หนุ่มเวียดนามขับรถกลับบ้านตอนตี 1 ผงะเจอเด็ก 2 ขวบยืนกลางถนน และนี่คือวิธีจัดการของเขา หลายคนพากันชื่นชมในความกล้าหาญ
วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เว็บไซต์ Newsbeezer เผยเรื่องราวเหตุการณ์ชวนระทึก เหงียน ซวนตรุง ชายหนุ่มอายุ 29 ปี จากเมืองฝู่กั๊ต ในจังหวัดบินห์ดินห์ ประเทศเวียดนาม เผชิญเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างที่กำลังขับรถกลับบ้าน ในตอนกลางดึกเวลาประมาณ 01.00 น. ของเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
เหงียน เผยว่าระหว่างทางที่เขาขับรถไปตามถนนนั้น เส้นทางมืดมากมีเพียงแสงไฟสลัวจากข้างทาง แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักรีบเหยียบเบรกกะทันหัน เมื่ออยู่ ๆ เห็นเด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งออกมามายืนอยู่ที่ด้านหน้ารถ เขารู้สึกเป็นกังวลมาก เพราะไม่รู้ว่าเด็กชายคนนี้มาจากไหน แล้วทำไมถึงมายืนกลางถนนมืด ๆ ในเวลาเช่นนี้
อย่างไรก็ดี เหงียนคิดว่ามันอันตรายสำหรับเด็ก จึงตัดสินใจลงจากรถไปดู พบว่าไม่มีผู้ใหญ่อยู่ในบริเวณนั้น บ้านแถวนั้นปิดเงียบผู้คนหลับกันหมด ตอนแรกเขาจึงพาเด็กชายเข้าไปยืนหลบข้างทาง กระทั่งมีรถอีกคันผ่านมาก็เล่าเรื่องให้ฟัง พวกเขาก็ตกใจมากเช่นกัน
หลังจากนั้น เหงียนตัดสินใจพาเด็กชายไปเดินเคาะประตูบ้านแถวนั้น แต่ผ่านมา 20 นาที ก็ไม่มีใครยอมเปิดประตู เขาเผยว่าตอนนั้นเขารู้สึกร้อนรนและเป็นกังวลใจมาก เขารู้สึกเป็นห่วงเด็กชายว่าจะกลัวเขาที่พาเดินไปมาเช่นนี้ หรืออาจจะคิดว่าเขาจะทำร้ายหรือจะลักพาตัว
กระทั่งบ้านหลังหนึ่ง ชายสูงวัยรายหนึ่งได้ยินเรื่องเด็กชายจากเหงียนจึงยอมเปิดประตูออกมา เมื่อได้เจอเด็กจึงรู้ว่าเขาเป็นลุงของเด็ก เขาแสดงท่าทีตกใจมาก สามารถเรียกชื่อเด็กได้ถูก เด็กชายอายุ 2 ขวบ เขารู้ชื่อของพ่อและแม่เด็ก และรู้ว่าบ้านของเด็กอยู่ไหน ทำให้เหงียนรู้สึกโล่งใจมาก
หลังจากนั้น ชายสูงวัยรายดังกล่าวก็พาเด็กชายไปที่บ้านของพ่อแม่ เหงียนติดตามไปด้วย โดยเขาพบว่าบ้านของเด็กอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขาพบเด็ก ก่อนที่แม่ของเด็กจะเปิดประตูออกมารับด้วยความตกใจสุดขีด บอกว่าพวกเขาเหนื่อยมากหลังจากเลิกงานจึงหลับไป ลูกชายคงตื่นมากลางดึกแล้วเดินออกไปลำพัง
"ผมรู้สึกเศร้าใจกับเรื่องที่พบ เพราะผมเองก็มีลูกคนเล็กด้วย เมื่อฉันเห็นเด็กชายกลางถนนแบบนั้น ผมก็ร้อนใจมาก ผมแค่หวังว่าเขาจะสามารถกลับไปหาพ่อแม่ได้อย่างปลอดภัย" เหงียน กล่าว
ภายหลังจากคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียก็เกิดเป็นที่พูดถึง หลายคนชื่นชมในความมีน้ำใจและกล้าหาญของเขา เพราะอาจจะเป็นพวกมิจฉาชีพสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อลวงเหยื่อ
แต่หลังจากนั้น เหงียนได้เผยว่า "แม้ว่าจะเป็นการปล้น ผมก็ยังจะลงจากรถและหาทางช่วยเด็ก เมื่อผมมองไปที่เขา ผมคิดถึงลูกของตัวเองทันที ตอนนั้นผมเป็นห่วงแค่เด็ก ไม่ได้กลัวที่จะถูกปล้น"
นอกจากนั้นเขายังอยากให้เรื่องนี้อุทาหรณ์ให้ผู้ปกครองดูแลลูกหลานให้ใกล้ชิด เพราะไม่อยากให้พวกเขาต้องมาเสียใจภายหลัง หากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น
