สาวเปิดแผน หลอกกดไลก์ได้เงิน จากที่เคยได้กลับไม่ได้ สุดท้ายสูญเงินเก็บ 6 แสน

            จากรายละเอียดข้างต้น ทำให้ตนเกิดความสนใจจึงได้ลองสมัครและโอนเงินไป 100 บาท เพื่อทำภารกิจแรก จากนั้นระบบได้แจ้งให้เข้าไปกดไลค์สินค้าในแอปฯ ขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง เมื่อทำตามปรากฏว่าได้ค่าตอบแทนจริง จำนวน 150 บาท (เงินมัดจำ 100 บาท + ค่ากดไลก์ 50 บาท)

            ต่อมาทางฝ่ายบุคคลของแอปฯ ดังกล่าว เสนองานมาให้อีก โดยการส่ง QR Code ให้สแกน รอบนี้ให้ตนโอนเงินไป 1,500 บาท ปรากฏว่าทำแล้วได้เงินคืนมา 1,800 บาท ตนเห็นว่าได้เงินจริงจึงหลงเชื่อทำตามอีกหลายครั้ง และเพิ่มจำนวนเงินขึ้นเรื่อย ๆ เป็น 3,000 บาท ได้เงินคืน 3,600 บาท

            จนกระทั่งครั้งที่สี่โอนไป 5,000 บาท ปรากฏว่าไม่ได้เงินคืน สอบถามไปอ้างว่าเกิดข้อผิดพลาดและขอให้โอนเงินให้อีก 15,000 บาท ด้วยความที่เกรงจะไม่ได้เงินยอดก่อนหน้านี้คืนจึงได้โอนไปให้
            แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้และถูกหลอกให้โอนเงินอีกหลายครั้ง แอบอ้างสารพัด พร้อมบอกจะได้เงินคืนแน่นอนแต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ตนก็ทำตามโดยโอนเงินไปหลายครั้งตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน แต่ก็ยังไม่ได้เงินคืน แถมยังถูกดึงเข้ากลุ่มไลน์อีกกลุ่มหนึ่งที่มีคนทำงานในลักษณะเดียวกันอีก 4 คน

            โดยฝ่ายบุคคลขอให้ทำงานในลักษณะเดิม มีภารกิจต่อไปเรื่อย ๆ และมีเงินในการลงทุนทำภารกิจแต่ละครั้งตามที่แจ้งมา ซึ่งครั้งหลัง ๆ ภารกิจแต่ละครั้งจะให้โอนเงินหลักหมื่นบาทขึ้นไป เมื่อโอนไปทำภารกิจเสร็จแล้วก็พบว่าเงินที่ลงทุนไปนั้นไม่สามารถถอนออกมาได้

            ประกอบกับตนอยากได้เงินที่โอนไปทั้งหมดก่อนหน้านี้คืน จึงหลงเชื่อโอนเงินไปทำภารกิจอื่นอีกเรื่อย ๆ สุดท้ายเงินเก็บในบัญชีที่มีอยู่หมดเกลี้ยง 642,198 บาท จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก และเข้าแจ้งความที่ สภ.สันทราย เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แต่คดีไม่มีความคืบหน้า
            ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจมาก เพราะเงินที่เก็บมาถูกหลอกไปทั้งหมด จนตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลย จึงอยากขอให้ตำรวจช่วยเหลือเร่งรัดคดีที่เกิดขึ้น เพราะเกรงว่าหากล่าช้า กลุ่มมิจฉาชีพชีพอาจไหวตัวทันและหลบหนีไป ที่สำคัญคืออยากได้เงินคืน คาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายอยู่อีกจำนวนมาก

            ด้านน้องชาย น.ส.ปภัสสร บอกเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนของตำรวจ เบื้องต้นพบหมายเลขบัญชีที่พี่สาวโอนเงินไปนั้นเป็นเบอร์พร้อมเพย์ ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นธนาคารอะไร ซึ่งตนก็ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว แต่เกรงว่าคดีจะล่าช้าจึงได้ขอความช่วยเหลือกับสื่ออีกทางหนึ่ง พร้อมทั้งอยากฝากเตือนประชาชนและสังคมด้วยว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับพี่สาวถือเป็นอุทาหรณ์ว่า การทำงานและได้เงินง่าย ๆ ในลักษณะเช่นนี้ไม่มีจริง และอยากให้ทุกคนมีสติ อย่าหลงเชื่อจนตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน