ดราม่าไอศกรีมไฮโซ แท่งละกว่า 300 บอกก็แล้วแต่...จะซื้อกินไหม ทำโซเชียลเดือด

           โดยจากรายงานของ sina.com.cn เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2564 ชี้ว่า จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่อาจกลายเป็นวิกฤตของ จงเสว่เกา เกิดขึ้นจากคลิปสัมภาษณ์สั้น ๆ ของ หลินเซิ้ง ( Lin Sheng) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ซึ่งได้กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งของจงเสว่เกา เป็นไอศกรีมแท่งแบบพรีเมียม ที่ตั้งราคาจำหน่ายสูงถึง 66 หยวน หรือกว่า 300 บาท


           ในขณะที่ชาวเน็ตถกกันดุเดือดเรื่องราคาที่สูงเวอร์ของไอศกรีมดังกล่าว โดยบ้างก็บอกเลยว่า ขายแพงขนาดนี้คงไม่ซื้อกิน บางคนถึงกับตั้งคำถามว่ามีทองซ่อนอยู่ในไอศกรีมงั้นหรือ หลายคนยังสงสัยว่าแพงขนาดนี้มันอร่อยคุ้มราคาจริง ๆ เหรอ ไอศกรีมอร่อยราคาถูกก็มีถมไป

           ก็ยังมีบางส่วนที่มองว่า ถึงแม้ไอศกรีมจะมีราคาแพงกว่าแบรนด์อื่น แต่ก็มีรสชาติที่อร่อยจริง ๆ จงเสว่เกามีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ถ้าคนเต็มใจซื้อก็ย่อมซื้อได้ แต่ถ้าไม่อยากซื้อ ก็แค่ไปหาของแบรนด์อื่นที่คิดว่าราคาเป็นธรรมกว่านั้น
           นอกจากนี้บางคนยังมองว่า สาเหตุที่ทำให้จงเสว่เกาได้รับความนิยมแม้จะมีราคาแพง ก็เพราะเป็นไอศกรีมเซเลบ ครองตลาดกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ มีภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดี ขณะที่ไอศกรีมจงเสว่เการุ่นที่ขายในราคา 66 หยวน ก็ยังเป็นสินค้าลิมิเต็ดในช่วงเวลาจำกัด มีจำหน่ายเพียงแค่ 20,000 แท่งเท่านั้น ยิ่งทำให้คนรู้สึกถึงความพิเศษมากขึ้น

           ทั้งนี้ หลังจากที่คลิปสัมภาษณ์ดังกล่าวทำให้แบรนด์ถูกสังคมวิจารณ์สนั่น จนมีบางส่วนออกมาแบนสินค้า ทางบริษัทก็ได้ออกมาอธิบายว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ถูกตัดมาสั้น ๆ จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ก่อนจะมีการปล่อยคลิปฉบับเต็มออกมา เผยให้เห็นว่าที่มาของราคา 66 หยวนนั้น ไม่ได้ตั้งขึ้นอย่างไร้เหตุผล แต่ไอศกรีมรุ่นดังกล่าวเป็นไอศกรีมคุณภาพ ที่เฉพาะค่าวัตถุดิบก็มีมูลค่าสูงตกแท่งละ 40 หยวน หรือกว่า 190 บาทแล้ว
           แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่อาจดับไฟเดือดของชาวจีนไปได้ แถมเรื่องยังบานปลายถึงหน่วยงานรัฐที่เข้ามาตรวจสอบ จนมีการฟันธงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนับเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่ผิดพลาด อีกทั้งยังพบว่าทางแบรนด์มีการใช้คำโฆษณาเกินจริงในหลาย ๆ ส่วนของสินค้าที่เคยวางจำหน่าย
           ทั้งนี้ แม้ในที่สุดทางจงเสว่เกาจะออกมาเผยแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณะชน แต่ก็ยากที่จะบรรเทาความโกรธของผู้คนลงได้ ซึ่งก็ต้องมาตามดูกันต่อไปในอนาคตว่ายอดขายของไอศกรีมไฮโซแบรนด์ดังกล่าวจะได้รับผลกระทบมากแค่ไหน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก sina.com.cn, 36kr.com