ช่างตัดผมเมืองอุบลราชธานี ติดป้ายประกาศ "ไม่ตัดผมให้ตำรวจสายตรวจ" เหตุแค้นฝังใจโดนยัดยาเมื่อ 10 ปีก่อน แถมเดือนที่แล้วถูกจับปรับหลายข้อหา สุดทนเลยติดป้ายประกาศจุดยืน ล่าสุด ผกก. รุดสอบถามเคลียร์ปมในใจ
จากกรณี นายภรันยู อายุ 24 ปี เจ้าของร้านตัดผมแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุบลราชธานี ขึ้นป้ายไวนิลประกาศ "ไม่ตัดผมให้ตำรวจสายตรวจ" เพราะฝังแค้นตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษา ถูกตำรวจสายตรวจกลั่นแกล้งยัดยาบ้าก่อนนำตัวไปโรงพัก แถมเมื่อเดือนก่อนก็ถูกจับปรับขับขี่รถไม่สวมหมวกกันน็อก และพ่วงอีกหลายข้อหาด้วยนั้น
ล่าสุด (27 กรกฎาคม 2564) เพจเฟซบุ๊ก โปลิศไทยแลนด์ - Police Thailand News ได้ออกมาโพสต์ภาพเจ้าของร้านตัดผมคนดังกล่าว ขณะกำลังปลดป้ายไวนิลลง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนดูอยู่ข้าง ๆ
ทั้งนี้ทางเพจรายงานความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว ว่า พล.ต.ต. ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 และโฆษกตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีการพูดคุยกับหนุ่มช่างตัดผมรายนี้ ซึ่งทาง ผกก. สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้เชิญมาพูดคุยสอบถามถึงต้นสายปลายเหตุ พร้อมยืนยันหากเป็นจริงจะได้แก้ไขปรับปรุงดำเนินการให้ถูกต้อง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก โปลิศไทยแลนด์ - Police Thailand News
ขณะที่ ข่าวช่องวัน รายงานเพิ่มเติมว่า หลังจาก พ.ต.อ. ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก. สภ.เมืองอุบลราชธานี และ พ.ต.ท. ปราโมทย์ ชื่นตา รองผกก. สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้เชิญตัวนายภรันยูมาพูดคุยสอบถามเรื่องดังกล่าว พบว่าจากคำกล่าวอ้างของนายภรันยูถูกตำรวจสายตรวจยัดยานั้นเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากเจ้าตัวถูกตำรวจขอตรวจสารเสพติดแล้วนำตัวมาที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อให้ผู้ปกครองมารับแต่นายภรันยู เข้าใจผิดว่าทางตำรวจจะยัดยาให้จึงได้พามาที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี
อีกทั้งหลังจากที่มาถึงเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการใส่กุญแจมือหรือพาเข้าห้องขัง เพียงแต่ให้ติดต่อผู้ปกครองมารับตัว ซึ่งในวันดังกล่าวได้มีคุณครูของนายภรันยู เป็นผู้มารับตัวกลับโดยไม่มีการจ่ายเงินหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด
ส่วนประเด็นที่ทำให้นายภรันยู ถึงจุดเดือดเนื่องจากเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ถูกตำรวจสายตรวจเรียกตรวจหลังจากขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปบริเวณจุดสกัดป้องกันอาชญากรรม ทำให้เจ้าหน้าที่เรียกจอดและขอตรวจสอบเอกสารใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งนายภรันยูไม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้จึงได้แจ้ง 6 ข้อหา
- ไม่มีใบขับขี่
- ไม่แสดงภาพถ่ายเล่มทะเบียนรถ
- ไม่สวมหมวกนิรภัย
- ไม่เสียภาษี
- ไม่จัดทำ พ.ร.บ.
- อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดเพื่อตรวจสอบผู้ครอบครองและให้เสียค่าปรับ หลังจากเหตุการณ์นี้ทำให้นายภรันยูถูกยึดรถ ประกอบกับแค้นฝังใจที่คิดว่าถูกยัดยาเมื่อ 10 ปี ก่อน จึงตัดสินติดป้ายไวนิลดังกล่าวเพื่อบ่งบอกจุดยืนและเจตนาของตัวเอง ที่ไม่ชอบตำรวจสายตรวจเพราะเหมือนถูกกลั่นแกล้ง
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต. ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 ยืนยัน หากเป็นเรื่องจริงจะต้องติดตามตำรวจ 2 นายนั้น มาตั้งกรรมการสอบสวนหากผิดจริงจะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โปลิศไทยแลนด์ - Police Thailand News, ข่าวช่องวัน