สาวร่ำไห้กลางรายการ ลั่น ถ้าไม่รักคงไม่ไปอยู่ด้วย-ลำบากใจ ลูกรัว 11 นัดจนผัวใหม่ตาย

          สาวร่ำไห้ ยัน ลูกไม่ได้ตั้งใจยิงผัวใหม่ตัวเองตาย ยืนยันไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน ลั่น ถ้าไม่รักคงไม่ไปอยู่ด้วย ที่คบกันทั้งที่ไม่หย่าเพราะผัวเก่าทำร้าย ถ้ากลับไปก็โดน ชี้ ที่ลูกเก็บปืนไว้กับตัวเพราะกลัวแม่โดนพ่อยิงตาย



          จากกรณีข่าวที่หญิงรายหนึ่งชื่อ รจนา ได้หายตัวออกจากบ้านไป ซึ่งทาง แม็ก วังเย็น ผู้เป็นลูกชายได้พยายามตามหาแม่จนรู้ว่าแม่ไปคบหากับชายที่ชื่ออำพล จึงพยายามอ้อนวอนให้แม่กลับบ้านแต่แม่ไม่กลับ ก่อนจะสืบรู้ว่าแม่กำลังจะเดินทางไปฉีดวัคซีนจึงดักรอและก่อเหตุยิงนายอำพล 11 นัด จนเสียชีวิต ซึ่งตามรายละเอียดข่าวระบุว่านางรจนา ยังไม่ได้หย่ากับสามี (พ่อของ แม็ก วังเย็น)

          ล่าสุด (30 พฤศจิกายน 2564) รายการโหนกระแส โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ วรรณ แม่แท้ ๆ ของผู้เสียชีวิต (นายอำพล) , พร แม่บุญธรรมผู้เสียชีวิต, ทนายรณณรงค์ แก้วเพชร, รองแต้ม พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล


เขาอยู่กับแม่วรรณถึงอายุเท่าไหร่ ?

เขาเป็นคนยังไงแม่พร ?

          พร : เขาเรียบร้อย ไม่ค่อยไปไหน แต่เขาชอบไปหาปลา หาปูของเขาประจำ เขามีลูกคนนึง แต่แฟนเขาไม่อยู่แล้ว เลิกรากันไปแล้ว ลูกอยู่กับแฟนเก่า

อำพลอายุเท่าไหร่ ?

          วรรณ : 27 ปีค่ะ

เขาทำงานอะไร ?

          พร : เขาไม่ได้ทำงาน เขาทำนากับแม่

เขารู้จักรจนาได้ยังไง ?

          พร : เล่นโทรศัพท์ รู้จักจากเฟซบุ๊ก คุยกันเกือบปี เขาไม่เคยเล่าให้แม่ฟังเลย แต่มารู้เพราะรจนา มาบ้าน ก็ถามว่าคุยนานหรือยัง เขาเลยบอกคุยกันเป็นปีแล้ว รจนามาตอนฝนตกน้ำท่วมเพชรบูรณ์ครั้งแรก เขามาเที่ยวเฉย ๆ ค่ะ ตอนนั้นยังไม่ได้มาอยู่เลย รจนา บอกว่ามาเที่ยวดูน้องเขา

แม่รู้มั้ยเขาคบกัน ?

          วรรณ : มารู้ทีหลังตอนเขาอยู่ด้วยกันเป็นเดือน ก่อนหน้านั้นไม่เคยรู้มาก่อน

รู้ได้ไงว่าเขาคบกัน ?

          พร : รจนาส่งเงินให้อำพล ครั้งแรกเลย ส่งหมื่นนึง ให้ทีเดียวหมื่นนึง แล้วครั้งที่สองให้ห้าพัน สองพัน พันนึงบ้าง แม่รู้เพราะหลานสาวบอกว่าน้าเขาส่งเงินมาให้มันอีกแล้วนะ  แต่เงินมาไม่เคยเห็นกับเขา ไม่รู้เขาเอาไปทำอะไร

รู้หรือยังว่าเขาไปคบหาฉันชู้สาวกับรจนา ?

          พร : ไม่เคยรู้เลย รู้เพราะเขามาบ้านครั้งแรกเลย เขามาก็คุยกันเรื่องโทรศัพท์ แล้วบอกว่าจะไปเช่าโรงแรมอยู่ ตอนนั้นรู้เลยว่าเขาคบกันแล้ว


ผู้หญิงอายุ 50 กว่า อำพล 27 ไม่สงสัยเหรอว่าจะมาคบหาลูกเรายังไง ?

          พร : เขาโทร. บอกว่าเป็นสาวโสด ในเฟซก็เป็นสาวโสด อำพลเลยไม่รู้

จะกลายเป็นอำพลคบหาผู้หญิงคนนี้เพราะได้เงินด้วยหรือเปล่า ?

          พร : ใช่ ยอมรับ เขารักกันมั้ยก็ไม่รู้

รู้เมื่อไหร่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้โสด มีลูกอายุ 30 กว่าอายุมากกว่าอำพล ?

          พร : ไม่รู้เลยตอนแรกเขาบอกมีลูกสามคน มีครอบครัวหมดแล้ว ยกบ้านยกอะไรให้หมดแล้ว เขาจะมาตั้งตัวใหม่อยู่กับอำพล ที่เพชรบูรณ์ บ้านเขาอยู่กาญจนบุรี ตอนนั้นห้ามให้เขากลับบ้าน เขาก็ไม่กลับ บอกจะอยู่นี่ กลับไปผัวเขาจะยิงเขาตายเหมือนกัน

อีกฝั่งนึงเขาบอกว่าสามีรจนา ยังไม่ได้มีการหย่ากัน ลูกชายคือคนที่ยิงชื่อแม็ก ที่เขาเรียกกันว่าแม็ก วังเย็น ปรากฏว่าแม็กเองเขาสงสัยว่าแม่เขาหายตัวไปไหนตั้งแต่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา หายไปเดือนกว่า จนไปสืบรู้ว่าแม่รจนาไปอยู่กับผู้ชายคนนึงที่เพชรบูรณ์ คือไปอยู่กับอำพล แม่มารู้ว่าตัวรจนาไปอยู่กับอำพลคือ 22 ต.ค. ใช่มั้ย ?

          พร : ใช่ อยู่บ้านแม่เอง กินข้าวกินน้ำด้วยกัน อยู่บ้านแม่กับพ่อของอำพล

แม่ได้รู้มั้ยว่าตัวฝั่งรจนามีผัวแล้ว ?

          พร : ตอนนั้นรู้แล้ว บอกให้เขากลับบ้านก็ไม่ยอมกลับ กลับไปผัวเขายิงแน่ ลูกสะใภ้รจนาโทร. อ้อนทุกวัน เขาก็ไม่กลับ เขาหยอกหลานทุกวันในโทรศัพท์  แต่เขาไม่กลับ


ตัวอำพลจริงจังแค่ไหนกับรจนา ?

          พร : นี่ก็ไม่รู้ใจเขานะ

ครั้งนึงแม็กเคยตามมาถึงคนในครอบครัว?

          พร : เขาไม่ตาม เขาโทร. มาขู่ โทร. มาหาหลาน เรียนอยู่ ป. 5 ลูกสาวรจนา โทร.มาหา ไม่ใช่แม็กโทร. มา โทร. มาหลานอยู่ป. 5 พูดว่าจะฆ่ายกโคตร จะยิงหมดโคตรยิงหมดแนว ถ้าไม่ให้แม่เขากลับไป หลานมาบอกเรา เราก็บอกให้มันกลับ มันก็ไม่กลับ รอบที่โทร. ขู่กลับไปบ้านแล้ว รอบสองมานี่ก็บอกให้กลับอีก เขาก็ไม่ยอมกลับ จะอยู่ยังไง เขาบอกจะมาตั้งตัวที่นี่ เขาก็ช่วยกันทำมาหากินกับอำพล

อำพลรักผู้หญิงคนนี้มั้ย ?

          พร : แม่ไม่รู้ แต่เขาอยู่กินด้วยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน

เงินใครให้อำพล ?

          พร : ฝั่งผู้หญิงให้กิน บางทีกระเป๋านี้อย่ายุ่งนะ มีเงินมั้ยไม่รู้ เขาบอกว่าถ้าอยู่กับตัวเองได้จะมาตั้งตัวด้วยกัน แม่ก็ไม่รู้อะไรอยู่ในกระเป๋าเขาบ้าง เขาไม่เคยวาง

วันเกิดเหตุแม่รู้มั้ย ?

          พร : แม่ไม่รู้ พอรู้ก็สาย ๆ ตำรวจโทร. มาบอกว่าอำพลตายแล้ว แม่ก็สลบไปเลย

ฝั่งโน้นจะสู้เต็มที่ว่าขาดเจตนา อ้างว่าฝั่งนี้ไปยุ่งกับครอบครัวเขาก่อน ห้ามแล้วไม่ฟัง เลยมาสังหาร

มุมของแม่ ฝั่งอำพลกับรจนารักกันมั้ย ?

          วรรณ : เขารักกันมาก ผู้หญิงรักมากเลยแหละ จะไปไหนก็หึงหวงกัน ทีแรกอำพลไม่ทราบเขามีครอบครัวแล้ว มาทราบทีหลัง อำพลก็ให้กลับ แต่เขาบอกว่าเขากลับไม่ได้ สามีเขาจะฆ่า จะมาตั้งหลักกับอำพล


ต่อสายหา พล.ต.ท. ธนายุตม์ วุฒิจรัลธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กรณีนี้ฝั่งผู้ก่อเหตุ เขาอ้างอะไรมาบ้างหรือยัง ?

          พล.ต.ท. ธนายุตม์  : จากการสอบสวนด้วยความโมโหอะไรก็ตาม เราให้ฝ่ายสืบสวน สืบสวนเชิงลึกว่ามีประเด็นอื่นหรือไม่อย่างไร เพราะคนร้ายใช้อาวุธปืนที่มีความชำนาญพอสมควร ก่อเหตุในเวลากลางวันและสถานที่คนพลุกพล่าน  เป็นลักษณะเหิมเกริม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

ปืนเป็นปืนของใคร ?

          พล.ต.ท. ธนายุตม์ : จากการตรวจสอบ เป็นปืนของพ่อ สามีคุณรจนา แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เป็นปืนมีทะเบียน 9 มม. เราตรวจยึดได้ครบทุกอย่าง

มีสองกรณีที่กำลังวิเคราะห์กันอยู่ กรณีแรก ผู้ก่อเหตุมาดักรอ เพราะรู้ว่าแม่มาฉีดวัคซีน กรณีที่สอง เขาบังเอิญไปเจอ แม่ขับรถเขา ประเด็นไหนกันแน่ ?

          พล.ต.ท. ธนายุตม์  : อยู่ระหว่างการสอบสวน จากการสอบปากคำ แม่จะมาฉีดวัคซีน มีการจอดรถติดไฟแดง มีการทะเลาะกัน ผู้เสียชีวิตก็วิ่งลงจากรถ และคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์มายิงหน้าห้าง ส่วนรายละเอียดให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เมื่อคืนเราทำงานทั้งคืนในเรื่องนี้


แจ้งข้อกล่าวหาอะไรบ้าง ?

          พล.ต.ท. ธนายุตม์  : ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนกระสุนปืนไว้ในครอบครองพกพา เราได้รวบรวมพยานหลักฐาน ตอนนี้เดินทางไปกาญจนบุรีเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม

กรณีเขามามอบตัวเอง จะมีผลอะไรมั้ย ?

          พล.ต.ท.ธนายุตม์  : ข้อเท็จจริงไม่ได้มามอบตัว เราจัดทีมไล่ล่า เพราะคนร้ายมีอาวุธปืน การใช้อาวุธปืนมีความชำนาญมาก เราก็เข้ากดดันปิดล้อม จนรวบตัวได้ มีการติดต่อมาเหมือนกัน แต่ตรงนี้เรายินดี แต่ทางสืบสวนเราทำงานเชิงรุก มอบไม่มอบก็ต้องจับกุม

สรุปที่บอกว่ามีการมอบตัว คือการจับตามหมาย ?

          พล.ต.ท. ธนายุตม์  : ใช่ครับ ดูจากคลิปแล้วเป็นการยิงที่มีความชำนาญ เขาบอกมีการฝึกฝนยิงอยู่เป็นประจำ เป็นการยิงโดยที่ล้มไปแล้วยังไปซ้ำอีก เราคิดว่าเป็นบุคคลที่เป็นอันตรายต่อสังคม ประชาชนอาจถูกลูกหลงได้ ภาค 7 มีแผนยุทธการกวาดล้างอาวุธปืน อาวุธอันตรายต่อเนื่อง

พูดชัดเจนมั้ย ?

          ทนาย : ยังไม่ชัด ตอนไปยิงเขาเป็นการวางแผนมาหรือเปล่า เป็นประเด็นที่ญาติและคนดูคาใจถ้าเป็นการตระเตรียมคือการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไม่ใช่เจตนาฆ่า พนักงานสอบสวนต้องสอบเพิ่มประเด็นนี้ ไม่ใช่มาตัดตอนเจตนาฆ่า ยิงคนตายแล้วจบ ไม่แฟร์กับคนตาย  มันบังเอิญมาเจอ เป็นไปไม่ได้ มันมาดักอยู่แล้ว เขารู้ได้ไงว่าแม่มาฉีดวัคซีนแล้วมาดักเวลานั้นพอดี ผมว่าตรงนี้เชื่อยาก ต้องเอาให้กระจ่าง

พี่แต้ม กรณีนี้น่าจะเตรียมการมั้ย ?

          รองแต้ม : เมื่อกี้ ฟังท่านผู้บัญชาการสัมภาษณ์ เราต้องยอมรับหลักกฎหมายและการดำเนินคดี ท่านผู้บัญชาการแจ้งว่าฆ่าคนตายโดยเจตนา และใช้อาวุธ เบื้องต้นตร. เป็นผู้กล่าวหา ต้องแจ้งอย่างนี้อยู่แล้ว แต่ถ้ามีการสอบสวนเพิ่มเติม มีพฤติกรรม หรือพยานหลักฐานว่าจำเลยมีการตระเตรียมการ เตรียมอาวุธ ก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม ในข้อหาฆ่าคนตายโดยการตระเตรียมการ อาวุธปืนคือสิ่งบ่งบอก การยิงกระหน่ำ มีเจตนาอยู่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับพยานหลักฐาน ตร.อาจแจ้งข้อหาเพิ่มเรื่องการวางแผน หรืออะไรก็แล้วแต่ ถามว่าตร. รู้มั้ยเขาวางแผน เขายังไม่รู้หรอก เดี๋ยวตร. จะสอบสวน สอบพยานผู้ต้องหา เอาคำมาวิเคราะห์ หาพยานหลักฐานเพิ่ม สิ่งแรกที่เขาแจ้งข้อหา ก็แจ้งแบบนี้ไปก่อน


กรณีพี่รณณรงค์ก็น่าสงสัย ?

          ทนาย : ญาติอย่านั่งอยู่เฉย ๆ ไปหาผู้บัญชาการภาค 7 ให้ท่านสอบประเด็นนี้เพิ่ม ถ้ามีแค่ข้อหานี้ขึ้นมาทำไง

เขาอ้างบันดาลโทสะได้มั้ย ?

          ทนาย : คนมีสิทธิ์บันดาลได้คือตัวคู่สมรส เพราะถูกกระทบสิทธิ์โดยตรง ถ้าตัวพ่อยังไม่ได้ทำอะไรตัวลูกมายุ่ง สิทธิ์มันห่างกันเกินไป แล้วที่สำคัญตอนไปยิง บันดาลโทสะต้องถูกข่มเหงต่อหน้า แต่นี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย จะเดือดแทนพ่อยังไง เขาแค่นั่งรถมาด้วยกัน ถ้าอยู่ในโรงแรมก็ว่าไปอย่าง ก่อนตายผู้ตายก็พยายามวิ่งหนี ถ้าบอกว่าไปพูดยั่วยุก็ห่างมากนะจากวงจรปิด

ถือว่าโหดมั้ย คนตายวิ่งหนีไปแล้ว ยังขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปยิง ?

          รองแต้ม : เป็นพฤติกรรมที่โหดร้าย เป็นอันตรายต่อสังคม ยิงในที่โล่งแจ้ง ประชาชนสัญจรไปมา อาจโดนคนอื่นได้ ที่สำคัญที่โหดร้าย จริง ๆ ยิงนัดเดียว ตบตีก็ได้ แต่คุณใช้กระหน่ำยิงนี่โหดร้าย ที่พี่รณณรงค์พูดก็ถูกต้อง การบันดาลโทสะ ผู้ถูกข่มเหง ต้องถูกข่มเหงอย่างรุนแรง แล้วความรุนแรงวัดจากอะไร ความรุนแรงและไม่เป็นธรรม วิญญูชนทุกคนมองแล้วว่านี่คือความไม่เป็นธรรม แล้วลูกที่ไปยิงเขา ถามว่าเขาได้รับผลกระทบยังไง คนเจ็บแค้นมากจริง ๆ ต้องเป็นสามี แล้วผู้หญิงอยู่กับคนตาย มีการโทร. ขอให้กลับมา แสดงว่าคนยิงรู้อยู่แล้วว่าเขาไปอยู่ด้วยกัน

"คุณรจนา" โทร. มาสายด่วน บอกว่าฝั่งแม่พูดจริงบ้างไม่จริงบ้าง คือยังไง?

          รจนา : ที่ตร.พูดก็ยังไม่จริง ลูกชายหนูกล่อมแล้วให้มามอบตัว แต่เขายังทำใจไม่ได้ ไม่ได้ไปปิดล้อมจับอย่างที่ตร. พูดนะคะ เด็กมันยังทำใจไม่ได้ที่จะออกมา

ทางฝั่งแม่ ๆ คุณอำพลเคยบอกให้คุณกลับ แต่คุณไม่กลับ เพราะกลัวสามียิง จริงมั้ย ?

          รจนา : เคยพูดจริงค่ะ เคยบอกต๊ะคนที่ตายว่าเรามีปัญหาครอบครัว เขาขู่ฆ่าจะยิงทิ้งตลอด รับเราได้มั้ย เราไม่ได้เลิกกัน แต่เราอยากหนี ทำงานกลับมาก็พูดขู่ฆ่า จะยิงทิ้ง จะเอามีดปาดคอตลอด เคยแจ้งตร.แต่ไม่มีใครช่วยได้ เลยตัดสินใจคุยกับต๊ะ ต๊ะก็คุยกันผ่านเฟซบุ๊กว่าแม่เขาก็ทิ้ง มีเมีย เมียก็ทิ้ง ก็เห็นอกเห็นใจกัน ก็ตัดสินใจหนีทางนี้ ไปอยุ่กินทางโน้น


แม็ก เขารู้ว่าคุณไปฉีดวัคซีน?

          รจนา : ไม่รู้หรอกค่ะ เขาไปเจอกันโดยบังเอิญ เขาเรียกให้แม่กลับบ้าน แม่ไม่ยอมกลับ ก็เลยขับรถพาหนี เพราะถ้ากลับบ้านก็โดนพ่อทำร้ายเหมือนเดิม เหมือนที่เคยหนีมาแล้วหลายครั้ง

แม็กพกปืนตลอดเวลามั้ย ?

          รจนา : ไม่พกหรอกค่ะ ที่เขาพกเพราะเอาซ่อนพ่อ พ่อจะฆ่าแม่ ทะเลาะกันทีไรเราปืนมาขู่จะยิงแม่ตลอด เขาเลยเอาปืนไปซ่อน

วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ทำไมอำพลวิ่งหนี ?

          รจนา : เขาจะให้ลงรถ ให้จอดให้กลับบ้าน เลยบอกให้ต๊ะวิ่งหนีไป เดี๋ยวจะไปรับ เขาก็โกรธแม่ว่ารักคนอื่นมากกว่าลูก มากกว่าหลาน ว่าเป็นเพราะผู้ชายคนนี้แม่เลยไม่รักลูกรักหลาน เขาเลยโมโห อารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้เตรียมการอะไรเลยทั้งสิ้น เจอกันโดยบังเอิญ เขาไม่ได้เตรียมการอะไร เขามีปืนเพราะเขารักษาชีวิตแม่

แต่เขายิงหมดแม็ก 11 นัดนะ ไม่เจตนาเหรอ ?

          รจนา : ไม่ เขาไม่ได้ตั้งใจมาดักยิง หมายความอย่างนี้

          วรรณ : ต้องตั้งใจ แม่ไม่เชื่อเลย ถ้าไม่ตั้งใจคงไม่ 11 นัด แม่ต้องปกป้องลูกใช่มั้ย แม่ไม่เชื่อหรอก ไม่เตรียมมาขนาดนั้นถ้าไม่รู้

          รจนา : หนูไม่ได้ปกป้องลูก หนูพูดตามความเป็นจริง

          วรรณ : แม่จะเอาเรื่องถึงที่สุดเลยนะ  ลูกแม่แม่ก็รัก พาลูกแม่ไปตายได้ไง จะรู้มั้ยว่านัดกัน ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังด้วยแหละ ต้องเตรียมการมานานแล้ว

          รจนา : เขาทำงาน อบจ.  มาเจอกันโดยบังเอิญค่ะ


เขาพกปืนไปทำงานเหรอ ?

          รจนา : เขากลัวพ่อจะฆ่าตัวตาย

          วรรณ : ไม่น่าทำขนาดนั้น คุยกันดี ๆ ก็ได้ เขาวิ่งหนีไม่มีอาวุธอยู่แล้ว น่าจะคุยกันดี ๆ

คุณรจนา ตอนนี้คุณกำลังจะบอกว่าคุณพยายามเลิกสามีเก่าแต่เขาไม่หย่าให้ คุณไปอยู่กินกับอำพน 1 เดือน ที่เพชรบูรณ์ คุณมาฉีดวัคซีน บังเอิญแม็กพกปืนไปทำงานด้วย กลัวพ่อจะยิงตัวตาย หรือยิงตัวคุณเลย เลยเก็บปืนไว้ให้ เป็นคนหวังดี แล้วไปเจอรถคุณ ไปก่อเหตุยิง ไม่ตั้งใจยิง แต่ยิงไป 11 นัด ถูกมั้ย ?

          รจนา : ใช่ค่ะ ไปถามชาวบ้านแถวนั้นได้ พยานหลักฐานมีมี เคยไปแจ้งความที่โรงพัก ที่ผัวขู่จะฆ่า หลักฐานในเมืองก็มี เคยมาแจ้ง แต่ไม่มีใครช่วยได้

คนบอกว่าตัวคุณเองเหมือนไม่ดูดำดูดีคนที่รักที่ตายไปแล้ว มาช่วยลูกชายให้พ้นผิด ?

          รจนา : ไม่ใช่ค่ะ เราพูดตามความเป็นจริง เราไม่เข้าข้างทั้งสองคน ไม่ได้เข้าข้างใคร ทั้งคนตายและลูก เราพูดตามความเป็นจริง ที่เราเห็นเอง

ฟังแล้วเป็นยังไง ?

          วรรณ : ไม่พอใจค่ะ จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทำไมต้อง 11 นัด แทนที่จะพูดกันดี ๆ ทำไมต้องฆ่ากันขนาดนั้น เขาวิ่งหนีแล้ว คุยกันดี ๆ ก็ได้ ทำไมต้องฆ่าขนาดนั้น

ได้คุยกับเขามั้ย ?

          วรรณ : คุยกับรจนา เขาบอกไม่มีต๊ะเขาอยู่ไม่ได้ ร้องไห้  เขาบอกลูกเขาเป็นคนทำเอง ตอนลูกไม่มอบตัว  ทำไมต้องฆ่ากันขนาดนี้ ตีสั่งสอนก็ได้ นัดเดียวก็ได้แล้ว ทำไมต้อง 11 นัด แม่ไม่ยอมหรอก

แม่ล่ะ ?

          พร : แม่ไม่เอาเรื่อง

          วรรณ : ทางนี้ไม่ใช่แม่จริง ๆ คงไม่เอาเรื่อง แต่แม่เป็นแม่จริงไง แม่ยอมไม่ได้ ลูกใคร ใครก็รัก

คุณรจนา ตกลง ณ ตอนนี้ยืนยันว่าแม็กไม่ตั้งใจยิงแฟนคุณเสียชีวิต เมื่อวานคุณคุยกับแม่ต๊ะ อำพล ?

          รจนา : ใช่ค่ะ คุยทั้งสองคน ทั้งแม่จริงและแม่เลี้ยง หนูพูดจริงว่าอยู่ไม่ได้ เพราะหนูรักเขา จะไปดูแลเขา เพราะเขาไม่มีใครรัก แม่ทิ้งไปตั้งแต่เด็ก เขาอยู่กับพ่อ พ่อก็มีเมียใหม่ ไม่ค่อยมีใครชอบเขา


เอายังไง เรื่องลูกชายคุณไปก่อเหตุไปยิงต๊ะ คนที่คุณรักเสียชีวิต คุณลำบากใจ ?

          รจนา : ใช่ เราต้องการให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ต้องเข้าใจเราด้วย  ทำไมเราหนีไปอยู่กับอีกคน เรามีความจำเป็นถึงต้องหนี

สังคมส่วนนึงบอกว่าไม่เข้าข้างอำพลที่เสียชีวิต เหมือนไปคบหาคุณซึ่งมีสามีอยู่แล้ว คุณคิดยังไงกับมุมนี้ ?

          รจนา : อันนี้แล้วแต่สังคม แต่ทุกคนต้องให้ความเป็นธรรมสองฝ่าย เพราะเราคุยกันกับอำพล เราถึงตัดสินใจมาคบกัน เพื่อสร้างอนาคต เราถามว่ารับได้มั้ย เรายังมีสามี ยังไม่ได้หย่า มีหลักฐานในเฟซบุ๊ก เราคุยกันตลอด

แม่บุญธรรมไม่เอาเรื่อง เพราะอะไร ?

          พร : ป้าเขาบอกไม่ให้เอาเรื่อง ป้าของแฟนเราไม่ให้เอาเรื่องคนยิง แต่แม่แท้ ๆ เขาเอา

          วรรณ : ยังไงก็เอา ต๊ะไม่เคยไปกาญจน์ ไม่เคยรู้ทางด้วย เขาพาลูกแม่ไปตาย

          รจนา : หนูมาเมืองกาญจน์ ต๊ะกลัวเราไม่กลับไป ก็ตามมาด้วย ต๊ะกลัวเราไม่กลับไป  

คุณจะใช้ชีวิตยังไงต่อ ?

          รจนา : ยังไม่รู้เลย ลำบากมาก สังคมโจมตี คนเข้าใจก็เข้าใจดีว่าทำไมผู้หญิงคนนึงถึงทนอยู่กับสามีเก่าได้ 30 กว่าปีเพราะอะไร (ร้องไห้) ถ้าไม่สุดแล้วคงไม่เป็นแบบนี้ ที่บ้านมีพร้อมทุกอย่าง ทำไมถึงเลือกอยู่ ณ จุดนั้น ไม่มีอะไรเลย ทำไมเลือกอยู่ที่ไม่สบาย  ผู้หญิงทุกคนรักมีกินมีใช้อยู่สบาย ทำไมเราถึงเลือกอยู่อย่างนั้น ทำไมต้องทนลำบาก ทำไมไม่เลือกความสบาย เพราะเราอยู่ไม่ได้ เราจะโดนทุบ โดนตี โดนขู่ฆ่าตลอด เป็นไปไม่ได้

คุณจะบอกว่าสังคมประณามคุณว่ามีสามีแต่ไปคบหาชายอื่น จนลูกคุณเองไปสังหารคนที่คุณรักตาย แต่คุณมีปัญหากับสามี สามีทำร้ายร่างกายคุณด้วย คุณพยายามขอหย่าแต่สามีไม่หย่า คุณเลยต้องหนี ไปพบกับผู้ตาย วันนี้ลูกชายบันดาลโทสะไปสังหารคนรักตาย คุณก็ลำบากใจ นี่ก็ผัว โน่นก็ลูก เหมือนชีวิตเลือกไม่ได้ ?

          รจนา :  ใช่ค่ะ อยู่ลำบากมาก กลับบ้านก็กลับไม่ได้ ลูกก็ห่วง คนเสียชีวิตเราก็เป็นห่วง ถ้าเราไม่รักเขา ไม่อยากดูแลเขา เราจะไปสร้างชีวิตทำไม เราก็พร้อมเดินหน้าไปด้วยกัน เตรียมแยกบ้าน ปลูกบ้านแล้ว เราจะล่อลวงเขามาฆ่าทำไม แม่ต๊ะพูดไม่ถูก ต้องให้สังคมรู้ด้วยว่าผู้หญิงคนนึงทำไมอยากมีผัวเด็ก ทำไมจะไปลำบาก ต้องเข้าใจเราด้วย เราเจอมาแบบนี้ เราคุยกันแล้วเราเข้าใจหัวอกกัน เราจะไปสร้างชีวิตกัน ไม่เอาอะไรไปเลยสักอย่างเดียว ขอใบหย่าเท่านั้น

อำพลถูกลูกชายสังหาร ต้องเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย คุณยอมรับได้ ?

          รจนา : มันเกิดไปแล้วค่ะ เราก็ต้องยอมรับตามความเป็นจริง ยังไม่รู้จะเอายังไงต่อไป ยังคิดอะไรไม่ออก อยากให้สังคมรับรู้ ให้ความเป็นธรรมกับลูกชาย เพื่อนฝูงก็อยากช่วยแต่ไม่กล้ามา เขากลัวเดือดร้อน เราตัวคนเดียว (ร้องไห้) ช่วยเหลือตัวเองคนเดียว หากินก็ลำบาก สังคมไม่รับรู้ความเป็นจริงที่เราได้รับมา

แต่ไม่กลับไปหาสามี ?

          รจนา : ไม่กลับไปค่ะ เสร็จเรื่องนี้แล้วจะขอออกบวชค่ะ บวชให้คนตายแล้วก็ตัดเวรตัดกรรมให้กับลูก ขอให้สังคมและ ตร. เห็นใจด้วย ขอให้พูดตามความเป็นจริงด้วยนะคะ


มุมเขาก็มีเหตุผล ?

          ทนาย : มันก็มีเหตุผล ทุกคนมีเหตุผลหมดแล้ว แต่ถ้ามีคู่สมรสแล้วอยากมีชีวิตใหม่ก็ไปหย่าสามีให้เรียบร้อย เขาไม่หย่าให้ก็ไปใช้สิทธิ์ทางศาลฟ้องหย่าเอา คุณจะไปหาชีวิตใหม่เริ่มต้นใหม่ก็ไปเริ่มแบบสุจริตเลย ไม่ต้องเดือดร้อนใคร

ถ้าได้ฟังคุณรจนา เขาพูดว่าไม่ได้มีการไปดักอย่างทนายรณณรงค์ พูด บังเอิญไปเจอที่สี่แยก แล้วจำรถได้ ขอให้แม่กลับบ้าน แล้วฝ่ายชายวิ่งหนีเลยตามไปยิง ?

          ทนาย : ไปสโลว์ดูคลิปวงจรปิดนะ ไม่เห็นได้คุยอะไรเลย ไปถึงก็ชักปืนยิงเลย ถามแม่คนตายเขาเชื่อมั้ยล่ะ


พี่แต้มว่าไง ?

          รองแต้ม : เห็นใจทั้งสองฝ่าย คุณรจนาสังคมก็ประณาม เขาทิ้งลูกสามีมาอยู่กับคนที่เขารัก เพื่อตั้งชีวิตใหม่ เพราะอยู่ก็ถูกรังแก มันเป็นเรื่องจิตใจที่เขาให้การ แต่สิ่งที่เขาพูดจะบ่งบอกถึงการเขาพูดจริง เขาพูดตรง เขาพูดมาหมดเลยนะ การพูดตรงอย่าไปคิดว่าเขาแก้ตัวให้ลูกเขานะ การพูดแบบนี้เป็นพยานหลักฐานมัดลูกชายเขาด้วย แสดงว่าลูกชายเขาฆ่าแน่นอน สองสิ่งที่ลูกชายมาเจอ เขาบอกว่าลูกชายให้กลับบ้าน เขายังไม่ได้พูดเลยว่าจะฆ่าผู้ชายคนนี้ แต่เขาบอกแม่ให้กลับบ้าน เผลอ ๆ มีการลงจากรถแล้ว อย่างนี้ให้เห็นเลยว่ามีมูลเหตุตรงนี้ แต่สิ่งที่เขาฆ่าเด็กที่วิ่งหนีไป อันนี้ไม่ถูกต้อง เพราะคุณไม่มีเหตุเลย เผลอ ๆ คุณไม่ได้พูดกับคนยิงด้วย ไปใช้ความโมโห สิ่งที่แม่เขาพูดถามว่าเหมือนช่วยลูก แต่ก็เป็นพยานหลักฐานมัดตัว ทีนี้สิ่งที่คนสงสัย เขามาหลอกลวงลูกมายิงหรือไม่ การที่เขาพูดตรง ๆ ก็กลายเป็นว่าเขาห้ามเหมือนกัน ไม่ให้ผู้ชายคนที่ตายมา เขาก็กลัวมีเรื่องเหมือนกัน ถ้าเขาวางแผนฆ่าเขาต้องคะยั้นคะยอให้คนตายมา ถามว่าพิสูจน์ได้ไง พิสูจน์ได้จากการที่เขาพูดตรง ๆ มา

ประเด็นหลอกคนตายน่าจะตัดทิ้งได้ แต่มาดักรอหรือไม่อีกเรื่อง ?

          รองแต้ม : รจนาอาจไม่รู้ว่าเขามาดักรอ แต่การที่เขามาดักรอ หรือคนนี้จะมาอยู่ที่ผู้ต้องหา อยู่ที่คนยิง เช่นผู้ต้องอาจรู้ข่าวว่าแม่จะมา แต่อาจไม่รู้ว่าคนตายจะมาด้วยหรือเปล่า ตัวนี้เราก็ต้องเอามาวิเคราะห์กัน อย่าไปเอารูปภาพคดีมาเคราะห์หนึ่งสองสาม ต้องสอบปากคำทุกส่วน ต้องให้ความเป็นธรรมคุณรจนาด้วย ต้องดูว่าสิ่งที่คุณรจนาเคยสัมผัสกับพ่อแม่คนตายเป็นยังไง เขาอาจมีความจริงใจ พูดเรื่องตรง ๆ มา ตรงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่น่าจะเชื่อว่าคุณรจนา พูดเรื่องจริง แต่หลักการทุกคนต้องช่วยลูก แต่จะช่วยให้พ้นคดี จากพยานหลักฐาน จากกฎหมายไม่ได้

แต่พี่รณณรงค์ยังยืนยันว่าดูแล้วเป็นการเตรียมการ ?

          ทนาย : ผมยังมองว่ายิ่งพอรู้ว่าทำงานในองค์กรจังหวัด น่าจะเช็กได้ว่าตัวแม่มารับการฉีดวัคซีนกี่โมง หรือมาฉีดหรือไม่เพื่อตามมาดูว่าแม่อยู่ไหน ผมคิดว่าน่าจะทำได้ แล้วไม่เกินกำลังที่ ตร. กาญจนบุรีจะไปสืบค้นได้ ทางญาติเขาติดใจก็ต้องไปเดินเรื่องตรงนี้ด้วย ผมยังมีประเด็นสงสัย อยากให้กระจ่าง

          รองแต้ม : สืบค้นว่าจะมา พอสืบค้นได้ แต่สืบค้นว่าชวนคนตายมาด้วยหรือเปล่า ถ้าคนยิงรู้แน่ว่าแม่มา แต่จะรู้มั้ยว่าแม่จะเอาคนตายมา


ถ้าเอาไปประกอบกับที่แม่บอกมีการขู่มาก่อนจากครอบครัว จะยิงให้หมดแนว ยิงฆ่าล้างโคตร ?

          รองแต้ม : แสดงว่าเป็นแผนพฤติกรรม ตร. ต้องเอามาประกอบ เพราะคุณเคยขู่ วางแผนฆ่า ถ้ามีหลักฐานอื่นก็เป็นการตระเตรียมการได้

ถ้าคนในครอบครัวอีกคนเป็นคนขู่ ถ้าจะมองว่ามีคนชี้เป้า เป็นไปได้มั้ย ?

          ทนาย : ต้องไปดู ไปเช็ก ตร.กาญจน์ ต้องเอาให้กระจ่าง เพราะคู่กรณีเป็นคนทำงานของรัฐด้วยนะ ต้องรอดูก่อนว่าภาค 7 ทำไปถึงไหนแล้ว ถ้ายังติดใจว่าข้อหาเบา หรือยังมองว่ามีเรื่องการวางแผน ไตร่ตรอง ต้องรอดู ถ้าไม่ตั้งข้อหา ต้องอธิบายให้ครอบครัวฟังว่าไม่ตั้งเพราะอะไร

          รองแต้ม : คดีนี้ไม่ใช่คดีซับซ้อน ไม่ใช่คดีอิทธิพล ตร. มีพยานหลักฐานครบหมดแล้ว เพียงแต่ท่านรณณรงค์อาจติดใจว่าแจ้งข้อหาเบาไป ถ้ามองว่าตร. ไม่แจ้ง แต่พอสำนวนไปถึงอัยการ เขาอาจสั่งให้สอบเพิ่มเติมหรือแจ้งข้อหาเพิ่มเติมก็ได้ หรือไปถึงศาล ศาลอาจพิจารณาลงโทษคดีหนักก็ได้ ตรงนี้ถือว่าไม่ใช่คดีสลับซับซ้อน ผู้บัญชาการเขาบอกจะเอาเต็มที่ จะสืบสวนเชิงลึก


จะมาบอกว่าเดือดแทนพ่อ แค้นแทนพ่อ แล้วไปก่อเหตุ ยกมาอ้างไม่ได้ ?

          ทนาย : ไม่ได้นะครับ ไม่งั้นต่อไปก็ยกมาอ้างแบบนี้หมดสิ โดนยิงกันหมดเลยสิ มันผิดกฎหมายบ้านเมือง

กรณีที่ฟังคุณรจนาพูดมาอยากหย่ากับสามี แล้วสามีไม่ยอม ทำให้เธอหนี ทางฝ่ายพี่รณณรงค์ พี่แต้ม บอกว่าคุณไปใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ไปฟ้องหย่าก็ได้ ถ้าสามีเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น แล้วทำให้เธอไม่กล้า ?

          ทนาย : ผมเชื่อว่าไม่มีใครใหญ่เหนือศาล ถ้าวันนี้เขาไปยื่นศาล คนรักก็ไม่ต้องตาย ลูกก็ไม่ถูกดำเนินคดี อยู่ที่วิธีคิดนิดเดียว

กระทรวงยุติธรรมต้องเยียวยามั้ย ?

          ทนาย : เขามีสิทธิ์ได้ เพราะผู้ตายไม่ได้ทำอะไรเลย ในแง่กฎหมายเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ต่อสู้หรือวิวาท ได้เยียวยาประมาณ 1.2 แสน ตามกฎใหม่เขา แต่ต้องไปตามเรื่องด้วย

แม่บุญธรรมไม่เอาเรื่อง แต่แม่แท้ ๆ เอาเรื่อง ?

          แม่ : ค่ะ ไม่ยอมค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก รายการโหนกระแส