ครูร้องทุกข์ โดนแก๊งมิจฉาชีพหลอก อ้างเอี่ยวพัสดุผิดกฎหมาย ชี้พัวพันคดีฟอกเงิน ต้องโอนเงินทั้งหมดให้ตรวจสอบ หลงเชื่อส่งเงินเก็บให้เกลี้ยง 1.2 ล้าน เหลือติดตัวแค่ 500 บาท
จากกรณีแก๊งมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นพนักงานบริษัทขนส่งสินค้า และตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ แจ้งผู้เสียหายว่ามีส่วนพัวพันคดีฟอกเงิน หากมั่นใจในความบริสุทธิ์ให้บอกข้อมูลบัญชีธนาคารทั้งหมด เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งเหยื่อบางรายโชคดีที่ไม่ได้มีเงินในบัญชีจึงไม่ได้ถูกดูดเงินออกไปนั้น
ล่าสุด (2 พฤศจิกายน 2564) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานเรื่องราวร้องทุกข์จาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) ครูสาวรายหนึ่ง ซึ่งตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว เล่าว่า ได้รับการติดต่อจากคนที่อ้างตัวเป็นพนักงานบริษัทขนส่งสินค้าชื่อดัง แจ้งว่าพัสดุที่ส่งไปประเทศจีนถูกตีกลับและถูกอายัดอยู่ที่กรมศุลกากรเพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ถ้าหากไม่ได้เป็นคนส่ง ให้เดินทางไปที่แจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ แต่ถ้าไม่สะดวกจะช่วยประสานตำรวจให้
จากนั้น มิจฉาชีพ โอนสายไปยังผู้ร่วมขบวนการอีกราย อ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ จากลักษณะการพูดทำให้ตนเชื่อสนิทใจว่าเป็นตำรวจจริง เพราะมีการพูดสอนด้วยว่าต่อไปให้ระมัดระวังในการส่งของ และอย่าทำข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล ก่อนจะพยายามพูดให้กลัวว่า ตนมีส่วนพัวพันกับคดีฟอกเงินนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นคดีใหญ่ระดับชาติ ชี้ว่าตนเอี่ยวพัวพันการฟอกเงินกว่า 8 ล้านบาท พร้อมส่งภาพผู้ต้องหามาให้ดู
ต่อมา ชายที่อ้างเป็นตำรวจ โอนสายไปหาผู้ร่วมขบวนการอีกราย อ้างตัวว่าเป็นสารวัตรหญิง แล้วบอกให้ตนแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการบอกข้อมูลบัญชีธนาคารทั้งหมดว่ามีกี่บัญชี มีเงินทั้งหมดเท่าไหร่ ขณะนั้นกลัวมาก จึงบอกข้อมูลทุกอย่างไป เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดแม้แต่วินาทีเดียวเลยว่านั่นคือการหลอกลวง โดยมิจฉาชีพบอกให้ตนโอนเงินทั้งหมดทุกบัญชีที่มีอยู่ไปให้เพื่อทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน แล้วจะโอนกลับคืนมาทั้งหมด
ตอนแรกตนก็ไม่อยากโอนไป เพราะเป็นเงินที่ฝากประจำ แต่อีกฝ่ายก็บอกว่าจะมีเงินเป็นสินน้ำใจให้กรณีที่ช่วยรัฐบาลในทางคดี ตนจึงทำตามที่เขาแจ้ง จากนั้นคนที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่บอกว่า ห้ามไปบอกใคร ตนก็ไม่บอก ขับรถฝ่าฝนไปธนาคารต่าง ๆ เพื่อถอนเงินและโอนเงินไปให้ทั้งหมด จำนวน 1.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บทั้งหมดที่มี
แต่พอมิจฉาชีพได้เงินแล้วก็อ้างว่า เกิดปัญหาเล็กน้อย เดี๋ยวจะโอนเงินคืนให้วันถัดไป พยายามติดตามเงินคืนทั้งวัน เครียดจนกินข้าวไม่ได้ พอลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ทราบความจริงว่าถูกหลอก และมีผู้เสียหายโดนในลักษณะเดียวกันหลายราย ตอนนั้นถึงกับสติแตก ทำอะไรไม่ถูก จากนั้นจึงเข้าแจ้งความไว้ ยอมรับว่าเสียใจมากที่สูญเสียเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต ตอนนี้เหลือเงินติดตัวไม่ถึง 500 บาท อยากให้ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายและช่วยติดตามเงินกลับคืนมา
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีแก๊งมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นพนักงานบริษัทขนส่งสินค้า และตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ แจ้งผู้เสียหายว่ามีส่วนพัวพันคดีฟอกเงิน หากมั่นใจในความบริสุทธิ์ให้บอกข้อมูลบัญชีธนาคารทั้งหมด เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งเหยื่อบางรายโชคดีที่ไม่ได้มีเงินในบัญชีจึงไม่ได้ถูกดูดเงินออกไปนั้น
ล่าสุด (2 พฤศจิกายน 2564) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานเรื่องราวร้องทุกข์จาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) ครูสาวรายหนึ่ง ซึ่งตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว เล่าว่า ได้รับการติดต่อจากคนที่อ้างตัวเป็นพนักงานบริษัทขนส่งสินค้าชื่อดัง แจ้งว่าพัสดุที่ส่งไปประเทศจีนถูกตีกลับและถูกอายัดอยู่ที่กรมศุลกากรเพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ถ้าหากไม่ได้เป็นคนส่ง ให้เดินทางไปที่แจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ แต่ถ้าไม่สะดวกจะช่วยประสานตำรวจให้
จากนั้น มิจฉาชีพ โอนสายไปยังผู้ร่วมขบวนการอีกราย อ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ จากลักษณะการพูดทำให้ตนเชื่อสนิทใจว่าเป็นตำรวจจริง เพราะมีการพูดสอนด้วยว่าต่อไปให้ระมัดระวังในการส่งของ และอย่าทำข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล ก่อนจะพยายามพูดให้กลัวว่า ตนมีส่วนพัวพันกับคดีฟอกเงินนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นคดีใหญ่ระดับชาติ ชี้ว่าตนเอี่ยวพัวพันการฟอกเงินกว่า 8 ล้านบาท พร้อมส่งภาพผู้ต้องหามาให้ดู
ต่อมา ชายที่อ้างเป็นตำรวจ โอนสายไปหาผู้ร่วมขบวนการอีกราย อ้างตัวว่าเป็นสารวัตรหญิง แล้วบอกให้ตนแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการบอกข้อมูลบัญชีธนาคารทั้งหมดว่ามีกี่บัญชี มีเงินทั้งหมดเท่าไหร่ ขณะนั้นกลัวมาก จึงบอกข้อมูลทุกอย่างไป เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดแม้แต่วินาทีเดียวเลยว่านั่นคือการหลอกลวง โดยมิจฉาชีพบอกให้ตนโอนเงินทั้งหมดทุกบัญชีที่มีอยู่ไปให้เพื่อทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน แล้วจะโอนกลับคืนมาทั้งหมด
ตอนแรกตนก็ไม่อยากโอนไป เพราะเป็นเงินที่ฝากประจำ แต่อีกฝ่ายก็บอกว่าจะมีเงินเป็นสินน้ำใจให้กรณีที่ช่วยรัฐบาลในทางคดี ตนจึงทำตามที่เขาแจ้ง จากนั้นคนที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่บอกว่า ห้ามไปบอกใคร ตนก็ไม่บอก ขับรถฝ่าฝนไปธนาคารต่าง ๆ เพื่อถอนเงินและโอนเงินไปให้ทั้งหมด จำนวน 1.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บทั้งหมดที่มี
แต่พอมิจฉาชีพได้เงินแล้วก็อ้างว่า เกิดปัญหาเล็กน้อย เดี๋ยวจะโอนเงินคืนให้วันถัดไป พยายามติดตามเงินคืนทั้งวัน เครียดจนกินข้าวไม่ได้ พอลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ทราบความจริงว่าถูกหลอก และมีผู้เสียหายโดนในลักษณะเดียวกันหลายราย ตอนนั้นถึงกับสติแตก ทำอะไรไม่ถูก จากนั้นจึงเข้าแจ้งความไว้ ยอมรับว่าเสียใจมากที่สูญเสียเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต ตอนนี้เหลือเงินติดตัวไม่ถึง 500 บาท อยากให้ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายและช่วยติดตามเงินกลับคืนมา
