สำนักงานคณะกรรมการอัยการ เผยมติที่ประชุม สั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เนตร นาคสุข กรณีไม่สั่งฟ้องคดีบอส อยู่วิทยา โทษสูงสุดคือไล่ออก
ภาพจาก สำนักงานอัยการสูงสุด
วันที่ 21 กันยายน 2564 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ เปิดเผยผลการประชุมในวาระการพิจารณาโทษทางวินัย นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส คดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อต้นเดือนกันยายน 2555 ว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงนายเนตร โดยให้นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ เป็นประธานคณะกรรมการ
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าการสั่งคดีของนายเนตรนั้นขาดความรอบคอบ มีความประมาทเลินเล่อค่อนข้างร้ายแรง ถือว่ามีมูลความผิดในการจะสอบวินัยอย่างร้ายแรง โดยวินัยร้ายเเรงมีโทษทางข้าราชการสูงสุดคือ การไล่ออก แต่หากผู้เสียหายไม่เห็นด้วยสามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้
ภาพจาก Vorayuth Yoovidhya
โดยการประชุมมีคณะกรรมการอัยการเข้าร่วมประชุม 13 คน จาก 15 คน เนื่องจากลา 2 คน ซึ่งมี 9 เสียง เห็นควรให้สอบสวนวินัยร้ายเเรง มี 2 คน งดออกเสียง คือ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ และนายไชยา เปรมประเสริฐ รองอัยการสูงสุด ส่วนนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ในฐานะประธานกรรมการสอบต้องออกจากห้องประชุม เเละนายพชร ยุติธรรมดำรง ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการอัยการ ก็งดออกเสียงเนื่องจากไม่ใช่การชี้ขาด
นายพชร กล่าวทิ้งท้ายกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายเนตร เตรียมยื่นลาออกเป็นครั้งที่ 2 นั้น ถือเป็นอำนาจของอัยการสูงสุดในการพิจารณา แต่ก็ไม่กระทบกับการสอบวินัยร้ายแรงแม้จะลาออกไป เพราะยังคงสามารถเรียกมาสอบได้ภายใน 180 วัน
สำหรับกรณีของอัยการอีกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ก็จะถูกสอบสวนด้วยจากคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรงที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ก่อนดำเนินการพิจารณาโทษต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
ภาพจาก สำนักงานอัยการสูงสุด
วันที่ 21 กันยายน 2564 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ เปิดเผยผลการประชุมในวาระการพิจารณาโทษทางวินัย นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส คดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อต้นเดือนกันยายน 2555 ว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงนายเนตร โดยให้นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ เป็นประธานคณะกรรมการ
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าการสั่งคดีของนายเนตรนั้นขาดความรอบคอบ มีความประมาทเลินเล่อค่อนข้างร้ายแรง ถือว่ามีมูลความผิดในการจะสอบวินัยอย่างร้ายแรง โดยวินัยร้ายเเรงมีโทษทางข้าราชการสูงสุดคือ การไล่ออก แต่หากผู้เสียหายไม่เห็นด้วยสามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้
ภาพจาก Vorayuth Yoovidhya
โดยการประชุมมีคณะกรรมการอัยการเข้าร่วมประชุม 13 คน จาก 15 คน เนื่องจากลา 2 คน ซึ่งมี 9 เสียง เห็นควรให้สอบสวนวินัยร้ายเเรง มี 2 คน งดออกเสียง คือ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ และนายไชยา เปรมประเสริฐ รองอัยการสูงสุด ส่วนนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ในฐานะประธานกรรมการสอบต้องออกจากห้องประชุม เเละนายพชร ยุติธรรมดำรง ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการอัยการ ก็งดออกเสียงเนื่องจากไม่ใช่การชี้ขาด
นายพชร กล่าวทิ้งท้ายกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายเนตร เตรียมยื่นลาออกเป็นครั้งที่ 2 นั้น ถือเป็นอำนาจของอัยการสูงสุดในการพิจารณา แต่ก็ไม่กระทบกับการสอบวินัยร้ายแรงแม้จะลาออกไป เพราะยังคงสามารถเรียกมาสอบได้ภายใน 180 วัน
สำหรับกรณีของอัยการอีกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ก็จะถูกสอบสวนด้วยจากคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรงที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ก่อนดำเนินการพิจารณาโทษต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3