พนักงานธนาคารดังยื่นลาออก เผยเหตุผลสุดทน ยอมพลีชีพโพสต์แฉเบื้องหลัง โดนบังคับขายประกันตามเป้า ไม่สนว่าจะขายแบบไหน ใครขายไม่ได้ต้องควักเงินซื้อเอง วอน ธปท. - คปภ. ตรวจสอบ
![สาวแบงก์ลาออก พลีชีพโพสต์แฉธนาคาร]( "สาวแบงก์ลาออก พลีชีพโพสต์แฉธนาคาร")
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ของสาวพนักงานธนาคารรายหนึ่ง ที่ตัดสินใจลาออกจากงานทั้งที่มีตำแหน่งดี สวัสดิการดี เจ้านายดี รายได้ดี เพื่อนร่วมงานที่ดี มีโอกาสก้าวหน้า แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องขอลาออกเพราะถูกบังคับให้ขายประกันเพื่อทำยอด ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกกดดันอย่างมาก ถึงขั้นบอกว่าสมองไปหมดแล้ว นั่งตาลอยคุยกับแม่ซื้อทั้งวัน เพราะคำว่า ประกัน ประกัน และประกัน "ลาวงการงานธนาคาร ขออนุญาตถอดหัวโขน"
โดยช่วงหนึ่งของโพสต์ ระบุว่า การซื้อประกันทุกประเภท เป็นการซื้อเพื่อลดความเสี่ยง แต่ต้องเป็นการซื้อเพราะประโยชน์ที่คนซื้อจะได้รับ ไม่ใช่ซื้อเพราะการขอร้องจากพนักงาน ขอ ขอ ขอ ช่วย ช่วย ช่วย เศรษฐกิจแบบนี้ใครจะซื้อเอ่ย ? เป้าประกันมหาโหด ขายไม่ได้ พนักงานต้องซื้อเองจ้า ทุกวันนี้ไม่ใช่พนักงานขายค่ะ เป็นพนักงานซื้อ ธปท. คปภ. จ๋า รบกวนตรวจสอบค่ะ ติดต่อมาก็ได้ค่ะ จะเล่าให้ฟัง หลักฐานและพยานพร้อมมาก
![สาวแบงก์ลาออก พลีชีพโพสต์แฉธนาคาร]( "สาวแบงก์ลาออก พลีชีพโพสต์แฉธนาคาร")
ทั้งนี้ เป็นนโยบายของผู้บริหารระดับล่าง-กลาง ไม่ใช่ผู้บริหารสาขา ที่ต้องการทำผลงานแข่งกันระดับภาค ระดับเขต โดยไม่สนใจว่าผลงานได้มาด้วยวิธีการไหน นโยบายรายวัน รายสัปดาห์ พร้อมบทลงโทษหากทำไม่ได้ ทั้งที่ไม่ได้ระบุลงในสัญญาจ้างตั้งแต่ต้น แต่ใช้อำนาจหน้าที่สั่งให้ทำ
พนักงานหลายคนอาจยอมเพื่อให้มันจบไป ตนก็เคยยอม แต่ครั้งนี้ไม่ยอมและจะไม่ปล่อยผ่าน จึงตัดสินใจลาออกเพื่อแลกกับการทวงคืนความยุติธรรมให้เพื่อนพนักงาน เพราะตราบใดที่ยังเป็นพนักงาน อยู่ใต้บังคับบัญชาก็จะทำอะไรไม่ได้ ซึ่งเรื่องที่ออกมาเล่า คนมีโอกาสจะโดนฟ้อง แต่เชื่อเสมอว่าความจริงคือความจริง หากเล่าเรื่องจริง ไม่บิดเบือน สังคมจะเข้าใจ กฎหมายก็เช่นกัน
ตนไม่มีส่วนได้เสียตรงนี้แล้ว แต่ไม่อยากให้การลาออกสูญเปล่า อย่างน้อยขอให้วงการธนาคารสดใสขึ้นบ้าง ที่ผ่านมาพนักงานทุกคนทุ่มเททำงานมาก พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ทุกคนมีต้นทุนชีวิต กว่าจะเรียนจบ พ่อแม่หมดเงินทองไปเท่าไร พอมาทำงานต้องส่งเสียตัวเองเพื่อให้ได้ทำงานอีก แน่ใจแล้วเหรอว่ายุติธรรม
อยากให้ผู้บริหารระดับสูงลงมาดูบ้าง อย่าพิจารณาแค่จากการรายงานของผู้บริหารระดับกลางหรือระดับล่างที่รายงานขึ้นไป จะได้รู้ว่าพนักงานระดับปฏิบัติการทำงานกันแบบไหน โดนกระทำขนาดไหน รีดเลือดกับปู ปูไม่มีเลือดให้ ปูก็ตาย จากนั้นก็หาปูตัวใหม่มาแทน น่าสงสารน้อง ๆ ที่เงินเดือนน้อย หลายคนมีภาระที่ต้องแบก ต้องเช่าห้องพัก ส่งเงินให้บ้าน ใช้ส่วนตัวอีก แล้วต้องมาซื้อประกันเองอีก
เธอยังบอกอีกว่าไม่ได้โพสต์เอามัน แค่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเพราะทุกธนาคารเป็นแบบนี้หมด
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ของสาวพนักงานธนาคารรายหนึ่ง ที่ตัดสินใจลาออกจากงานทั้งที่มีตำแหน่งดี สวัสดิการดี เจ้านายดี รายได้ดี เพื่อนร่วมงานที่ดี มีโอกาสก้าวหน้า แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องขอลาออกเพราะถูกบังคับให้ขายประกันเพื่อทำยอด ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกกดดันอย่างมาก ถึงขั้นบอกว่าสมองไปหมดแล้ว นั่งตาลอยคุยกับแม่ซื้อทั้งวัน เพราะคำว่า ประกัน ประกัน และประกัน "ลาวงการงานธนาคาร ขออนุญาตถอดหัวโขน"
โดยช่วงหนึ่งของโพสต์ ระบุว่า การซื้อประกันทุกประเภท เป็นการซื้อเพื่อลดความเสี่ยง แต่ต้องเป็นการซื้อเพราะประโยชน์ที่คนซื้อจะได้รับ ไม่ใช่ซื้อเพราะการขอร้องจากพนักงาน ขอ ขอ ขอ ช่วย ช่วย ช่วย เศรษฐกิจแบบนี้ใครจะซื้อเอ่ย ? เป้าประกันมหาโหด ขายไม่ได้ พนักงานต้องซื้อเองจ้า ทุกวันนี้ไม่ใช่พนักงานขายค่ะ เป็นพนักงานซื้อ ธปท. คปภ. จ๋า รบกวนตรวจสอบค่ะ ติดต่อมาก็ได้ค่ะ จะเล่าให้ฟัง หลักฐานและพยานพร้อมมาก
ทั้งนี้ เป็นนโยบายของผู้บริหารระดับล่าง-กลาง ไม่ใช่ผู้บริหารสาขา ที่ต้องการทำผลงานแข่งกันระดับภาค ระดับเขต โดยไม่สนใจว่าผลงานได้มาด้วยวิธีการไหน นโยบายรายวัน รายสัปดาห์ พร้อมบทลงโทษหากทำไม่ได้ ทั้งที่ไม่ได้ระบุลงในสัญญาจ้างตั้งแต่ต้น แต่ใช้อำนาจหน้าที่สั่งให้ทำ
พนักงานหลายคนอาจยอมเพื่อให้มันจบไป ตนก็เคยยอม แต่ครั้งนี้ไม่ยอมและจะไม่ปล่อยผ่าน จึงตัดสินใจลาออกเพื่อแลกกับการทวงคืนความยุติธรรมให้เพื่อนพนักงาน เพราะตราบใดที่ยังเป็นพนักงาน อยู่ใต้บังคับบัญชาก็จะทำอะไรไม่ได้ ซึ่งเรื่องที่ออกมาเล่า คนมีโอกาสจะโดนฟ้อง แต่เชื่อเสมอว่าความจริงคือความจริง หากเล่าเรื่องจริง ไม่บิดเบือน สังคมจะเข้าใจ กฎหมายก็เช่นกัน
ตนไม่มีส่วนได้เสียตรงนี้แล้ว แต่ไม่อยากให้การลาออกสูญเปล่า อย่างน้อยขอให้วงการธนาคารสดใสขึ้นบ้าง ที่ผ่านมาพนักงานทุกคนทุ่มเททำงานมาก พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ทุกคนมีต้นทุนชีวิต กว่าจะเรียนจบ พ่อแม่หมดเงินทองไปเท่าไร พอมาทำงานต้องส่งเสียตัวเองเพื่อให้ได้ทำงานอีก แน่ใจแล้วเหรอว่ายุติธรรม
อยากให้ผู้บริหารระดับสูงลงมาดูบ้าง อย่าพิจารณาแค่จากการรายงานของผู้บริหารระดับกลางหรือระดับล่างที่รายงานขึ้นไป จะได้รู้ว่าพนักงานระดับปฏิบัติการทำงานกันแบบไหน โดนกระทำขนาดไหน รีดเลือดกับปู ปูไม่มีเลือดให้ ปูก็ตาย จากนั้นก็หาปูตัวใหม่มาแทน น่าสงสารน้อง ๆ ที่เงินเดือนน้อย หลายคนมีภาระที่ต้องแบก ต้องเช่าห้องพัก ส่งเงินให้บ้าน ใช้ส่วนตัวอีก แล้วต้องมาซื้อประกันเองอีก
เธอยังบอกอีกว่าไม่ได้โพสต์เอามัน แค่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเพราะทุกธนาคารเป็นแบบนี้หมด
