แห่วิจารณ์ พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. สั่งเบรกนักข่าวหลังจี้ถาม ผู้กำกับโจ้ ปมถูกตำรวจปล่อยคลิป ฉุนถามแบบนี้ก็เจ๊ง หรือจะไม่ส่งฟ้องเลย คุณจะเอายังไง ?
จากการแถลงข่าวจับกุม พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังก่อเหตุทรมานผู้ต้องหายาเสพติดด้วยการเอาถุงคลุมหัวจนเสียชีวิตคาโรงพัก โดย พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. นำแถลงข่าวที่กองปราบปรามเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อได้ถาม ผู้กำกับโจ้ ผ่านการโฟนอินนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 26 สิงหาคม โลกออนไลน์ได้แชร์เหตุการณ์ช่วงหนึ่งที่นักข่าวถาม ผู้กำกับโจ้ ว่ารู้สึกยังไงที่ตำรวจชั้นผู้น้อยนำคลิปมาเผยแพร่นั้น ผู้กำกับโจ้ ระบุว่าขอให้ข้อมูลเท่านี้
สำหรับข้อสงสัยประเด็นการใช้ดุลยพินิจของแพทย์เรื่องพบสารเมทแอมเฟตามีนในร่างผู้ตาย ได้รับการยืนยันว่า เป็นการตรวจจากการร้องขอของพนักงานสอบสวนในวันที่ 7 สิงหาคม หลังจากผ่าตรวจแล้วนำปัสสาวะของผู้เสียชีวิตไปตรวจ จึงพบสารดังกล่าวถึงได้ลงความเห็นเช่นนั้น ส่วนผลอย่างเป็นทางการจะมีการส่งให้พนักงานสอบสวนอีกครั้ง ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำอย่างตรงไปตรงมา
คนคาใจ พาตัวผู้กำกับโจ้มามอบตัว แต่มองไม่เห็นทะเบียนรถ สงสัยมันใช่หรือเปล่า
ด้าน พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 เล่าไทม์ไลน์ก่อน ผู้กำกับโจ้ จะเข้ามอบตัวว่า ผู้กำกับโจ้โทร. มาหาเมื่อ 23.00 น. วันที่ 25 สิงหาคม บอกว่าไม่ไหวแล้วจะฆ่าตัวตาย ก็ได้บอกไปว่า ตายแล้วตำรวจจะเหลืออะไร ถ้าเป็นลูกผู้ชายพอ ให้กลับมารับผิดชอบกรณีดังกล่าว เป็นตำรวจต้องมีเกียรติ หนีไปไม่ได้ทำให้อะไรดี จึงนัดให้มาเจอกันที่ จ.ชลบุรี ในวันที่ 26 สิงหาคม นัดให้มาเจอหน้า สภ.แสนสุข ช่วง 16.00 น. ให้ผู้กำกับโจ้มาคนเดียวอย่ามีอาวุธ ตนใส่เครื่องแบบไปยืนรอหน้า สภ.แสนสุข และเมื่อถึงก็มีคนลงมาบอก "ผมโจ้" ใส่แมสก์มาจากรถเก๋งสีขาว แต่ไม่ได้มองเลขทะเบียน จากนั้นก็ทำบันทึกที่ สภ.แสนสุข และรายงานผู้บังคับบัญชา นำตัวมากองปราบฯ
เกี่ยวกับเรื่องนี้เกิดกระแสวิจารณ์ถึงการแถลงข่าวจับกุม ผู้กำกับโจ้ เป็นจำนวนมาก โดยนอกจากเนื้อหาที่ ผู้กำกับโจ้ ดูจะแก้ตัวค่อนข้างชัดเจน ยังรวมไปถึงท่าทีของรอง ผบ.ตร. ที่มีการตัดจบการสัมภาษณ์ของผู้กำกับโจ้ด้วยความไม่สบอารมณ์ผู้สื่อข่าว รวมไปถึงการที่บอกว่า ไม่เห็นทะเบียนของรถที่มาส่งผู้กำกับโจ้ ซึ่งปกติแล้ว ต้องเป็นสัญชาตญาณแรกของคนทำงานด้านนี้ด้วยซ้ำ ที่จะต้องมองหาป้ายทะเบียนก่อน
ภาพจาก กองปราบปราม
