สุดเซ็ง แชร์ประสบการณ์กินบุฟเฟ่ต์ร้านอาหารชื่อดัง ราคา 5,500 บาท แต่กลับเจออูนิสภาพนี้ กินเสร็จอ้วกแตก แต่งานนี้คอมเมนต์เสียงแตก ทั้งเห็นด้วยและตั้งคำถามต้องการให้รับผิดชอบขนาดไหน
วันที่ 19 ตุลาคม 2564 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งแชร์ประสบการณ์ไปกินบุฟเฟ่ต์ที่ร้านอาหารชื่อดังในราคา 5,500 บาท+ แต่ผิดหวังกับสภาพของอูนิ (Uni) หรือ ไข่หอยเม่น โดยเล่าว่า "ร้าน_ ผิดหวังมาก ๆ ขอบอกก่อนว่าเคยไปทานครั้งแรกเมื่อประมานช่วงต้นปี คือดีมาก ๆ พอหลังจากคลายล็อกเลยไปทานอีกครั้งในเซตเดิมคือ เซตราคา 5,500+++ ของเยอะมาก ๆ ทุกอย่างดีเหมือนเดิมทุกอย่าง ยกเว้นไฮไลท์ของทางร้านคือ อูนิ จากรูปซ้ายคือตอนไปครั้งแรก ขวาคือตอนไปครั้งที่ 2
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ..
1. มีกลิ่นคาว
2. มีรสขม
3. หลังทานเสร็จ อ้วก ท้องเสีย
เราเลยติดต่อไปทางร้าน สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า..
1. ถ้าลูกไปหาหมอให้เอาใบเสร็จไปเบิกกับร้านได้เลย
2. ถ้ามาทานครั้งต่อไป ลดให้ 30 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์
ในความรู้สึกของผมคือแย่มาก ๆ เราติดต่อไปไม่ได้ที่จะเรียกร้องเงินคืน เพราะอาหารชนิดอื่นอร่อยเหมือนเดิม แต่ได้คำตอบของความรับผิดชอบแบบนี้ก็บ้ายบายครับ พอ"
วันที่ 19 ตุลาคม 2564 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งแชร์ประสบการณ์ไปกินบุฟเฟ่ต์ที่ร้านอาหารชื่อดังในราคา 5,500 บาท+ แต่ผิดหวังกับสภาพของอูนิ (Uni) หรือ ไข่หอยเม่น โดยเล่าว่า "ร้าน_ ผิดหวังมาก ๆ ขอบอกก่อนว่าเคยไปทานครั้งแรกเมื่อประมานช่วงต้นปี คือดีมาก ๆ พอหลังจากคลายล็อกเลยไปทานอีกครั้งในเซตเดิมคือ เซตราคา 5,500+++ ของเยอะมาก ๆ ทุกอย่างดีเหมือนเดิมทุกอย่าง ยกเว้นไฮไลท์ของทางร้านคือ อูนิ จากรูปซ้ายคือตอนไปครั้งแรก ขวาคือตอนไปครั้งที่ 2
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ..
1. มีกลิ่นคาว
2. มีรสขม
3. หลังทานเสร็จ อ้วก ท้องเสีย
เราเลยติดต่อไปทางร้าน สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า..
1. ถ้าลูกไปหาหมอให้เอาใบเสร็จไปเบิกกับร้านได้เลย
2. ถ้ามาทานครั้งต่อไป ลดให้ 30 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์
ในความรู้สึกของผมคือแย่มาก ๆ เราติดต่อไปไม่ได้ที่จะเรียกร้องเงินคืน เพราะอาหารชนิดอื่นอร่อยเหมือนเดิม แต่ได้คำตอบของความรับผิดชอบแบบนี้ก็บ้ายบายครับ พอ"
ซึ่งภายหลังจากที่มีการโพสต์แชร์ประสบการณ์ดังกล่าว
ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย หลายคนเห็นด้วยกับสภาพของอูนิรอบที่ 2
ซึ่งดูสีสันแตกต่างจากรอบแรกเป็นอย่างมาก ขณะที่อีกฝ่ายตั้งคำถามว่า
ถ้าเห็นสภาพแย่แบบนี้ทำไมไม่คืนไปตั้งแต่แรก กินต่อทำไม
พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าสรุปแล้วต้องการให้ร้านรับผิดชอบแบบไหนกันแน่
เพราะร้านก็ดูรับผิดชอบดีแล้ว หรือจะต้องให้คืนเงินทั้งหมด