หนุ่มปรึกษาเรื่องหนี้ กยศ. พ้อเหมือนโดนหลอก ขอแนวทาง ก่อนโดนทัวร์ลง !

 
               หนุ่มปรึกษาเรื่องหนี้ กยศ. ยากจนจนต้องยอมเซ็น พ้อเหมือนโดนหลอกให้เรียน ถามเงินเดือนไม่ถึง 2 หมื่น อายัดบัญชีได้ไหม เจอโซเชียลถล่มเละ ซัดเป็นหนี้ก็ต้องใช้ ไม่ใช่หาแนวทางเบี้ยว งานนี้ถึงกับแก้ไขข้อความในกระทู้

            โดยเจ้าของกระทู้ระบุว่า เคยได้ยินว่า พ.ร.บ.คุ้มครองลูกหนี้ เจ้าหนี้จะอายัดเงินเดือนในส่วนที่เกิน 20,000 บาท ได้ แต่หากเงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาท จะไม่สามารถอายัดได้ แต่ของ กยศ. จะใช้ พ.ร.บ. คนละฉบับที่ถึงแม้เงินเดือนจะไม่ถึง 20,000 บาท ก็สามารถอายัดเงินเดือนได้ จึงอยากสอบถามว่า

            1. ถ้าเงินเดือน 15,000 จะโดนหัก เท่าไหร่
            2. กรณีมีบ้านและรถที่ผ่อนอยู่ กรมบังคับคดี สามารถอายัดได้ด้วยหรือไม่

            เจ้าของกระทู้ระบุว่าตนยังไม่เข้าใจจึงมาถามความคิดเห็น ทั้งนี้ ตนถูกศาลสั่งหักเงินเดือนแล้ว ก็มีการหักแต่บริษัทก็หยุดหักไปจนบัญชีเงินฝากตรถูกอายัด ซึ่งตนไม่ซีเรียสกับบัญชีเงินฝากที่มีเงินมากกว่า 2 หมื่น แต่ห่วงบัญชีเงินเดือนที่ตนมีเงินเดือน 14,000 บาท ที่ไม่รู้จะโดนหักหรือยึดไปเลย ซึ่งตนคงต้องออกจากงาน ตนมีทรัพย์สินอยู่อย่างเดียว และคนค้ำก็เสียชีวิตหมดแล้ว

            "ขอบคุณสำหรับคำตอบที่มีประโยชน์นะครับผมจะนำไปปฏิบัติต่อไปครับ ส่วนคำตอบที่ไม่มีสาระ จิตใจคับแคบ อ่านหนังสือไม่เข้าใจ  ผมก็ขอบคุณเช่นกัน สุดท้ายผมก็ยังจะตั้งใจตอบทุกคอมเม้นต์ต่อไปครับ ตั้งมั่นทำความดีต่อครับ"

            ขณะที่ความคิดเห็นอื่น ๆ ต่างระบุหากมีหนี้ก็ควรจ่ายเพื่อที่จะให้รุ่นน้องรุ่นต่อ ๆ ไปได้มีโอกาสเรียนบ้าง เรื่องบางเรื่องไม่ต้องอิงกฎหมาย แต่อิงจริยธรรม กฎหมายบางอันมีช่องว่าง คนหลีกเลี่ยงกัน แต่เราไม่ควรเป็นคนเลว ๆ แบบนั้นก็ได้  เป็นหนี้ก็ควรจ่ายแต่แรกถึงกำหนดก็ควรจ่าย ได้เงินจากภาษีประชาชนไปได้เรียนจนมีเงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถได้  ก็จ่ายไปโดยไม่ต้องมีคำถามก็ได้ รุ่นอื่น ๆ จะได้มีเงินไปเรียนบ้าง
            อย่างไรก็ตาม ท้ายกระทู้ดังกล่าวมีการระบุว่าข้อความในกระทู้ถูกแก้ไขในวันที่ 1 ตุลาคม 2564

            ทั้งนี้ในความคิดเห็นก่อนที่เจ้าของกระทู้จะแก้ข้อควาพบว่ามีคนได้อ่านข้อความก่อนหน้านี้แล้วสรุปมาได้ว่า เจ้าของกระทู้ยากจน ไม่มีโอกาสเรียน กระทั่งมีอาจารย์มาช่วยให้ได้เรียน มีค่ากินค่าอยู่ ซึ่งนั่นก็คือการกู้ กยศ. ด้วยความที่เจ้าของกระทู้อยากเรียนจึงเซ็นไปทุกอย่าง พอเรียนจบก็เหมือนไม่อยากจะคืนเงิน แล้วกลับมาตั้งกระทู้ตัดพ้อว่าถูกหลอกให้เรียน ข้อความก่อนที่จะแก้ไขเหมือนกับตั้งใจจะเบี้ยว การที่เจ้าหนี้ตามจนส่งฟ้องศาลนั้่นก็แสดงว่าตั้งใจเลี่ยงมาตลอดแต่หาข้ออ้างมาร้อยแปด

            ขณะที่ความคิดเห็นอื่น ๆ ต่างก็ระบุให้เจ้าของกระทู้ลองไปเจรจากับเจ้าหนี้ดูก่อนเพื่อที่จะผ่อนหนักให้กลายเป็นเบา แต่สำคัญที่สุดคือเป็นหนี้แล้วต้องจ่าย