ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ เล่าเป็นฉาก ๆ วิธีการจับโป๊ะ รวมถึงแผนการการจับกุม เรียกได้ว่า ขุดบ่อล่อปลา ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก ทำเอาคน 300 คนจนมุม ตกเป็นเป้าหมายไม่รู้ตัว
อ่านข่าว : มือดีแฮกระบบค่ายมือถือ ฉกเอาคิววัคซีนศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อมาขาย ได้เงินวันละ 1 ล้าน
ล่าสุด วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 สำนักข่าวไทย รายงานว่า พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เล่าถึงกระบวนการการจับกุมอย่างละเอียดยิบ ตั้งแต่ตอนที่เห็นความผิดปกติ จวบจนถึงการซ้อนแผนนาทีสุดท้ายเพื่อจับกุม ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก แบ่งเป็นหัวข้อได้ดังนี้
ระบบการจัดการก่อนเกิดเหตุ
พญ.มิ่งขวัญ ยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เรียกว่าแฮก แต่เป็นการใช้สิทธิ์โดยมิชอบ ถ้าหากเคยมาศูนย์บางซื่อ จะพบว่า โต๊ะลงทะเบียนมีประมาณ 200 โต๊ะ, โต๊ะแก้ไขข้อมูล 6 โต๊ะ และคนที่มาฉีดที่นี่คือคนที่ลงทะเบียนล่วงหน้าเอาไว้แล้ว นั่นหมายความว่า เจ้าหน้าที่ในส่วน 200 โต๊ะ จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ ถ้ามีข้อมูลที่ผิด จะเป็นหน้าที่ของ 6 โต๊ะที่ต้องแก้ไข มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 คน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนหน้าก็เคยมีเคสการโกงบ้าง แต่เป็นวิธีการแบบโลว์เทคโนโลยี เช่น สวมรอยเป็นอาสาสมัครแล้วจูงญาติเข้ามา เป็นต้น
จุดที่ผิดสังเกต
เดิมนั้นคนที่มาฉีดวัคซีนโควิด ส่วนใหญ่ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ จะเป็นบุคคลธรรมดาที่ลงทะเบียนแล้ว ไม่ก็เป็นบุคลากรจากองค์กรใหญ่ ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเปิดวอล์กอินผู้สูงอายุให้เข้ามาฉีดวัคซีน จำเป็นต้องตัดส่วนขององค์กรทิ้งไป เหลือเพียงกระทรวงต่างประเทศ ที่ส่งรายชื่อผู้สูงอายุจากต่างประเทศเข้ามาเท่านั้น
และเพื่อทำให้งานราบรื่น ยังมีการเพิ่มสิทธิ์การแก้ไขข้อมูลให้กับกลุ่มอาสาสมัคร จากเดิมที่มีอยู่ 10 คนตามที่กล่าวไปข้างต้น เพื่อรองรับการวอล์กอินเข้ามาฉีดของผู้สูงอายุอีกด้วย
ต่อมา ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เมื่อเช็กสิทธิ์ลงทะเบียนฉีดวัคซีนล่วงหน้าประมาณ 1-2 สัปดาห์ พบว่า มีจำนวนที่มากกว่าคิวปกติประมาณ 10-20 คนในช่วงแรก แต่ช่วงตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม มีคิวเพิ่มมาถึง 2,000 คิวใน 3-4 วันติดต่อกัน ถือเป็นสิ่งที่ผิดปกติ จึงมาตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ใส่ชื่อเข้าไปในระบบ พบว่า มี 19 ยูสเซอร์ อยู่ในกลุ่มอาสาสมัครที่เพิ่มสิทธิ์ไป
ขั้นตอนการจับกุม แผนซ้อนแผน
พวกเราได้ยินมาว่ามีการขายคิวฉีดวัคซีนด้วย จึงต้องวางแผนจับกุม ในช่วงแรกที่มีคิวเพิ่มมา 10-20 คน ก็ปล่อยไปก่อน เพราะถ้าไปวางแผนจับ คงจับได้เพียง 1-2 คนเท่านั้น ไม่คุ้มค่า หลักฐานไม่แน่นที่จะเอาผิดตัวการ
วันที่วางแผนจับผิดจริง ๆ คือ วันที่ 28 กรกฎาคม เป็นวันแรกที่มีคิวเพิ่มมา 2,000 คน ซึ่งทางทีมงานขุดบ่อล่อปลา ให้คนเหล่านี้เดินทางมาที่ศูนย์ฉีดวัคซีนเพื่อลงทะเบียนเข้าฉีดวัคซีน พอมีคนมาประมาณ 600 คน ก็ยกเลิกคิวฉีด 2,000 คน เพื่อบีบให้คนเหล่านี้แสดงตัวร้องเรียน และจัดสถานที่ไว้พร้อมสำหรับการอธิบายว่าเป็นการนัดแบบไม่สุจริต
จำนวนคนที่มาร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ มีประมาณ 300 คน ถือเป็นจำนวนที่มากพอสำหรับการเอาผิดไปถึงตัวใหญ่ได้ พบว่า บางคนก็ซื้อเอง บางคนก็ฝากเพื่อนซื้อ แล้วก็ทราบเลขบัญชีของมิจฉาชีพแล้ว
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
วิธีแก้ไขปัญหาหลังจากนี้
ทางหน่วยงานจึงยกเลิกสิทธิ์การแก้ไขข้อมูลของอาสาสมัคร ให้เหลือเพียง 10 คนเท่านั้น แต่ใจจริงก็ไม่อยากประโคมข่าวเรื่องนี้ใหญ่โต เพราะกลัวกระทบจิตใจของอาสาสมัครที่ตั้งใจทำงาน เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ก็ใหญ่เกินไปที่จะไม่พูดไม่ได้
ความแนบเนียนอีกอย่างหนึ่งของกลุ่มอาสาสมัครที่แก้ข้อมูลคือ คนเหล่านี้จะรู้ว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์บางซื่อจะลงข้อมูลเสร็จในเวลา 4 ทุ่มพอดี ฉะนั้นคนเหล่านี้จึงฉวยโอกาสแก้ไขข้อมูลตอน 4 ทุ่ม เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต แต่เรื่องนี้ก็มีผิดแผน เนื่องจากตอนนี้ศูนย์ฉีดวัคซีน ยกเลิกการนัดกลุ่มองค์กรแล้ว เหลือเพียงกระทรวงต่างประเทศเท่านั้น ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ลงทะเบียนเสร็จตั้งแต่ 6 โมงเย็น และการเพิ่มข้อมูลตอน 4 ทุ่ม ทำให้เป็นจุดเด่นสะดุดตาชัดเจน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย
