ดูกันชัด ๆ ภาพสาธิตการยิงแก๊สน้ำตากับตอนสถานการณ์จริงเหมือนกันตรงไหน โดยตอนสาธิตยิงโด่งกว่า แต่ตอนยิงจริงยิงแนวพุ่งตรงมากกว่า
ช่วงนี้มีกระแสวิจารณ์ตำรวจเกี่ยวกับการควบคุมฝูงชน ในเรื่องการยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมว่า มีการปฏิบัติตามหลักสากลหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บสาหัสจากการถูกแก๊สน้ำตายิงเข้าใบหน้า
ล่าสุด วันที่ 19 สิงหาคม 2564 ไทยพีบีเอส รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีการสาธิตการยิงแก๊สน้ำตาต่อสื่อมวลชน ในระยะ 100 เมตร ด้วยแนววิถีโค้งมากกว่า 30 องศา เพื่อให้ตกพื้นที่เป้าหมายหวังผล ทำให้ประชาชนสามารถเห็นแนวทางการควบคุมฝูงชนได้ชัดเจนขึ้น
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
พ.ต.ท. ศรายุทธ อรุณฉาย รองผู้กำกับการควบคุมฝูงชน 1 เปิดเผยว่า มุมที่ทดสอบเป็นมุมที่เจ้าหน้าที่ใช้ยิงปกติ แสดงให้เห็นว่า ตัวปลอกกระสุนที่เป็นโลหะ จะยังคงค้างในลำกล้องปืน ไม่สามารถทำอันตรายกับผู้ชุมนุมได้ ส่วนที่ลอยออกไปมีเพียงส่วนที่เป็นตัวกระบอกบรรจุแก๊สน้ำตา ทำจากพลาสติกสีน้ำเงิน ภายในบรรจุสารแก๊สน้ำตาอยู่เท่านั้น มันสามารถลุกไหม้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ชนิดระเบิดเหมือนที่ใช้ในการชุมนุมปี 2551
ยืนยันว่า การยิงแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ เป็นการยิงเพื่อให้ควันไปยับยั้งการคุกคาม ไม่มีการยิงใส่ตัว แต่บางครั้งทิศทางลมมีผลต่อวิถีแก๊สน้ำตา ทำให้ไม่ไปตกในจุดเป้าหมาย และอาจโดนถูกผู้ชุมนุมได้เช่นกัน นอกจากนี้ ปืนแก๊สน้ำตาเป็นลำกล้องที่ใช้กับกระสุนแก๊สน้ำตา 38 มิลลิเมตร และลำกล้องไม่มีเกลียว ไม่สามารถใช้คู่กับกระสุนหรือระเบิดชนิดอื่นได้ เพราะมีขนาดใหญ่กว่าตั้งแต่ 40 มิลลิเมตรขึ้นไป
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ขณะที่รายการข่าวค่ำมิติใหม่ ไทยพีบีเอส มีการโพสต์ภาพเปรียบเทียบตอนสาธิตกับสถานการณ์ที่ใช้แก๊สน้ำตาจริง ๆ พบว่า ตอนซ้อมจะยิงแบบโด่งย้อย แต่ตอนสถานการณ์จริง จะมีการยิงที่พุ่งแนวตรงมากกว่า ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการยิงที่ไม่เหมือนกับที่พูดไว้แบบตอนสาธิตให้ดู
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส
ช่วงนี้มีกระแสวิจารณ์ตำรวจเกี่ยวกับการควบคุมฝูงชน ในเรื่องการยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมว่า มีการปฏิบัติตามหลักสากลหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บสาหัสจากการถูกแก๊สน้ำตายิงเข้าใบหน้า
ล่าสุด วันที่ 19 สิงหาคม 2564 ไทยพีบีเอส รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีการสาธิตการยิงแก๊สน้ำตาต่อสื่อมวลชน ในระยะ 100 เมตร ด้วยแนววิถีโค้งมากกว่า 30 องศา เพื่อให้ตกพื้นที่เป้าหมายหวังผล ทำให้ประชาชนสามารถเห็นแนวทางการควบคุมฝูงชนได้ชัดเจนขึ้น
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
พ.ต.ท. ศรายุทธ อรุณฉาย รองผู้กำกับการควบคุมฝูงชน 1 เปิดเผยว่า มุมที่ทดสอบเป็นมุมที่เจ้าหน้าที่ใช้ยิงปกติ แสดงให้เห็นว่า ตัวปลอกกระสุนที่เป็นโลหะ จะยังคงค้างในลำกล้องปืน ไม่สามารถทำอันตรายกับผู้ชุมนุมได้ ส่วนที่ลอยออกไปมีเพียงส่วนที่เป็นตัวกระบอกบรรจุแก๊สน้ำตา ทำจากพลาสติกสีน้ำเงิน ภายในบรรจุสารแก๊สน้ำตาอยู่เท่านั้น มันสามารถลุกไหม้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ชนิดระเบิดเหมือนที่ใช้ในการชุมนุมปี 2551
ยืนยันว่า การยิงแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ เป็นการยิงเพื่อให้ควันไปยับยั้งการคุกคาม ไม่มีการยิงใส่ตัว แต่บางครั้งทิศทางลมมีผลต่อวิถีแก๊สน้ำตา ทำให้ไม่ไปตกในจุดเป้าหมาย และอาจโดนถูกผู้ชุมนุมได้เช่นกัน นอกจากนี้ ปืนแก๊สน้ำตาเป็นลำกล้องที่ใช้กับกระสุนแก๊สน้ำตา 38 มิลลิเมตร และลำกล้องไม่มีเกลียว ไม่สามารถใช้คู่กับกระสุนหรือระเบิดชนิดอื่นได้ เพราะมีขนาดใหญ่กว่าตั้งแต่ 40 มิลลิเมตรขึ้นไป
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
รายการข่าวไทยพีบีเอส เปรียบเทียบชัด ๆ ตอนซ้อมกับสถานการณ์จริง
ขณะที่รายการข่าวค่ำมิติใหม่ ไทยพีบีเอส มีการโพสต์ภาพเปรียบเทียบตอนสาธิตกับสถานการณ์ที่ใช้แก๊สน้ำตาจริง ๆ พบว่า ตอนซ้อมจะยิงแบบโด่งย้อย แต่ตอนสถานการณ์จริง จะมีการยิงที่พุ่งแนวตรงมากกว่า ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการยิงที่ไม่เหมือนกับที่พูดไว้แบบตอนสาธิตให้ดู
ภาพจาก ไทยพีบีเอส