จับแล้ว เสี่ยโจ้ ปัตตานี เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน คดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว สิ้นลายย่านห้วยขวาง

ตำรวจแถลงจับ เสี่ยโจ้ ปัตตานี ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินค้าน้ำมันเถื่อน ตำนานส่วยน้ำมันเถื่อนเมืองไทย ถูกจับหลังใช้หนังสือเดินทางประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามากบดานย่านห้วยขวาง

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ตำรวจสอบสวนกลาง

          วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 มีรายงานว่า ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุม นายสหชัย หรือ เสี่ยโจ้ ปัตตานี ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินค้าน้ำมันเถื่อน โดยจับกุมตัวได้ที่ย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ ระหว่างหลบหนีคดีรวมแล้วกว่า 10 คดี

          สืบเนื่องจากเมื่อปี 2555 เจ้าหน้าที่ชุุดปราบน้ำมันเถื่อนฯ ได้จับกุมเรือลักลอบขายน้ำมัน ขณะลักลอบขายน้ำมันเถื่อน ที่บริเวณน่านน้ำ จ.สงขลา ยึดของกลางน้ำมันเถื่อน 2 พันลิตร และเงินสด 48 ล้านบาท โดยตำรวจได้สืบสวนขยายผลไปจับกุมเสี่ยโจ้ นำตัวไปตรวจค้นที่พักพบเอกสารซื้อขายน้ำมันเถื่อน 400-500 ล้านลิตร ซึ่งมีการจำหน่ายไปแล้วกว่า 1 หมื่นครั้ง ตำรวจจึงได้สั่งฟ้องและส่งไปที่อัยการสูงสุด ขณะนี้คดียังไม่เสร็จสิ้นอัยการอยู่ระหว่างสั่งสอบเพิ่มเติม

          จากนั้นปี 2558 พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เห็นว่า การค้าน้ำมันเถื่อนเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน ต่อมาปี 2564 ได้มีการออกหมายจับแต่เสี่ยโจ้พยายามหลบหนีมาโดยตลอด จนมาสืบทราบว่าเสี่ยโจ้ได้ใช้หนังสือเดินทางของประเทศกัมพูชา เดินทางเข้ามากบดานอยู่ย่านห้วยขวาง จึงวางแผนเข้าจับกุมไว้ได้ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (4 พฤศจิกายน) เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา

          อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเสนอ ปปง. ให้ยึดทรัพย์เสี่ยโจ้ต่อไป เนื่องจากเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน

ภาพจาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

เสี่ยโจ้ กับตำนานส่วยน้ำมันเถื่อนเมืองไทย

สำหรับ เสี่ยโจ้ ถือเป็นตัวการสำคัญขบวนการค้ามันเถื่อนรายใหญ่ระดับประเทศ โดยทำธุรกิจค้าไม้และต่อเรือบังหน้า ซึ่งเคยตกเป็นผู้ต้องหาคดีปลอมแปลงดวงตาประทับไม้เพื่อนำเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อปี 2557 และได้หลบหนีโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาล

ส่วนความเชื่อมโยงของขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนของเสียโจ้ จากการตรวจสอบพบบัญชีส่วยน้ำมันเถื่อนของเสี่ยโจ้ มีทั้ง ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ และเลขบัญชีโอนเงิน ของบุคคลต่าง ๆ หลากหลายวงการอย่างชัดเจน โดยหนึ่งในรายชื่อนั้นยังมีตำรวจเครือข่ายของ พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางด้วย

สำหรับไทม์ไลน์การกระทำผิดของ เสี่ยโจ้ ถูกดำเนินคดีอาญาทั้งหมด 15 คดี ดังนี้

ปี 2546 จำนวน 4 คดี

          - คดีแจ้งความอันเป็นเท็จหรือให้ถ้อยคำเท็จต่อเจ้าพนักงานงาน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ
          - คดีเล่นการพนันสลากกินรวบ (ฝ่ายเจ้ามือ) โดย สภ.เมืองปัตตานี
          - คดีร่วมกันนำของที่ยังมิได้เสียภาษีฯ เข้ามาในราชอาณาจักร โดย สภ.เมืองปัตตานี
          - คดีร่วมกันทำให้เสียหายซึ่งเรือของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึด โดย สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี

ปี 2555 จำนวน 1 คดี

          - คดีร่วมกันนำน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังไม่ได้เสียภาษี เข้ามาในราชอาณาจักร โดย บก.ปอศ.

ปี 2557 จำนวน 6 คดี

          - คดีทำขึ้น ปลอมขึ้น ซึ่งดวงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ โดย สภ.เมืองปัตตานี
          - คดีเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เป็นผู้สนับสนุน โดย สภ.เมืองปัตตานี
          - คดีตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดย สภ.เมืองปัตตานี
          - คดีปลอมเอกสาร โดย สภ.เมืองปัตตานี
          - คดีหลบหนีไประหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงานตำรวจ โดย สภ.เมืองปัตตานี
          - คดีขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน โดย สภ.เมืองสมุทรปราการ

ปี 2561 จำนวน 3 คดี

          - คดีหลบหนีไประหว่างคุมขังตามอำนาจศาล โดย สภ.เมืองปัตตานี
          - คดีเป็นเจ้าของเรือ ไม่ได้ติดตั้งระบบติดตามเรือ โดย สน.บางเขน กรุงเทพฯ
          - คดีเรือไม่มีใบอนุญาตทำการประมง แต่ใช้ทำการประมง โดย สภ.เมืองชลบุรี

ปี 2564 จำนวน 1 คดี

          - คดีฟอกเงิน โดย บก.ปอศ.