กฎกระทรวงดูแลรักษาจัดการศาสนสมบัติวัด ฉบับใหม่ วัดเก็บเงินสดจากการทำบุญไว้ที่วัดได้ไม่เกิน 100,000 บาท เกินนี้ต้องฝากธนาคาร เช่าที่วัดเกิน 3 ปี ต้องได้รับอนุมัติจากมหาเถรสมาคม
วันที่ 17 มิถุนายน 2564 เดลินิวส์ รายงานว่า นายอินทพร
จั่นเอี่ยม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศ
กฎกระทรวงการดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด พ.ศ. 2564 โดยมีด้วยกัน 12
ข้อ โดยสาระสำคัญที่มีการปรับปรุงจากกฎกระทรวงฉบับเดิมได้แก่
ข้อ 3 กำหนดให้การได้ทรัพย์สินมาเป็นศาสนสมบัติของวัด ให้วัดลงทะเบียนทรัพย์สินนั้นไว้เป็นหลักฐาน และเมื่อต้องจำหน่ายทรัพย์สินนั้นไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้จำหน่ายออกจากทะเบียน โดยระบุเหตุแห่งการจำหน่ายไว้ด้วย
ส่วนการได้มาซึ่งที่ดินหรือสิทธิอันเกี่ยวกับที่ดิน เมื่อได้จดทะเบียนการได้มาตามกฎหมายแล้ว ให้วัดในเขตกรุงเทพฯ ส่งหลักฐานการได้มาเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำหรับวัดในเขตจังหวัดอื่นให้ส่งไปเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนั้น
ข้อ 4 ได้มีการกันที่วัดไว้สำหรับเป็นที่จัดประโยชน์จะกระทำได้ต่อเมื่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นชอบ และได้รับอนุมัติจากมหาเถรสมาคม
ข้อ 6 การให้เช่าที่วัดหรือที่ธรณีสงฆ์เพื่อเป็นทางเข้าออกไม่ว่าจะมีกำหนดระยะเวลากี่ปีก็ตาม จะกระทำได้ต่อเมื่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเห็นชอบและได้รับอนุมัติจากมหาเถรสมาคม โดยให้วัดจัดทำเป็นสัญญาภาระจำยอม
ข้อ 7 การเก็บรักษาเงินของวัดในส่วนที่เกิน 100,000 บาทขึ้นไป ให้เก็บรักษาโดยฝากธนาคารในนามของวัด หรือวิธีการอื่นใดตามที่มหาเถรสมาคมกำหนด การดูแลรักษาและจัดการเงินการกุศลที่มีผู้บริจาค ให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้บริจาค
ข้อ 8 ให้เจ้าอาวาสจัดให้ไวยาวัจกร หรือผู้จัดประโยชน์ของวัด ซึ่งเจ้าอาวาสแต่งตั้งทำบัญชีรับจ่ายเงินของวัด และเมื่อสิ้นปีปฏิทินให้ทำบัญชีเงินรับจ่ายและคงเหลือ ทั้งนี้ ให้เจ้าอาวาสตรวจตราดูแลให้เป็นไปโดยเรียบร้อยและถูกต้อง
ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่า กฎกระทรวงดังกล่าว เป็นการปกป้องผลประโยชน์ให้กับวัด หากจะทำสัญญาเช่านานกว่า 3 ปี ต้องทำเรื่องขอความเห็นชอบจากมหาเถรสมาคม ส่วนเรื่องการเก็บรักษาเงินของวัดนั้นก็มีการปรับแก้จากเดิม 3,000 บาท มาเป็น 100,000 บาท โดยเงินส่วนนี้จะเป็นเงินของวัดที่มาจากการทอดกฐิน ทอดผ้าป่า เงินจากตู้รับบริจาคในวัด เป็นต้น ไม่เกี่ยวกับเงินส่วนตัวของพระสงฆ์ ทั้งนี้ หากเจ้าอาวาสไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงดังกล่าว อาจมีความผิดเกี่ยวกับการละเมิดจริยาพระสังฆาธิการได้