หัวอกพ่อแม่สุดช้ำใจ ลูกสาวเรียนนิติศาสตร์ ปี 4 ถูกรถเบนซ์ชนท้ายเสียชีวิต คู่กรณียอมรับผิด ศาลสั่งบริษัทประกันชดใช้เงิน 2.5 ล้าน แต่ถูกเบี้ยวจ่าย ท้าอยากได้ไปฟ้องเอา วอนช่วยเหลือ แม้แต่เงินทำศพยังกู้มา
ภาพจาก รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เดลินิวส์ออนไลน์รายงานว่า พ่อและแม่ของเหยื่อรถเบนซ์ชนท้ายเสียชีวิต ที่บ้านพักพื้นที่ ต.สูงเนิน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากบริษัทประกันพยายามเบี้ยวการจ่ายเงินสินไหมทดแทน และอยากให้ผู้ใจบุญมาช่วยเดินเรื่องเพราะเป็นชาวนา ไม่มีความรู้ด้านนี้
โดยนางสมเร็จ อายุ 56 ปี นำภาพของ น.ส.พัชราภา หรือ น้องหญิง ลูกสาวอายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปีที่ 4 ที่เสียชีวิตจากการถูกรถเบนซ์ชนท้ายรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน
โดยนางสมเร็จ อายุ 56 ปี นำภาพของ น.ส.พัชราภา หรือ น้องหญิง ลูกสาวอายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปีที่ 4 ที่เสียชีวิตจากการถูกรถเบนซ์ชนท้ายรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน
ภาพจาก รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์
หัวอกคนเป็นแม่ นั่งร่ำไห้กอดภาพลูกสาวที่จากไปด้วยความอาลัย พร้อมระบายความในใจว่า ลูกสาวรักแม่มาก ลูกฝันอยากเป็นอัยการ แต่ไม่คิดว่าความฝันของลูกต้องจบลง ไม่คิดว่าลูกจะอายุสั้นขนาดนี้
ด้านนายสมชาย อายุ 56 ปี พ่อน้องหญิง เล่าว่า วันเกิดเหตุทราบเพียงว่ามีรถเก๋งมาชนท้ายลูกสาว เมื่อไปดูพบว่าเป็นรถเบนซ์ โดยลูกสาวต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกระสัง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตอนนั้นตนและภรรยาอยู่ในอาการเศร้า รู้เพียงว่าคนขับรถเป็นผู้หญิง เธอรับสารภาพว่าขับรถประมาทจึงไปชนท้ายลูกสาว และยังเอาเงินมาช่วยจัดงานศพ 100,000 บาท ส่วนเงินเยียวยาอื่น ๆ คนขับรถบอกว่ารถมีประกันชั้น 1 น่าจะได้รับส่วนต่างอีก
ขณะที่ ตำรวจ สภ.กระสัง ส่งเรื่องฟ้องศาลจังหวัดบุรีรัมย์ กระทั่งศาลชั้นต้นจังหวัดบุรีรัมย์ ตัดสินว่าคนขับรถเป็นฝ่ายประมาท ซึ่งตามแนวทางแล้วบริษัทประกันจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน ตามเงินที่เอาประกัน 2.5 ล้านบาท
ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ส่วนกลาง มีความเห็นควรให้บริษัทประกันภัย ดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทตามเงื่อนไขกรมธรรม์ภาคบังคับและภาคสมัครใจ รวมเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท ภายใน 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2564
แต่ถึงตอนนี้ ครอบครัวยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว บริษัทประกันปฏิเสธการจ่าย อ้างว่าคนขับรถเบนซ์ไม่ได้เป็นฝ่ายประมาท และให้ตนไปฟ้องร้องต่อศาลเอง ตนยอมรับว่าครอบครัวไม่มีปัญญา แม้แต่เงินค่าทำศพลูกยังต้องกู้ยืมเงินมา และยังต้องส่งดอกเบี้ยมาจนถึงปัจจุบัน จึงอยากขอความช่วยเหลือและขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวเราด้วย
ภาพจาก รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์ 
