แม่เผยกลางโหนกระแส วิรัชเอาใจตน แต่ทารุณลูก-สั่งเด็กอดข้าว อยากเลิกก็เลิกไม่ได้

            แม่น้อย บอกว่า ตนมีลูก 2 คน คือ น้องเนย กับน้องเหนือ ตนได้รู้จักกับนายวิรัชมาประมาณ 11 เดือน ซึ่งตลอดเวลานั้น เด็กทั้ง 2 คนอยู่กับยาย แต่น้องทั้งสองคนเพิ่งจะมาอยู่กับนายวิรัช

            นายวิรัชไม่เคยด่าตน ไม่เคยตีตน เขาพูดจาดับตนดี เรียกแต่พี่เรียกน้อง ก่อนหน้านี้นายวิรัชเคยดื่มเหล้าหนัก และบอกว่าจะเลิก ตนยอมรับว่าเคยรักเขา เขารักและเอาใจใส่ตนตลอด ผิดกับสิ่งที่นายวิรัชทำกับเด็ก คือ มีการดุด่าและตีเด็ก ตนเคยเห็นและเคยห้าม แต่ยิ่งห้ามเขาจะยิ่งทำหนักขึ้น เช่น เขาตีที่น้องอ่านหนังสือไม่ได้ เขาเลยไปตีน้อง พอตนไปห้ามเขาก็ตีตน พอลูกโดนแบบนี้ตนก็เลยไม่ห้าม

            ตนยอมรับว่าสงสารลูก และแอบไปร้องไห้ (เสียงสั่น) ตนเคยคิดกับตัวเองอยู่ว่าอยากจะหยุด อยากจะเลิก แต่พอถึงเวลาก็พูดไม่ออก ทำไม่ได้ (ร้องไห้)
            วันเกิดเหตุ ตนกลับมาจากทำงาน 2 ทุ่ม นายวิรัชก็ถามน้องเหนือว่าอ่านหนังสือไหม น้องเหนือบอกว่าไม่ได้อ่าน เขาเลยพาน้องเหนือเข้าไปในห้อง ปิดประตู และพาลูกเข้าไปตี ตนรับรู้แต่ไม่ได้เข้าไปห้าม ได้แต่ยืนร้องไห้อยู่ในครัวกับลูกอีกคน กลัวว่าถ้าห้ามแล้ว เขาจะทำหนักกว่าเดิมอีก ตนไม่เห็น แต่ได้ยินแต่เสียงว่าตี หลังจากนั้น ประมาณตี 4 กว่า เขาอุ้มน้องเข้ามาหาเรา และบอกว่ายังไม่ต้องพูดอะไร ให้พาน้องไปส่งโรงพยาบาล และน้องก็เสียชีวิต

            หากวันนี้มีการดำเนินคดีทางกฎหมาย แล้วสาวมาถึงตน ตนก็ต้องยอมรับ ตอนนี้ตนก็เกลียดเขาแล้ว เขาทำลูกเราเสีย

            "เราก็เสียใจ ไม่ใช่ไม่เสียใจ เราก็ไม่คิดว่าจะเกิดแบบนี้" (ร้องไห้)

เพื่อนบ้านเผย วิรัชไม่จบที่แค่ตี แต่ไม่ให้เด็กกินข้าว ต้องมาขอข้าวเพื่อนบ้านกิน

            ด้านเพื่อนบ้าน ได้เผยว่า ตนมีหลานและอยู่ในวัยเดียวกันกับน้องเหนือ เด็ก ๆ ก็อยากเล่นกัน ถ้าวิรัชไปทำงาน เด็ก ๆ ก็จะออกมาเล่นได้ ถ้าเขาอยู่น้องก็มาเล่นไม่ได้ นายวิรัชชอบดื่มและดุด่าเรื่องน้องเหนืออ่านหนังสือไม่ได้ ตนก็ปรามว่า น้องแค่ ป.1 จะเอาอะไรมาก ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป

            เวลาน้องเหนือทำผิด นายวิรัชจะไม่ให้เด็กกินข้าว ตนต้องเอาข้าวให้น้องกิน หรือน้องเนยจะไปสมัครเรียนการอาชีพ เขาก็ล็อกห้องเอาไว้ไม่ให้เข้าบ้านไปเอาชุดนักเรียน ไม่ให้ไปเอาเอกสาร

            เมื่อถามแม่น้อย เธอกลับบอกว่าไม่รู้ จนเพื่อนบ้านถามว่าไม่รู้ได้ยังไง คุณนอนอยู่ในห้อง

ญาติแม่น้อยยอมรับ โกรธจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เลี้ยงหลานมาไม่เคยตี เอาไปให้พ่อเลี้ยงตีจนตาย

            พี่สาวของแม่น้อย ยืนยันว่าไม่ได้เกลียดแม่น้อย ยอมรับว่าโกรธที่หลานเราทั้งคนตาย ต่อให้ผิดร้ายแรงแค่ไหนกยังเป็นพี่น้องกัน แต่ก่อนมีอะไรก็โทร. มาปรึกษา แต่นี่ไม่บอกอะไรเลย

            ด้านนายแก้ว น้องแท้ ๆ ของแม่น้อย เผยว่า ตนและนายวิรัชเคยทำงานที่เดียวกัน แต่ไม่ได้สนิทสนมกัน แต่เรื่องการทำทารุณกับหลานนั้น ตนเคยรู้มาบ้าง และตนก็เป็นคนไปต่อว่าแม่น้อย ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ก่อนหน้านี้แม่น้อยไปทำงานที่ภูเก็ต เขาฝากลูกไว้ที่ตายาย ตนก็อยู่กับตายาย และเลี้ยงน้องมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ตนไม่เคยตี ไม่เคยทุบหลาน ตนอยากให้เอาโทษวิรัชให้ถึงที่สุด ตนก็เป็นหนึ่งคนที่ไปรุมประชาทัณฑ์และโดนด้วย

รศ.นพ.วีระศักดิ์ ชี้ เด็กโดนทารุณทั่วร่าง เข้าเต็ม ๆ อวัยวะสำคัญ - คาดใช้เข็มขัดฟาดจนเป็นแผลทั้งหลัง

            ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์  ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ เผยว่า ตนเห็นร่องรอยบาดแผลรุนแรงทั่วร่างกาย ทั้งรอบดวงตา ทั้งใบหน้า ทั้งแผ่นหลังมีร่องรอยการถูกตีทั้งหลัง มีลักษณะเป็นแถบที่คล้ายกับเข็มขัด ด้านหน้ามีรอยช้ำตรงท้องและอก ซึ่งมีอวัยวะสำคัญคือม้าม เด็กเป็นคนตัวเล็กและผอม ไม่มีกล้ามเนื้อรองรับ ถ้าโดนกระแทกก็อาจทำให้ม้ามฉีกขาด หากม้ามแตกเลือดจะออกในช่องท้อง เด็กจะช็อกและเสียชีวิต

            ส่วนทรวงอกก็มีร่องรอยการทำร้าย หากเตะจนซี่โครงหักทิ่มปอด เลือดก็จะไหล หากโดนหัวใจตรง ๆ ก็อาจทำให้หัวใจหยุดเต้นทันที ส่วนการเอาเคเบิลไทร์รัด คือรัดแน่นมากและไม่มีโอกาสหลุด หากทำแบบนั้นเลือดไม่ไปเลี้ยงปลายมือนาน ๆ ถ้ารอดชีวิต ก็อาจทำให้สูญเสียอวัยวะ เพราะรัดแน่นจนกินเนื้อเข้าไปข้างใน มีความเป็นไปได้ด้วยว่าเด็กทิ้งตัว เพราะหมดสติจากการถูกทำร้าย