12 ชีวิตเครียดหนัก นัดกันผูกคอตายทั้งครอบครัว หลังถูกนายทุนโกงสัญญา เตรียมยึดบ้านและที่ดิน จนไม่มีที่ซุกหัวนอน วอนสังคมช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2564 สำนักข่าว INN รายงานว่า ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปตามการร้องเรียนที่หมู่บ้านหนองหาน จ.นครราชสีมา พบนายวิชิต อายุ 70 ปี พร้อมด้วยนางจุ่น อายุ 55 ปี และ น.ส.กัญญา อายุ 47 ปี กำลังจะใช้เชือกคล้องคอเตรียมผูกคอตายใต้ต้นมะขามเทศหลังบ้าน จึงรีบตะโกนห้ามบอกว่าทุกปัญหามีทางออก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด ทุกคนพากันร่ำไห้บ่นว่าถูกนายทุนเจ้าหนี้ที่รับจำนองที่ดินรังแก ขับไล่ครอบครัวออกไปจากที่อยู่แห่งนี้ แต่ไม่มีที่ไปเพราะมีที่ดินอยู่ผืนเดียว
โดย นายวิชิต เล่าว่า ครอบครัวของตนมีสภาพยากจน ปัจจุบันอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งหมด 12 คน มีตน ภรรยา ลูกสาว 3 คน ลูกชาย 1 คน เพื่อนลูกสาว 1 คน และหลาน ๆ อีก 5 คน อายุตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 11 ขวบ
ทั้งนี้ ตนเป็นโรคหัวใจจึงทำงานหนักไม่ได้ มีอาชีพเก็บลูกกอล์ฟที่สนามกอล์ฟใกล้บ้าน เพื่อนำมาล้างใส่ถุง ถุงละ 8 ลูก ขายในราคา 100 บาท ในช่วงปกติก็จะเก็บขายได้สัปดาห์ละประมาณ 500-600 บาท แต่พอโควิดระบาดไม่มีนักท่องเที่ยวหรือนักกีฬามาเล่นกอล์ฟเลย จึงทำให้เก็บลูกกอล์ฟไม่ค่อยได้
ส่วนภรรยาก็อยู่บ้านเลี้ยงหลาน ๆ ลูกชายก็เป็นโรคหัวใจ ทำงานหนักไม่ได้เช่นกัน จึงรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ในหมู่บ้าน ทำให้ตอนนี้มีเพียงตนที่ได้เงินเบี้ยคนชราเดือนละ 600 บาท และเก็บลูกกอล์ฟขายได้บ้างเล็กน้อย ความเป็นอยู่จึงลำบากมาก
ส่วนเรื่องราวปัญหาในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2559 ตนป่วยเป็นโรคหัวใจ เมื่อไปโรงพยาบาลแพทย์ได้นัดผ่าตัดเพื่อทำบอลลูนหัวใจ แต่ตนไม่มีเงินผ่าตัด จึงได้นำโฉนดที่ดินผืนนี้ จำนวน 1 งาน ไปจำนองกับอาจารย์ที่สอนอยู่ในวิทยาลัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ โดยตกลงจำนองกันในราคา 200,000 บาท แต่ถูกหักค่าดอกเบี้ยไปจำนวน 50,000 บาท ได้เงินมาเพียง 150,000 บาท
ตอนนั้นตนจำยอม และอาจารย์คนดังกล่าวให้ตนเซ็นสัญญาว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน ซึ่งสัญญาเอกสารหลักฐานทุกอย่างอาจารย์คนดังกล่าวเก็บไว้ทั้งหมด ตนต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยประมาณ 7,000 บาทต่อเดือนเรื่อยมา ช่วงแรก ๆ ตนขอใบเสร็จ แต่อาจารย์คนนี้ไม่ให้ และบอกว่าที่ดินแค่ 1 งานไม่อยากได้หรอก คนกันเอง ช่วยเหลือกันไป ถ้ามีเงินเมื่อไรก็ให้นำเงินมาไถ่ถอนคืนเลย
กระทั่งกลางปีนี้ตนประสบกับปัญหาโควิด ตกงานขาดรายได้ ไม่มีเงินมาจ่ายดอกเบี้ย พอไปเจรจากับอาจารย์คนดังกล่าวเพื่อขอหาเงินมาไถ่ถอนคืน อีกฝ่ายกลับไม่ยอม ตอนแรกบอกว่าต้องนำเงินมาไถ่ถอนถึง 400,000 บาท แต่หลัง ๆ มานี้บอกว่าไม่เอาเงินแล้ว แต่จะเอาที่ดินอย่างเดียว จึงถูกอาจารย์คนดังกล่าวฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดสีคิ้ว เพื่อยึดที่ดินนี้ไป พร้อมข่มขู่ว่าถ้าไม่ออกไปจากที่ดินตรงนี้จะนำรถแบ็กโฮมาทุบบ้านไล่ที่ภายในเดือนนี้ (ธันวาคม)
นอกจากนี้อาจารย์คนดังกล่าวยังได้ไปหลอกให้ลูกสาวที่อยู่บ้านติดกันจำนองโฉนดที่ดิน 2 งาน ในราคา 90,000 บาท แล้วทำการฟ้องร้องขับไล่จนลูกสาวเครียดหนักกลายเป็นคนเสียสติ ต้องย้ายออกไปอยู่กับญาติที่ต่างอำเภอ อีกทั้งลูกสาวอีกคนที่อยู่บ้านติดกันก็ถูกคนที่รู้จักกับอาจารย์อ้างว่าแฟนของลูกสาวที่เลิกกันไปนานเกือบ 20 ปี นำโฉนดที่ดินไปขายให้กับเขา จึงได้ฟ้องศาลขับไล่ลูกสาวออกจากที่อีกคน
กลายเป็นว่าตอนนี้ทุกคนกำลังถูกอาจารย์คนนี้ขับไล่ออกจากที่พร้อมกัน ทำให้ไม่มีที่อยู่ สงสารแต่ลูกหลานที่ยังเด็กอยู่ด้วยกันรวม 12 คน จะไปอยู่ที่ไหน
สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือได้ ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสีคิ้ว เลขที่บัญชี 327-0-55652-7 ชื่อบัญชี นายวิชิต โฉสูงเนิน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์โทร. 064-0312182 (นายวิชิต)
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
