เรือล่มวัดพนัญเชิง 6 วันยังหาศพไม่เจอ ครอบครัวเชื่ออาถรรพ์วังน้ำวน ถ้ำใต้น้ำ !

          ครอบครัวเชื่ออาถรรพ์วังน้ำวน ทำเรือลากจูงล่มหน้าวัดพนัญเชิง ลูกสาวผู้สูญหายเศร้า 6 วันยังหาศพแม่ไม่เจอ คาดถูกดูดติดอยู่ในเรือ ต้องรออีก 2 เดือนกู้ซาก 


          จากกรณีอุบัติเหตุเรือลากจูงล่มหน้าวัดพนัญเชิง จ.อยุธยา มีผู้สูญหาย 2 ราย คือ นายสมชาย ธารกุล อายุ 66 ปี คนขับเรือ และนางนฤมล จันทรโชติ อายุ 51 ปี ภรรยา ต่อมาพบศพนายสมชาย ลอยน้ำคว่ำหน้าอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำศิริราช ขณะที่ภรรยายังหาไม่เจอ ในด้านความเชื่อ เชื่อว่าบริเวณนั้นเป็นจุดอาถรรพ์

         รายการ โหนกระแส วันที่  4 ตุลาคม 2564 สัมภาษณ์ โบว์ ลูกสาวคุณสมชาย, สุพรรษ ฤทธิ์ฉิม  ลูกสาวคุณนฤมล ผู้สูญหาย รวมทั้ง คุณกัลยา พี่สาวคุณนฤมล มาพร้อม กฤษฎา บัวรังษี หัวหน้ากลุ่มงานท่องเที่ยว สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


ทำใจแล้วว่าคุณแม่อาจไม่ได้อยู่กับเราแล้ว ?

         สุพรรษา : ค่ะ

2 ท่านเคยเจอกันมาก่อนมั้ย ?

         สุพรรษา : ไม่เคยเลยค่ะ


คุณสมชาย กับคุณนฤมล มีลูกกันอยู่แล้ว คุณสมชายมีลูกคือคุณโบว์ คุณนฤมล มีลูกคือสุพรรษา ทั้ง 2 คนไม่เคยเจอกัน เหตุการณ์วันนั้นโบว์รู้เรื่องได้ยังไง ?

         โบว์ : ตอนพักกินข้าวที่บริษัท เห็นมีคนโพสต์เฟซว่าเรือล่ม แล้วอาตะโกนมาว่าโบว์ พ่อเรือคว่ำแล้วนะ ก็ขอกลับบ้านที่สมุทรปราการ

พ่อเดินเรือมานานหรือยัง ?

         โบว์ : เดินเรือมาตลอดค่ะ ทั้งชีวิตพ่อ เป็นอาชีพสมัยปู่ย่าเลย เรือพ่อคือเรือลากค่ะ

เหตุวันนั้นที่คุยเกิดอะไรขึ้น ?

         โบว์ : จากที่ดูในคลิป เรือพ่อหมุนเสียหลัก แล้วไปชนลำข้าง ๆ แล้วมีการไปชนกับบ้านคน พ่อเบรกแล้วถอย

เรือมา 5 ลำ พ่อลำสุดท้ายมั้ย ?

         โบว์ : พ่อลำสุดท้ายค่ะ


เรือพ่อไปชนเขาเหรอ ?

         โบว์ : เหมือนเสียหลัก ตกร่องน้ำ แล้วโคลง พอชนก็ไปชนอีกลำนึง

พอเสียหลัก ประกอบกับน้ำแรงด้วย ?

         โบว์ : ค่ะ แล้วจะมาชนบ้าน ชนแพอาหาร ก็เบรกแล้วถอยหลัง แต่ 4 ลำเขาพ้นน้ำไปแล้ว เขาก็มีเชือกเกี่ยวหลังเรือแล้วลาก 5 ลำ ลากเรือบรรทุก 4 ลำ มาด้วยกัน แล้ว 4 ลำเหมือนพ้นไปแล้ว ของพ่อพอเกี่ยวแล้วตกร่องน้ำอยู่ ก็เลยพลิก

ไกลมั้ยลอยมาติดอยู่ศิริราช ?

         โบว์ : ไกลมาก ตอนเจอครั้งแรก กู้ภัยบอกเจอศพที่สามเสน แป๊บเดียวบอกเจอที่ศิริราชแล้ว ประมาณ 1 กิโล น้ำแรงมาก

ศพนฤมลยังไม่เจอ ?

         สุพรรษา : วันที่เรือจมวันแรก วันที่ 29 ยังกู้เรือ หาศพลุงชายกับแม่ พอวันที่ 30 มีเด็กแถวบ้านทรายเขาบอกว่าเจอศพแม่หนูที่บางทราย เราเลยไปตามหาแม่เอง ไปกับครอบครัว ไปกับป้าพี่สาวแม่ และพี่ ๆ พวกพี่อาสากู้ภัยช่วยกันตามหา พอวันที่ 1 ตุลาคม พวกพี่ ๆ ก็ยุ่งกับการกู้เรือ เราตามหาแต่ไม่เจอ

คนที่เห็น ?

         สุพรรษา : ไม่ทราบเหมือนกัน เราก็ 50-50 แต่พอเขาบอกเจอก็ต้องไปหา แต่ไปแล้วหาไม่เจอค่ะ


2 ท่านคิดว่าเหตุเกิดเพราะอะไร ?

         สุพรรษา : คิดว่ากระแสน้ำ ตรงนั้นเป็นน้ำวนอยู่แล้ว แล้วเป็นสามแยก เป็นจุดอันตรายที่สุดของคนเดินเรือ หนูก็อยู่เรือเหมือนกัน หนูก็เกิดในเรือ แม่อยู่เรือมาตลอด ตรงนั้นค่อนข้างเชี่ยว น้ำวนตลอด น้ำมาประจบกันค่ะ

วนหลายจุดมั้ย ?

         สุพรรษา : หลายจุด แต่หลัก ๆ คือจุดที่เรือล่มเลย

บางคนบอกเป็นอาถรรพ์ ?

         สุพรรษา : เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็เชื่อเหมือนกัน เคยได้ยินประวัติมาเหมือนกัน มีจระเข้ มีถ้ำใต้น้ำ ใต้วัดอะไรแบบนี้ค่ะ

         โบว์ : ถ้ำพญานาค อะไรแบบนี้ค่ะ

คิดว่าแม่ติดอยู่ในเรือมั้ย ?

         สุพรรษา : หนูคิดว่าติดอยู่ในเรือค่ะ แม่อยู่ข้างนอกก็จริง แต่ช่วงพลิกคว่ำ อาจโดนดูดเข้าไป

         โบว์ : ถ้าดูในคลิปประตูห้องเครื่องเปิดอยู่ พ่ออยู่หัวเรือ น้ามลอยู่ข้างหลัง น้ำอาจจะแรง ซัดเข้าไปในห้องเครื่องหรือเปล่า

เรือลำนี้ ถ้าสังเกตด้านหน้าห้องโดยสาร พ่ออยู่ข้างใน ส่วนตัวแม่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่ประตูที่เปิดอยู่ ลูก 2 คนเชื่อว่า พอเรือตะแคง น้ำดูดไปในห้องเครื่อง เป็นไปได้แม่อาจไม่กระเด็นตกลงมา อาจถูกดูดไปในตัวเรือและติดอยู่ข้างใน เพราะตอนนี้ยังหาไม่เจอ ?

         สุพรรษา : ค่ะ น้ำซัดเข้าห้องเครื่อง

คิดว่าจะมีปาฏิหาริย์กับแม่มั้ย ?

         สุพรรษา : คิดตั้งแต่วันแรกค่ะ แม่อาจลอยคอไป แต่เราคิดว่าน้ำแรงจัด คงไม่ขนาดนั้น แต่แม่เป็นคนเดียวที่จำเบอร์โทรศัพท์หนูได้ ถ้ารอดชีวิตต้องโทร. หาลูกบ้าง แต่รอมาถึงวันที่ 6 แล้วค่ะ ไม่มีวี่แววเลย

กัลยามองยังไง ?

         กัลยา : ไม่ได้คิดว่าจะมีปาฏิหาริย์ ขนาดนี้ไม่มีทางรอด


ตรงจุดนี้อันตรายยังไง ?

         กฤษฎา : เหมือนที่คุยช่วงต้นรายการ จุดนั้นเป็นที่บรรจบของแม่น้ำ 2 สายคือเจ้าพระยาและป่าสัก ซึ่ง 2 สายเป็นแม่น้ำที่ใหญ่มาก พอชนกันก็กลายเป็นน้ำวนขนาดใหญ่ เป็นแม่น้ำเจ้าพระยาลงไปกรุงเทพฯ พอฝนตกเยอะ ๆ หรือฤดูน้ำหลาก ก็เป็นจุดอันตรายมากกับการเดินเรือในพื้นที่

         จริง ๆ เราสามารถย้อนไปสมัยกรุงศรีอยุธยาได้เลย ตรงนั้นเป็นบริเวณที่เรียกว่าคุ้งสำเภาล่ม เป็นจุดที่เรือสำเภาล่มบ่อยมากเพราะเป็นจุดน้ำวน ในอดีตเวลาอยุธยาติดต่อนานาชาติ ญี่ปุ่น จีน กระทั่งไปอินเดีย เปอร์เซีย ยุโรป หรือเรือสำเภาเวลามาอยุธยา ก็เข้าอ่าวไทยแล้วมาเจออยุธยาตรงบริเวณวังน้ำวนตรงนี้ก่อนที่แรก ฉะนั้นมันก็จะเจอเหตุการณ์ที่เรือสำเภาล่มบริเวณนี้บ่อย จนชาวบ้านเรียกว่าคุ้มสำเภาล่ม

เป็นที่รู้กันดีในอยุธยา มีประวัติความเป็นมาแบบนี้ ?

         กฤษฎา :  ครับ ปัจจุบันชื่อตำบลนั้น ยังเรียกตำบลสำเภาล่มจนถึงปัจจุบัน แล้วมีเรื่องเชื่อเกี่ยวกับสถานที่อย่างวัดพนัญเชิงในอดีต เป็นวัดมีชื่อเสียงมาก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาปีนึงเยอะมาก ๆ อันดับต้น ๆ ของจังหวัด คนในท้องถิ่นเล่าว่าเวลาไหว้หลวงพ่อโต ในพระอุโบสถ ให้เอาหูแนบพื้น เราจะได้ยินเสียงเหมือนมีโพรง หรือถ้ำอยู่ข้างล่าง คนในพื้นที่เขาเล่าต่อลูกหลานกันมา เขาเชื่อว่าข้างล่างมีถ้ำ มีโพลง มีจระเข้ใหญ่อยู่ข้างล่าง ซึ่งความเชื่อนี้เป็นเรื่องโชคลาภ มงคลมากกว่า ไม่ได้เป็นความเชื่อว่าใครจะเสียชีวิตตรงนั้น

         แต่ความเชื่อชาวเรือที่เชื่อว่าจุดนั้นเป็นจุดอาถรรพ์มันเกิดจากลักษณะทางภูมิศาสตร์ เพราะน้ำวนแรงมาก พอผ่านบริเวณนั้นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และทุกปีเกิดอุบัติเหตุตรงบริเวณนั้น ก็มีกรณีที่คนเรือหลายคน ถ้าเรือลำเล็ก เขาจะลัดไปทางคลองตะเคียน เป็นคลองลัดที่ไม่จำเป็นต้องมาผ่านจุดอันตรายขนาดนี้ หรือบางคนต้องผ่านจริง ๆ ก็จุดธูปบอกกล่าว เป็นการขออนุญาตขอผ่านทางก่อน ถ้ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย


ปัจจุบันเรือล่มบ่อยมั้ย ?

         กฤษฎา : บ่อยครับ หลังเหตุการณ์นี้ไม่กี่วัน ก็มีเรือล่มบริเวณใกล้ ๆ กันเป็นเรือลากข้ามฟาก 2 ฝั่ง มันเกิดจากน้ำหลากแรงมาก วันก่อนไปยืนดูบริเวณหัวแหลม น้ำไหลแรงมากเหมือนริมทะเลเลย เผื่อผู้ชมเคยดูบุพเพฯ มีฉากที่พี่หมื่นตกน้ำ การะเกดลงไปช่วยผายปอด ก็เกิดบริเวณนี้ เรียกว่าตลาดน้ำวนบางกะจะ  จินตนาการว่าพอมีคุ้งน้ำมารวมกัน 3 ฝั่ง น้ำมาบรรจบกันและกลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา

เจ้าพระยาเป็นทางเชื่อม สามแยกเป็นโค้งคือป่าสัก ?

         กฤษฎา : ใช่ และบรรจบเป็นน้ำวน และเห็นสถานที่สำคัญ วัดพนัญเชิง ป้อมเพชร วัดบางกะจะอยู่ซ้ายมือของ สมัยอยุธยามีตลาดน้ำใหญ่มากเรียกว่าตลาดน้ำวนบางกะจะ เป็นจุดพี่หมื่นกับการะเรดมาเรือล่มกันในละครบุพเพฯ  เป็นจุดเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก คนเยอะมาก เรือสำเภาต่างประเทศมาที่นี่ หลายสิบหลายร้อยลำ ก็เป็นจุดที่มีเรื่องราว  มีประวัติศาสตร์ มีอุบัติเหตุบ่อย

ชาวบ้านบอกว่าเป็นเรื่องอาถรรพ์ก็ไม่ถึงขนาดนั้น เป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นจุดเกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ ใครเดินเรือต้องระวัง ?

         กฤษฎา : ใช่ครับ นอกจากจุดสามแยกนี้แล้ว พอน้ำวนแรงมาก ตอนเรียนหนังสือคงเคยได้ยินว่าอยุธยาเป็นเกาะที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ 3 สาย เวลาหน้าน้ำ น้ำจะเยอะมาก น้ำไม่ใช่แรงแค่จุดนั้น แต่มันแรงรอบเกาะเลย ทำให้เกิดกรณีเรือล่มไปข้างล่าง สิ่งของสินค้าทรัพย์สมบัติก็ตกอยู่ข้างล่างด้วย ก็มีอาชีพนึงนักประดาน้ำหาสมบัติ มีกลุ่มคนใส่หัวเหล็กใส่สายออกซิเจนหาสมบัติใต้น้ำขึ้นมา ทุกวันนี้ก็มีสมบัติสมัยอยุธยาบริเวณนี้และโดยรอบ แต่เวลาเขาลงจะกระเถิบไปอีกหน่อย เขาจะไม่ลงจุดนั้น

หน่วยงานต่าง ๆ ลงไปกู้เรือ จุดนั้นเขาดำเอาเชือกสามเส้นไปผูกเรือ ปรากฏว่าผ่านไปหลายชั่วโมงถึงผูกเส้นสองได้ เพราะน้ำข้างล่างมืดมากและเชี่ยวมาก ต้องเกาะเชือกลงไป แล้วน้ำตีจนคนกระพือ ถ้าปล่อยมือเขาหลุดแล้วปลิวไปกระแทกขอนไม้ตายได้ เขาพยายามดึงแล้วขาด ?

         โบว์ : ใช่ หนูอยู่ในเหตุการณ์ตลอด ลงไปวันแรก นักประดาน้ำชุดแรกที่มา เขามาทางทะเล ทะเลมันมองเห็น แต่พออันนี้มืดมาก เขาบอกลงไปเหมือนคนตาบอด อาศัยคลำเฉย ๆ มันไม่ปลอดภัยเขาเลยขึ้นมา


พี่กัลยา ไปดูหมอมาด้วย ?

         กัลยา : ไปดูวันแรก หมอเขาจะพูดไม่เยอะ จะเขียนเป็นรูปสี่เหลี่ยม เขียนภาพเหมือนหลุดไปคนนึง

มองว่าเขายังอยู่ ?

         กัลยา : คิดว่ายังอยู่แต่ก็ไม่แน่ เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยเชื่อ แต่อะไรเราก็ตามเราต้องลองทุกอย่าง เมื่อเช้าเขาบอกให้ไปบวงสรวงท้าวพันตา พญาพันวัง ก็ไป เป็นเทพเจ้าสายน้ำ มีเพื่อนเขา พี่สาว บอกให้เอาของไปไหว้ เทพเจ้าแห่งสายน้ำ เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ขั้นแรกต้องบอกหลวงพ่อโตก่อน ถึงบอกท้าวพันตาฯ

เจ้าแม่สร้อยดอกหมากคือใคร ?

         กฤษฎา : เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก เป็นเรื่องเล่าตามพงศาวดารเหนือ เชื่อว่าเป็นพระธิดาบุญธรรมของฮ่องเต้จีน ที่พระราชทานมาเป็นมเหสีของกษัตริย์กรุงอโยธยา พอมาถึงกษัตริย์กรุงอโยธยาไม่ไปรับที่เรือด้วยพระองค์เอง พระนางเหมือนน้อยพระทัย จึงกลั้นพระทัยจนเสียชีวิตอยู่ตรงนั้น ทุกวันนี้ยังมีศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากอยู่ที่วัดพนัญเชิง คนไทยเชื้อสายจีนมาที่นี่เพื่อขอพรจากเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก

มุมชาวบ้านเชื่อเรื่องอาถรรพ์ ?

         กัลยา : เป็นการเคารพบูชา บรรพบุรุษสอนมาก็ทำกันแบบนี้ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่เรามองว่าพ่อแม่สอนมาให้ทำแบบนี้เราก็ทำแบบนี้


เห็นว่าไปดูมา แล้วเขาบอกว่าคุณนฤมลถูกกักเอาไว้เหรอ ?

         กัลยา : เขาว่าโดนกดไว้ ไม่ให้ขึ้นมา เรียก 2 ครั้งเขาขึ้นมาปุ๊บก็ร้องไห้อย่างเดียวแต่ไม่พูด ได้แต่พยักหน้าส่ายหน้า

เอาศพคุณพ่อไปไว้ที่ไหน ?

         โบว์ : วัดสามก้อค่ะ ประชุมเพลิงวันพุธค่ะ

ส่วนคุณนฤมล ตอนนี้จะเอายังไงต่อไป ?

         สุพรรษา : ถ้าจบจากทางนี้รอฟังข่าวอีกทีว่าเจอมั้ย แต่ในความคิดของหนู คิดว่าแม่อยู่ในเรือ แต่ตอนนี้ยุติการกู้เรือไปแล้ว เพราะต้องใช้เส้นทางนั้นขนส่งสินค้า จะไปกู้อีกครั้งต้องรอน้ำลดก่อนค่ะ ต้องรอเป็นเดือน

         โบว์ : อย่างน้อย ๆ 2 เดือน  

         กัลยา : ถ้าพูดรอน้ำลดต้องรอ 2 เดือน แต่ไม่รู้เขาจะทำยังไง ต้องรอเขา

         สุพรรษา : ทุกอย่างคือการรอคอยอย่างเดียว

มันหลายภาคส่วน พี่สาวผู้สูญหายกับลูกสาวก็อยากให้ตามให้เร็วที่สุด อยากได้ร่างแม่กลับมาเร็วที่สุด แต่ตอนนี้คิดว่าร่างคุณนฤมลน่าจะอยู่ในเรือ กู้ภัยกู้เรือแล้วแต่ไม่ได้ ?

         โบว์ : กู้ภัยเขายืนยันว่าดำลงไปดูแล้วไม่เจอศพ

         กัลยา : เขาใช้การคลำ เหมือนหลับตาคลำไป เขาคิดว่าเขาคลำทั่วแล้วแต่หาไม่เจอ แต่เรือลำใหญ่

         โบว์ : กู้ภัยบอกว่าเขาลงไปสำรวจให้แล้ว แต่ข้างล่างไม่มีศพ เขาถึงเปิดให้มีการสัญจร เดินเรือกัน


มุมหน่วยงานเองก็มีเหตุผล จำเป็นต้องเปิดน่านน้ำ ให้เรือพาณิชย์ผ่านไปมา แต่มุมเรือลำนี้ที่เชื่อว่าแม่น่าจะติดอยู่ข้างใน ต้องรอน้ำลดก่อน เพราะไปกู้ก็โดนตีออก เพราะน้ำแรงมากข้างล่าง เรายอมรับที่จะรอ ?

         สุพรรษา : เรารอได้ ถ้าแม่ติดอยู่ในนั้นอย่างน้อยก็เป็นกระดูก

         กัลยา : ถ้าโชคดีติดอยู่ในเรือ แต่ถ้าโชคร้ายออกอ่าวไทยไปแล้ว เพราะน้ำแรงมาก

         โบว์ : พ่อหนูยังเจอศิริราชเลย ป้ามลหลายวันแล้ว ถ้าไม่ออกอ่าวก็จมอยู่ใต้น้ำ จมที่ไหนก็ได้ เพราะคนตายจะลอยเต็มที่ พอลอยเต็มที่มันก็จมลง

          ทั้งนี้สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33