เพจทนายคู่ใจ เผยเรื่องราวของ ฤทธิชัย เสือเดช ตกเป็นแพะคดียิงคนตาย ต้องติดคุกฟรี 3 เดือน สุดท้ายศาลยกฟ้อง หลังพยานกลับคำ บอกถูกตำรวจขู่ให้การเท็จ
ภาพจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
วันที่ 23 มีนาคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของ นายฤทธิชัย เสือเดช หลังตกเป็นจำเลยในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น และถูกจำคุกไปแล้ว 3 เดือน เมื่อปี 2558 หลังถูกจับกุมตัวจากเหตุยิงกันตาย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2558 เวลา 4 ทุ่ม ทั้งที่เจ้าตัวยืนยันว่าขณะนั้น อยู่ในค่ายบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด ซึ่งจัดโดยฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร
โดยศาลอ่านคำพิพากษาพบว่า ไม่มีผู้ใดยืนยันหรือเห็นชัดว่านายฤทธิชัย เป็นผู้กระทำ รวมถึงไม่มีหลักฐานที่จะเชื่อมโยงมาถึงนายฤทธิชัยได้ ประกอบกับนายฤทธิชัย ได้มีพยานหลักฐานยืนยันตัวตน ว่าขณะที่เกิดเหตุ นายฤทธิชัยอยู่ที่ค่ายบำบัดยาเสพติดจริง ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกฟ้อง
ย้อนคดี ฤทธิชัย อยู่ค่ายบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด แต่จู่ ๆ ถูกกล่าวหาว่ายิงคนตาย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายฤทธิชัยถูกกล่าวหาและต้องจำคุกนาน 3 เดือน ว่าร่วมกันก่อเหตุยิงคนตาย แม้จะยืนยันว่าตอนนั้นอยู่ในค่ายบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดซึ่งจัดโดยฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีการคุ้มกันดูแลอย่างแน่นหนา มีการเช็กชื่อทุกชั่วโมง และมีครูฝึกดูแลรอบค่าย มีพยานบุคคลยืนยันฐานที่อยู่ให้ได้
และก่อนส่งฟ้องคดี นายฤทธิชัยได้ไปร้องหน่วยงานมาหลายที่ เนื่องจากติดขัดเรื่องเงินประกันตัว เพราะคดีฆ่าคนตายนั้นมีอัตราค่าประกันตัวอยู่ 500,000 บาท แต่กลับไม่มีหน่วยงานไหนให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากเชื่อว่านายฤทธิชัย เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
ทนายรณณรงค์ ช่วยประสาน เรี่ยไรเงินจนได้ประกันตัว-ควานหาพยาน
จนกระทั่งมาร้องเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ จึงได้มอบหมายให้ทนายประจำเครือข่ายเข้าช่วยเหลือ เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการศาล จำเลยก็ได้เรี่ยไรเงินจากผู้ใจบุญจนสามารถเช่าหลักทรัพย์ได้
ส่วนทางด้านทนายก็จัดเตรียมพยานหลักฐาน ทั้งลงพื้นที่เกิดเหตุ พูดคุยกับพยานที่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของนายฤทธิชัยได้ และนำเสนอสู่ศาล
ในกระบวนการสืบพยานนั้น ก็มีพยานซึ่งเป็นฝ่ายปกครอง ผู้อำนวยการศูนย์บำบัดฟื้นฟู และครูให้การต่อศาลว่าเห็นนายฤทธิชัยอยู่ค่ายจนเกือบ 4 ทุ่ม จึงเป็นไปไม่ได้ ที่จะออกจากค่ายไปยิงคนตาย หากจะหนีจากค่าย ครูฝึกจะต้องรู้ หรือไม่ครูฝึกก็อาจรู้เห็น ซึ่งเป็นไปไม่ได้
จนล่าสุด พยานบุคคลบางปากที่ตำรวจสอบปากคำไว้นั้น ได้กลับคำให้การในชั้นศาลว่าที่ให้การไว้ในชั้นตำรวจนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากถูกตำรวจข่มขู่ จึงทำให้ศาลพิพากษายกฟ้องไปเมื่อวานนี้ (22 มีนาคม)
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ
ภาพจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
วันที่ 23 มีนาคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของ นายฤทธิชัย เสือเดช หลังตกเป็นจำเลยในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น และถูกจำคุกไปแล้ว 3 เดือน เมื่อปี 2558 หลังถูกจับกุมตัวจากเหตุยิงกันตาย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2558 เวลา 4 ทุ่ม ทั้งที่เจ้าตัวยืนยันว่าขณะนั้น อยู่ในค่ายบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด ซึ่งจัดโดยฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร
โดยศาลอ่านคำพิพากษาพบว่า ไม่มีผู้ใดยืนยันหรือเห็นชัดว่านายฤทธิชัย เป็นผู้กระทำ รวมถึงไม่มีหลักฐานที่จะเชื่อมโยงมาถึงนายฤทธิชัยได้ ประกอบกับนายฤทธิชัย ได้มีพยานหลักฐานยืนยันตัวตน ว่าขณะที่เกิดเหตุ นายฤทธิชัยอยู่ที่ค่ายบำบัดยาเสพติดจริง ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกฟ้อง
ย้อนคดี ฤทธิชัย อยู่ค่ายบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด แต่จู่ ๆ ถูกกล่าวหาว่ายิงคนตาย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายฤทธิชัยถูกกล่าวหาและต้องจำคุกนาน 3 เดือน ว่าร่วมกันก่อเหตุยิงคนตาย แม้จะยืนยันว่าตอนนั้นอยู่ในค่ายบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดซึ่งจัดโดยฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีการคุ้มกันดูแลอย่างแน่นหนา มีการเช็กชื่อทุกชั่วโมง และมีครูฝึกดูแลรอบค่าย มีพยานบุคคลยืนยันฐานที่อยู่ให้ได้
และก่อนส่งฟ้องคดี นายฤทธิชัยได้ไปร้องหน่วยงานมาหลายที่ เนื่องจากติดขัดเรื่องเงินประกันตัว เพราะคดีฆ่าคนตายนั้นมีอัตราค่าประกันตัวอยู่ 500,000 บาท แต่กลับไม่มีหน่วยงานไหนให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากเชื่อว่านายฤทธิชัย เป็นผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
ทนายรณณรงค์ ช่วยประสาน เรี่ยไรเงินจนได้ประกันตัว-ควานหาพยาน
จนกระทั่งมาร้องเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ จึงได้มอบหมายให้ทนายประจำเครือข่ายเข้าช่วยเหลือ เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการศาล จำเลยก็ได้เรี่ยไรเงินจากผู้ใจบุญจนสามารถเช่าหลักทรัพย์ได้
ส่วนทางด้านทนายก็จัดเตรียมพยานหลักฐาน ทั้งลงพื้นที่เกิดเหตุ พูดคุยกับพยานที่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของนายฤทธิชัยได้ และนำเสนอสู่ศาล
ในกระบวนการสืบพยานนั้น ก็มีพยานซึ่งเป็นฝ่ายปกครอง ผู้อำนวยการศูนย์บำบัดฟื้นฟู และครูให้การต่อศาลว่าเห็นนายฤทธิชัยอยู่ค่ายจนเกือบ 4 ทุ่ม จึงเป็นไปไม่ได้ ที่จะออกจากค่ายไปยิงคนตาย หากจะหนีจากค่าย ครูฝึกจะต้องรู้ หรือไม่ครูฝึกก็อาจรู้เห็น ซึ่งเป็นไปไม่ได้
จนล่าสุด พยานบุคคลบางปากที่ตำรวจสอบปากคำไว้นั้น ได้กลับคำให้การในชั้นศาลว่าที่ให้การไว้ในชั้นตำรวจนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากถูกตำรวจข่มขู่ จึงทำให้ศาลพิพากษายกฟ้องไปเมื่อวานนี้ (22 มีนาคม)