เปิดใจชายวัย 59 กระโดดเกาะรถยนต์ ทวงคืนทรัพย์หลังฝ่ายหญิงที่คบหาหลอก ก่อนโต้กันพัลวัน ฝ่ายชายยันถูกหลอกลวง แต่ฝ่ายหญิงบอกทนไม่ไหวนิสัยโมโหร้าย รุนแรงถึงขั้นขู่ฆ่า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (5 ตุลาคม 2564) รายการโหนกระแส ทางช่อง 3 รายงานบทสัมภาษณ์ นายชัช อายุ 59 ปี ชายที่เกาะรถ และนางสาวเกตุ อายุ 27 ปี โดยฝ่ายชายยอมรับว่าคบกันมา 1 ปี จุดเริ่มต้นมาจากที่ฝ่ายหญิงโทร. มาบอกว่าจะคบด้วย เพราะก่อนหน้านี้มีแฟนรุ่นเดียวกัน แต่ไม่เอาแล้ว จึงตกลงเพราะสวย ตนก็ชอบ ฝ่ายหญิงขอให้ซื้อรถ ซื้อทอง ให้เป็นของหมั้น และจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน ก็เลยเอารถของตัวเองไปเข้าไฟแนนซ์ พอได้เงิน 170,000 บาท ก็เอาไปให้ฝ่ายหญิงเป็นค่าสินสอด
นางสาวเกตุ : ยอมรับว่าเป็นคนติดต่อไปเอง เพราะอีกฝ่ายอยากเจอ ให้เพื่อนมาถามหาจึงโทร. จนเริ่มติดต่อกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกว่าจะรักคนแก่ บอกแค่ว่าถ้าได้คนแก่มาดูแลกัน และดูแลดีกว่าหนุ่มก็คงดี ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาฝ่ายชายซื้อใจเราได้ เพราะเราอยากได้อะไรก็ซื้อหามาให้หมด คบกันไม่ถึงปี 5 เดือนแรกเขาดี รักเรา แต่พอหลังจากนั้นเริ่มตามจิก โทร. หาเราไม่ติด ก็โทร. ตามกับพ่อ
นายชัช : ยอมรับว่าโทร. จริง แต่ที่โทร. เพราะต้องการตามเรื่องหมั้น เรื่องสินสอดที่ให้ไป เพราะอีกฝ่ายหนีหายและโกหก
ยืนยันว่าไม่ได้หลอก ถ้าหลอกจะไม่อยู่หรือติดต่อกันมาจนถึงตอนนี้ แต่เหตุผลที่หนีมาทำงานที่กรุงเทพฯ เพราะทนไม่ไหว ยอมรับว่ารักฝ่ายชาย รักมากเกินกว่าเรื่องชู้สาว เป็นผู้มีพระคุณ เพราะเขาดูแลดี
นายชัช : ปากบอกว่ารัก แต่การกระทำไม่ใช่ จะมาบอกว่ารับไม่ได้ได้อย่างไร เพราะยังไม่เคยมาอยู่ด้วยกันเลย คุยแต่แค่ในโทรศัพท์ ไม่เคยรู้เลยว่าตัวอีกฝ่ายอยู่ไหน หรือมาหาทีหนึ่งแล้วก็กลับ มาเพื่อมาขอเงิน ไม่สามารถโทร. หาได้ อ้างว่าไม่มีสัญญาณตลอด จะเป็นอีกฝ่ายที่ติดต่อมาได้อย่างเดียว ส่วนเรื่องขู่ฆ่าจำไม่ได้ เพราะก็พูดไปเรื่อย
ยอมรับว่าก่อนที่จะมาออกรายการ มีคนโทร. มาแฉว่าฝ่ายหญิงยังอยู่กับแฟนเก่าอยู่ ที่ทำแบบนี้เพราะมาหลอก
สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดที่มีเรื่องกระโดดเกาะรถ เพราะโทร. ให้ฝ่ายหญิงมาหา บอกว่าให้เงิน 1 หมื่นบาทที่ถูกหวย ฝ่ายหญิงจึงมาหา แต่กลับทำทีชวนเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ก็เดินกอดคอเข้าไปด้วยกัน แต่อีกฝ่ายใช้ทีเผลอวิ่งหนีออกมาแล้วพยายามจะขับรถหนี จึงวิ่งไปเกาะรถดังกล่าว
ภาพจาก รายการโหนกระแส
นายชัช : สำหรับสาเหตุที่กล้ากระโดดเกาะรถ เพราะมีชื่อเป็นคนค้ำรถอยู่ ฝ่ายหญิงเอาไปเข้าไฟแนนซ์ แต่ไม่จ่าย ก็เลยเป็นคนจ่ายหมด และยังเอาไปจำนองเถื่อนอีก หากรถหายไปก็จะเดือดร้อน
นายชัช : ขอจบเรื่องทั้งหมด ให้โอนรถคืนมา แล้วเรื่องหนี้ที่เหลือจะเป็นคนจัดการเอง และจะตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก
นางสาวเกตุ : ไม่มีโอกาสที่จะกลับไปคุยกันแล้ว เพราะอีกฝ่ายเป็นคนโวยวายเสียงดัง โมโหแล้วจะฉุดไม่อยู่ เพราะเคยให้โอกาสแล้ว ทำให้สงสัยว่ารักเราหรือต้องการแค่ครอบครองเรา ต้องการกักขังเราเท่านั้น
ภาพจาก รายการโหนกระแส