่งเป็นครีมทาผิว ราคา 30 บาท แล้วยื่นธนบัตรใบละ 1,000 บาทใ ห้แม่ตน ตอนแรกแม่บอกไม่มีทอน แต่ด้วยความต้องการขายจึงขอยืมเงินจากร้านข้าง ๆ มาจ่ายเป็นเงินทอน จำนวน 970 บาท หลังจากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็ออกจากร้านไปพร้อมเงินทอนและสินค้า

              ต่อมาตนออกมาหน้าร้านพบธนบัตรใบละ 1,000 บาท วางอยู่จึงทักว่าใครเอาแบงก์ปลอมมาวางไว้ ก่อนจะทดสอบโดยใช้มือที่เปียกน้ำจับธนบัตรก็พบว่า ภาพในธนบัตรเลือน เมื่อสอบถามแม่ แม่บอกว่าในกระเป๋าเงินของหญิงที่นำธนบัตรปลอมมาซื้อ นั้นมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท อยู่หลายใบจึงคาดว่าน่าจะตระเวนหาร้านค้าที่มีผู้สูงอายุเฝ้าร้านคนเดียว นำธนบัตรปลอมที่ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น

              จากนั้นตำรวจได้ลงพื้นที่แกะรอยคนร้ายซึ่งน่าจะเป็นคนคนเดียวกับที่ตระเวนนำแบงค์ปลอมไปใช้ซื้อของตามร้านค้าที่ส่วนใหญ่มีคนแก่เฝ้าร้านคนเดียว ซึ่งตำรวจกำลังแกะรอยคนร้ายรายนี้อย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีการก่อเหตุลักษณะเดียวกันหลายแห่งภายในเมืองขอนแก่น คาดว่าจะสามรารถจับกุมได้ในเร็ว ๆ นี้ เพราะถือเป็นภัยสังคมและซ้ำเติมคนทำมาหากิน

ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3