เจ้าของสวนเสือศรีราชา ปัดข่าวเลิกกิจการ แค่ปิด 14 วัน มาตรการโควิด ยันสานต่อแลนด์มาร์ก เผยสัตว์ทุกตัวได้รับการดูแลเป็นอย่างดีแม้ไร้นักท่องเที่ยว
วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานบทสัมภาษณ์ นายวสันต์ เต็มศิริพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท สวนเสือ ศรีราชา จำกัด ซึ่งยอมรับว่าสวนเสือศรีราชา ประกาศปิดกิจการถาวรตั้งแต่เมื่อวานนี้ (30 เมษายน) แต่จะมีการนัดให้พนักงานเข้าร่วมประชุมในวันที่ 3 พฤษภาคม เพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงสาเหตุการเลิกกิจการ
ทั้งนี้ สาเหตุที่ยกเลิกกิจการเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งจะมีการแถลงข่าวภายหลังพูดคุยทำความเข้าใจกับพนักงาน ซึ่งสัตว์ต่าง ๆ จะมีการจำหน่ายออกไปอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม แต่หากมีผู้ต้องการเข้ามารับช่วงกิจการต่อก็ยินดี
สำหรับสวนเสือศรีราชา เปิดกิจการมาตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน พ.ศ.
2540 ซึ่งมีสัตว์เริ่มต้นคือ เสือ ที่ได้มาจากสวนสัตว์เชียงใหม่ 2 คู่
และสวนสามพรานอีก 2 คู่
ภาพจาก ThaiPB
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายสุเมธ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชา ฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด เจ้าของที่ตั้งสวนเสือศรีราชา ชี้แจงว่า กระแสข่าวการเลิกกิจการไม่เป็นความจริง โดยการปิดบริการเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ แค่ 14 วัน ตามมาตรการควบคุมโควิด 19 โดยช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา บริษัทได้เทกโอเว่อร์ธุรกิจสวนเสือศรีราชาจากผู้บริหารเดิม ทุกวันนี้ผู้บริหารเดิมได้เช่าพื้นที่ดำเนินการแบบปีต่อปี ซึ่งเรายืนยันว่าจะไม่มีการปิดกิจการแน่นอน เพราะสวนเสือศรีราชาเป็นที่รู้จักมานานกว่า 30 ปี
เมื่อมีกระแสข่าวเกิดขึ้น ได้แจ้งไปยังผู้บริหารเดิมแล้วว่าให้ยกข้อความออก เพราะอย่างไรเราก็จะทำต่อ ซึ่งแม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากจีนจะหายไปตั้งแต่โควิดระบาด แต่ยืนยันว่าสัตว์ทุกชนิดยังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเสือกว่า 400 ตัว ช้างกว่า 300 ตัว จระเข้ที่อยู่ในฟาร์มนับแสนตัว รวมทั้งพนักงานทั้งหมด ยังคงได้รับการดูแลเพื่อรอโอกาสที่จะได้กลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบหลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลายอีกครั้ง หากเจ้าของเดิมไม่ทำต่อ บริษัทก็จะรับดูแลทั้งหมด และยังมีแนวคิดปรับปรุงให้เป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยวแบบครบวงจรอีกด้วย
ทั้งนี้ แม้รายได้จากสวนเสือศรีราชาจะหายไปในช่วงโควิด แต่ในส่วนของฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ยังดำเนินต่อไป แม้ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศจะหายไปกว่า 50% วันนี้เฉพาะค่าใช้จ่ายในฟาร์มจระเข้ศรีราชาเพียงแห่งเดียว ทั้งค่าอาหารจระเข้ เงินเดือนพนักงาน เราต้องแบกรับมากถึง 10 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์จากจระเข้มีประมาณ 30% นอกจากนั้นเรายังจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าลง 70% เพื่อกระตุ้นยอดขายสำหรับกลุ่มลูกค้าชาวไทย
เมื่อมีกระแสข่าวเกิดขึ้น ได้แจ้งไปยังผู้บริหารเดิมแล้วว่าให้ยกข้อความออก เพราะอย่างไรเราก็จะทำต่อ ซึ่งแม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากจีนจะหายไปตั้งแต่โควิดระบาด แต่ยืนยันว่าสัตว์ทุกชนิดยังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเสือกว่า 400 ตัว ช้างกว่า 300 ตัว จระเข้ที่อยู่ในฟาร์มนับแสนตัว รวมทั้งพนักงานทั้งหมด ยังคงได้รับการดูแลเพื่อรอโอกาสที่จะได้กลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบหลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลายอีกครั้ง หากเจ้าของเดิมไม่ทำต่อ บริษัทก็จะรับดูแลทั้งหมด และยังมีแนวคิดปรับปรุงให้เป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยวแบบครบวงจรอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์, ข่าวช่องวัน
