นางแบบโพสต์ภาพช็อก แผลที่คอ รับไม่อยากอยู่ต่อ หลังถูกด่ากลางไลฟ์จนหลุดเหวี่ยง-ลุกหนี

           เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย แคธรีน หลี่ ได้รับเชิญให้มาออกรายการของโปรดิวเซอร์ แอนดี้ ชาน โดยระหว่างนั้นนางแบบสาวซึ่งมีความสามารถด้านการเล่นเปียโนคลาสสิก ถูกขอให้เล่นคีย์บอร์ดเพื่อแสดงดนตรีร่วมกับพิธีกรคนอื่นของรายการ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเธอไม่คุ้นเคยกับเครื่องดนตรีชนิดนี้ ทำให้การแสดงออกมาไม่ราบรื่นนัก
           จากนั้นชาวเน็ตก็เริ่มพากันคอมเมนต์วิจารณ์และโจมตีเธอเรื่องทักษะด้านดนตรี ซึ่งนางแบบสาวก็ได้อ่านคอมเมนต์เหล่านั้น ทำให้เธอตัดสินใจไม่ขอเล่นดนตรีร่วมกับพิธีกรในเพลงอื่นต่อ แต่กระแสคอมเมนต์ก็ยังโจมตีเธอไม่หยุด จนในที่สุด แคธรีน หลี่ ก็ไม่สามารถเก็บอารมณ์ไว้ได้ เธออธิบายว่าตัวเองแค่ถูกขอให้มานั่งพูดคุยในรายการเท่านั้น ไม่มีการบอกว่าจะต้องมาเล่นดนตรีสด

           แม้พิธีกรจะพยายามทำให้เธอสงบสติอารมณ์ แต่ดูเหมือนนางแบบสาวจะทนไม่ไหวแล้ว เธอแสดงท่าทีฉุนเฉียวอย่างชัดเจนและลุกขึ้นยืน บอกว่า "ฉันจะไปแล้ว ฉันไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้อีกแล้ว"

           ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวกลายมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หนัก หลายคนตำหนิเธอที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ขณะออกรายการสด และแสดงท่าทีเช่นนั้นออกมา แต่ก็มีบางส่วนที่แสดงความเห็นใจเธอ พยายามบอกว่าเธอทำได้ดีแล้ว และอย่าไปสนใจคอมเมนต์ว่าร้ายเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมเมนต์จากคนที่ไม่มีความเข้าใจเรื่องดนตรี ที่ไม่รู้ว่าการเล่นเปียโนที่มักแสดงเพียงคนเดียวจะมีความแตกต่างจากการมาเล่นเป็นวงกับคนอื่นอย่างไร
           อย่างไรก็ตาม จากรายงานของเว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 พบว่าหลังจากเกิดเรื่องดังกล่าว แคธรีน หลี่ ก็ออกมาโพสต์ข้อความลงอินสตาแกรม ขอโทษสำหรับมารยาทที่น่าอับอายและการควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอยอมรับว่าเป็นความผิดของเธอเอง และจะปรับปรุงความฉลาดทางอารมณ์ให้มากกว่านี้

           แต่แล้วทุกอย่างกลับเลวร้ายลง เมื่อในวันที่ 14 มีนาคม นางแบบสาวได้โพสต์ภาพเผยให้เห็นบาดแผลเป็นแนวและห้อเลือดที่ลำคอของเธอ ยอมรับว่าในช่วงกลางดึกเธอจมดิ่งกับอารมณ์มากมายที่ถาโถมเข้ามาและพยายามจะจบชีวิตตัวเอง แต่เชือกนั้นบางไปและขาดก่อนที่เธอจะจากไป พร้อมบอกว่า "การจะจบชีวิตตัวเองต้องใช้ความกล้า และการอยากมีชีวิตอยู่ต่อต้องใช้ความกล้าที่ยิ่งใหญ่กว่า"

 
           "ฉันเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันยังรู้สึกหวาดกลัว ยังรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ไม่ว่าหัวใจจะแกร่งสักแค่ไหน มันก็ยังแหลกสลายได้เสมอ"