รวบชาย-หญิง ลอบมีเซ็กส์หลังเจดีย์เก่ากลางเมืองเชียงใหม่ เผยทั้งคู่เป็นแฟนเก่ากัน ยอมรับว่าทำจริงแต่ไม่คิดว่าจะมีคนเห็น ไม่ได้มีเจตนาลบหลูี่สถานที่
วันที่ 22 ตุลาคม 2564 ภาพจาก ข่าวช่องวัน รายงานว่าก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีสามารถบันทึกภาพของชาย-หญิง
คู่หนึ่งที่ทำอนาจารบริเวณหลังเจดีย์เก่าแก่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
ซึ่งกระแสสังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงพฤติกรรมของชาย-หญิงคู่นี้
โดยมองว่าเป็นการลบหลู่สถานที่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสามารถจับกุมตัวชยา-หญิงคู่ดังกล่าวได้ทันทีหลังมีคนแจ้ง ก่อนจะนำตัวทั้งคู่ไปสอบสวน เบื้องต้นทราบว่าฝ่ายชายอายุ 48 ปี เป็นชาว จ.ลำพูน ส่วนฝ่ายหญิงอายุ 42 ปี เป็นชาว จ.เชียงใหม่
ด้านผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุทราบว่าบริเวณดังกล่าวชื่อวัดเจดีย์แดงนอก (ร้าง) ซึ่งทางกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2529 ซึ่งการการตรวยสอบโดยรอบพบว่ามีชายเร่ร่อนนอนอยู่ 1 คน พกอาวุธมีด และมีเสื้อผ้าสัมภาระกองอยู่ใกล้ตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวชายคนดังกล่าวไปที่สถานีตำรวจ
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
สำหรับชาย-หญิง ที่มีเซ็กส์กันบริเวณดังกล่าวก็ให้การรับสารภาพ โดยขณะสอบสวนพบว่าฝ่ายชายมีอาการมึนเมาสุรา พร้อมท้าทายผู้สื่อข่าวว่าอยากถามอะไรก็ถามมา พร้อมจะตอบคำถาม อีกทั้งยังระบุว่าฝ่ายหญิง ทำงานขายบริการอยู่ที่ท่าแพ และได้นัดกันมาพักผ่อนที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะมีคนเห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถูกจับกุมในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งความผิดตามมาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลโดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ขณะที่ภายหลังการสอบสวน ทางด้านผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ได้ให้การยอมรับในที่สุด
ทั้งนี้ ฝ่ายชายบอกอีกว่า ตนเป็นแฟนเก่าของฝ่ายหญิง วันนี้ได้มาเจอกันจึงแอบมีอะไรกันบริเวณหลังเจดีย์โดยไม่คิดว่าจะมีคนเห็นเพราะเป็นที่ลับตา ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่โบราณสถาน ตนและฝ่ายหฐิงอยากขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และขอโทษชาวเชียงใหม่ที่กระทำการในลักษณะดังกล่าวไป พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไม่ก่อเหตุเช่นนี้อีก หลังเกิดเหตุทาง ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบทุกพื้นที่ล่อแหลมและที่พักคนเรร่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก