เปิดใจลุงและป้าน้องจีน่า ผู้เจอตัวน้องคนแรก เชื่อหาเจอตามคำบอกของหมอผี ด้านตำรวจและกู้ภัยชี้คนร้ายมีมากกว่าหนึ่ง หลังพบพิรุธที่กระท่อม ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ งานนี้จะลักพาตัวเด็กไปทำไม พ่อแม่เด็กไม่ได้ร่ำรวย
คดีที่สังคมร่วมส่งกำลังใจให้ตลอดหลายวันที่ผ่านมา กรณีการหายตัวไปของน้องจีน่า เด็กหญิงอายุ 1 ขวบกว่า ที่หายตัวไปร่วม 3 วัน ก่อนจะพบตัวเมื่อวานนี้ (8 กันยายน 2564) ส่วนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นจับได้แล้ว 1 คน คือนายเสี่ยว หรือนายอาผะ ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อน้อง อ้างว่าลักพาตัวน้องไปทิ้งหน้าถ้ำบนดอย เพื่อนถวายผีถ้ำ ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : พบตัวแล้ว น้องจีน่า ล่าสุดน้องปลอดภัยในกระท่อม ป้าร้องไห้กลางเที่ยงวันฯ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (9 กันยายน 2564) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานบทสัมภาษณ์ นายจะบูสือ จะลอ ลุงของจีน่า ที่เป็นคนพบตัวน้องคนแรก เปิดเผยว่า ตนเองขึ้นไปหาพร้อมกับพี่สาวที่มีศักดิ์เป็นป้าน้อง และเพื่อนบ้านอีกคน ซึ่งนาทีที่เจอตัวน้องในกระท่อม ก็ได้เรียกชื่อจนน้องหัน พบว่าน้องยังเล่นได้ ไม่ได้มีทีท่าอ่อนแรงอะไร แต่ตัวเองไม่กล้าเข้าไป ให้พี่สาวและเพื่อนบ้านเข้าไปหาน้องแทน เนื่องจากกลัวน้องจะตกใจ เพราะไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านเดียวกัน ไม่ได้คุ้นเคยกัน จากนั้นก็รีบลงมาบอกแม่น้องว่าเจอตัวแล้ว หลังพยายามโทร. หาแต่สัญญาณไม่ดี
สาเหตุที่ออกตามหาตรงจุดดังกล่าว เพราะเชื่อตามคำบอกหมอผี หลังรู้ว่าหลานหายตัวก็ให้ภรรยาไปถามหมอผี หมอผีบอกว่าน้องยังมีชีวิต ให้ตามหาตรงจุดที่มีแท็งก์น้ำและใกล้สนาม เพราะน้องถูกลักพาตัวไป ซึ่งตนเองเน้นตามหาจุดที่หมอผีบอกนาน 2 วัน จึงพบหลานดังกล่าว ซึ่งตอนแรกอ้อมอยู่ด้านหลังเนินเขาที่เป็นสวนกล้วยกำลังจะวนกลับลงมาเข้าหมู่บ้าน แต่มาผ่านที่กระท่อมจนเจอตัวหลาน จึงเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้พบคือคำทำนายของหมอผีที่บอกไว้
ด้าน นางนาคาจู จะลือ ป้าของน้องจีน่า กล่าวว่า ส่วนตัวก็ตั้งใจไปตามหมอดูบอกเช่นกัน คือให้หาตรงหน้าผาทางขวาของบ้านหลาน ซึ่งหมอดูบอกว่าไม่ต้องไปเยอะ ให้ไปกันแค่ 2-3 คน ไม่ต้องส่งเสียงแล้วจะเจอหลานที่กระท่อม ตอนนั้นก็ตามหาแบบไม่ได้คาดหวัง แต่พอเจอหลานก็ดีใจจนจะเป็นลม ยืนยันว่าก่อนหน้านี้มาหาหลานตรงจุดนี้แล้ว แต่ตอนนั้นไม่เจอตัว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสังเกตว่า จุดที่พบตัวเป็นทางลาดชัน น้องไม่น่าจะขึ้นไปเองได้ และตลอดระยะเวลาที่หายตัวไป 65 ชั่วโมง 30 นาที น้องคงอยู่ไม่ได้แน่หากไม่มีคนเอาอาหารมาให้กิน หรือจะอยู่คนเดียวตามลำพังก็เป็นไปได้ยาก
ขณะที่ นายบุญพิภพ ก๋องคำ อาสากู้ภัย กล่าวยืนยันว่า ตนเองขึ้นไปหาจุดที่พบน้องจีน่าแล้วก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนั้นไม่เจอใครเลย ตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ แต่กลับมาเจอตัวน้องในวันที่ 8 กันยายน จึงตั้งข้อสังเกตว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าน้องจะมาอยู่ตรงจุดนั้นตลอดทั้งช่วง 3 วัน ที่ผ่านมา และไม่น่าเป็นไปได้ว่าเด็กจะอยู่ตรงนั้นข้ามคืนโดยไม่มีรอยยุงกัด หรือการขับถ่าย ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีคนพาน้องไปไว้ตรงจุดนั้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคำรับสารภาพของนายเสี่ยว หรือนายอาผะ อายุ 44 ปี ชาวเมียนมา ผู้ต้องหาที่ให้การยอมรับว่าอุ้มตัวน้องไปทิ้งไว้เพื่อสังเวยผีถ้ำนั้น แต่กลับมาพบตัวน้องในกระท่อมที่เป็นจุดที่เชื่อว่าน้องไม่สามารถมาเองได้ จึงตั้งข้อสังเกตว่านายเสี่ยว น่าจะไม่ได้ก่อเหตุคนเดียว
ประกอบกับ นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า ประเด็นลักเด็กไปขาย เท่าที่ทำงานมูลนิธิมา ขอทานที่เป็นเด็กในไทยส่วนใหญ่เป็นต่างด้าว แต่หากจะลักเด็กไปขายจริง คงพาเด็กออกนอกพื้นที่ให้เร็วที่สุด ไม่น่าจะเอาขึ้นเขา หรือพุ่งประเด็นที่ว่าลักไปเพื่อขายให้ครอบครัวต่างชาติ ก็เป็นไปได้ยากเพราะส่วนใหญ่จะใช้วิธีอุ้มบุญ
นายเอกลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าแรงจูงใจในการลักพาตัวน้องจีน่าครั้งนี้ เชื่อว่ามี 3 ประเด็นหลัก คือ เพื่อการอนาจาร, เพราะความเสน่หา หรือเพื่อผลประโยชน์อื่นที่จะไม่ทำเป็นขบวนการ จะทำในลักษณะตัวต่อตัวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า นายเสี่ยว หรือนายอาผะ ให้การซัดทอดถึงลูกสาวที่เป็นลูกติดภรรยาว่าเป็นคนบงการ ซึ่งทางลูกสาวเข้าให้การกับตำรวจ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนเองมีปัญหากับนายเสี่ยว จนต้องย้ายออกจากบ้านมาอยู่กับสามีและลูก เพราะนายเสี่ยวชอบดื่มเหล้าและมีพฤติกรรมฉุนเฉียว ชอบเพ้อเรื่องผีสาง และมีพฤติกรรมชอบเล่นกับเด็กผู้หญิงเป็นพิเศษ
ก่อนเกิดเรื่องนายเสี่ยวก็เคยขู่ฆ่าแม่เพื่อเอาเงินไปซื้อเหล้า ซึ่งก่อนเกิดเรื่องนายเสี่ยวขอย้ายมาอยู่กับตนและสามี แต่เกิดมีเรื่องชกต่อยกับสามี เพราะเมาเหล้าและเพ้อ และชอบเข้าใกล้ลูกสาวตน จึงไล่ออกจากบ้าน ก่อนจะมาเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
คดีที่สังคมร่วมส่งกำลังใจให้ตลอดหลายวันที่ผ่านมา กรณีการหายตัวไปของน้องจีน่า เด็กหญิงอายุ 1 ขวบกว่า ที่หายตัวไปร่วม 3 วัน ก่อนจะพบตัวเมื่อวานนี้ (8 กันยายน 2564) ส่วนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นจับได้แล้ว 1 คน คือนายเสี่ยว หรือนายอาผะ ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อน้อง อ้างว่าลักพาตัวน้องไปทิ้งหน้าถ้ำบนดอย เพื่อนถวายผีถ้ำ ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : พบตัวแล้ว น้องจีน่า ล่าสุดน้องปลอดภัยในกระท่อม ป้าร้องไห้กลางเที่ยงวันฯ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (9 กันยายน 2564) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานบทสัมภาษณ์ นายจะบูสือ จะลอ ลุงของจีน่า ที่เป็นคนพบตัวน้องคนแรก เปิดเผยว่า ตนเองขึ้นไปหาพร้อมกับพี่สาวที่มีศักดิ์เป็นป้าน้อง และเพื่อนบ้านอีกคน ซึ่งนาทีที่เจอตัวน้องในกระท่อม ก็ได้เรียกชื่อจนน้องหัน พบว่าน้องยังเล่นได้ ไม่ได้มีทีท่าอ่อนแรงอะไร แต่ตัวเองไม่กล้าเข้าไป ให้พี่สาวและเพื่อนบ้านเข้าไปหาน้องแทน เนื่องจากกลัวน้องจะตกใจ เพราะไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านเดียวกัน ไม่ได้คุ้นเคยกัน จากนั้นก็รีบลงมาบอกแม่น้องว่าเจอตัวแล้ว หลังพยายามโทร. หาแต่สัญญาณไม่ดี
ลุง-ป้าน้องจีน่า เชื่อเจอตัวหลาน ตามคำทำบอกของหมอผี
สาเหตุที่ออกตามหาตรงจุดดังกล่าว เพราะเชื่อตามคำบอกหมอผี หลังรู้ว่าหลานหายตัวก็ให้ภรรยาไปถามหมอผี หมอผีบอกว่าน้องยังมีชีวิต ให้ตามหาตรงจุดที่มีแท็งก์น้ำและใกล้สนาม เพราะน้องถูกลักพาตัวไป ซึ่งตนเองเน้นตามหาจุดที่หมอผีบอกนาน 2 วัน จึงพบหลานดังกล่าว ซึ่งตอนแรกอ้อมอยู่ด้านหลังเนินเขาที่เป็นสวนกล้วยกำลังจะวนกลับลงมาเข้าหมู่บ้าน แต่มาผ่านที่กระท่อมจนเจอตัวหลาน จึงเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้พบคือคำทำนายของหมอผีที่บอกไว้
ด้าน นางนาคาจู จะลือ ป้าของน้องจีน่า กล่าวว่า ส่วนตัวก็ตั้งใจไปตามหมอดูบอกเช่นกัน คือให้หาตรงหน้าผาทางขวาของบ้านหลาน ซึ่งหมอดูบอกว่าไม่ต้องไปเยอะ ให้ไปกันแค่ 2-3 คน ไม่ต้องส่งเสียงแล้วจะเจอหลานที่กระท่อม ตอนนั้นก็ตามหาแบบไม่ได้คาดหวัง แต่พอเจอหลานก็ดีใจจนจะเป็นลม ยืนยันว่าก่อนหน้านี้มาหาหลานตรงจุดนี้แล้ว แต่ตอนนั้นไม่เจอตัว
ตำรวจเชื่อคนร้ายมีมากกว่า 1 คน เผยกระท่อมที่เจอตัว เคยมาหาแล้วแต่ตอนแรกไม่เจอ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสังเกตว่า จุดที่พบตัวเป็นทางลาดชัน น้องไม่น่าจะขึ้นไปเองได้ และตลอดระยะเวลาที่หายตัวไป 65 ชั่วโมง 30 นาที น้องคงอยู่ไม่ได้แน่หากไม่มีคนเอาอาหารมาให้กิน หรือจะอยู่คนเดียวตามลำพังก็เป็นไปได้ยาก
ขณะที่ นายบุญพิภพ ก๋องคำ อาสากู้ภัย กล่าวยืนยันว่า ตนเองขึ้นไปหาจุดที่พบน้องจีน่าแล้วก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนั้นไม่เจอใครเลย ตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ แต่กลับมาเจอตัวน้องในวันที่ 8 กันยายน จึงตั้งข้อสังเกตว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าน้องจะมาอยู่ตรงจุดนั้นตลอดทั้งช่วง 3 วัน ที่ผ่านมา และไม่น่าเป็นไปได้ว่าเด็กจะอยู่ตรงนั้นข้ามคืนโดยไม่มีรอยยุงกัด หรือการขับถ่าย ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีคนพาน้องไปไว้ตรงจุดนั้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคำรับสารภาพของนายเสี่ยว หรือนายอาผะ อายุ 44 ปี ชาวเมียนมา ผู้ต้องหาที่ให้การยอมรับว่าอุ้มตัวน้องไปทิ้งไว้เพื่อสังเวยผีถ้ำนั้น แต่กลับมาพบตัวน้องในกระท่อมที่เป็นจุดที่เชื่อว่าน้องไม่สามารถมาเองได้ จึงตั้งข้อสังเกตว่านายเสี่ยว น่าจะไม่ได้ก่อเหตุคนเดียว
มูลนิธิกระจกเงา ตั้งปมเหตุ 3 ประเด็นในการลักพาตัว
ประกอบกับ นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า ประเด็นลักเด็กไปขาย เท่าที่ทำงานมูลนิธิมา ขอทานที่เป็นเด็กในไทยส่วนใหญ่เป็นต่างด้าว แต่หากจะลักเด็กไปขายจริง คงพาเด็กออกนอกพื้นที่ให้เร็วที่สุด ไม่น่าจะเอาขึ้นเขา หรือพุ่งประเด็นที่ว่าลักไปเพื่อขายให้ครอบครัวต่างชาติ ก็เป็นไปได้ยากเพราะส่วนใหญ่จะใช้วิธีอุ้มบุญ
นายเอกลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าแรงจูงใจในการลักพาตัวน้องจีน่าครั้งนี้ เชื่อว่ามี 3 ประเด็นหลัก คือ เพื่อการอนาจาร, เพราะความเสน่หา หรือเพื่อผลประโยชน์อื่นที่จะไม่ทำเป็นขบวนการ จะทำในลักษณะตัวต่อตัวเท่านั้น
ลูกเลี้ยงนายเสี่ยว ปฏิเสธเป็นคนบงการ หลังถูกซัดทอด
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า นายเสี่ยว หรือนายอาผะ ให้การซัดทอดถึงลูกสาวที่เป็นลูกติดภรรยาว่าเป็นคนบงการ ซึ่งทางลูกสาวเข้าให้การกับตำรวจ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนเองมีปัญหากับนายเสี่ยว จนต้องย้ายออกจากบ้านมาอยู่กับสามีและลูก เพราะนายเสี่ยวชอบดื่มเหล้าและมีพฤติกรรมฉุนเฉียว ชอบเพ้อเรื่องผีสาง และมีพฤติกรรมชอบเล่นกับเด็กผู้หญิงเป็นพิเศษ
ก่อนเกิดเรื่องนายเสี่ยวก็เคยขู่ฆ่าแม่เพื่อเอาเงินไปซื้อเหล้า ซึ่งก่อนเกิดเรื่องนายเสี่ยวขอย้ายมาอยู่กับตนและสามี แต่เกิดมีเรื่องชกต่อยกับสามี เพราะเมาเหล้าและเพ้อ และชอบเข้าใกล้ลูกสาวตน จึงไล่ออกจากบ้าน ก่อนจะมาเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น