แม่เข่าทรุดร้องไห้ ขายวัวได้เงิน 3 หมื่น ลูกฉีกทิ้งเป็นซาก หันไปอีกทาง สามีนอนป่วย

 
               ชะตากรรมหญิงตกทุกข์ สามีป่วย เอาวัวไปขายได้เงินมาเก็บรวม 3 หมื่น กลับบ้านมาเจอ ลูกฉีกทิ้งเหลือแต่ซาก ร้องไห้เข่าทรุด

            เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 เว็บไซต์ 163.com เผยเรื่องราวสุดเศร้าของหญิงรายหนึ่ง เธออาศัยในหมู่บ้านซวงซาน ในเมืองซุนอวี้ มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เธอมีสามีและลูกชาย 2 คน วัย 9 ขวบ และ 7 ขวบ ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของเธอเลี้ยงวัว โดยสามีเป็นคนรับผิดชอบดูแล

            จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ราวกับชะตากรรมกลั่นแกล้ง สามีของเธอเกิดล้มป่วยลง ไม่มีแรงเลี้ยงวัว ทำให้เธอต้องกลายเป็นเสาหลัก แบกรับภาระดูแลครอบครัว ทั้งสามีป่วย และลูก 2 คนที่ไม่ปกติ มีความพิการบกพร่องทางสติปัญญาทั้งคู่

            ต่อมา หญิงรายดังกล่าวตัดสินใจนำวัวไปขายจำนวน 2 ตัว ได้เงินมา 12,500 หยวน หรือประมาณ 65,000 บาท จากนั้นก็แบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วนเพื่อแบ่งเก็บไว้ในที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน แล้ววันหนึ่งเธอได้ออกไปตลาดกับลูกชายคนโต
            จากนั้นเวลาประมาณ 12.00 น. เมื่อเธอกลับมาบ้านก็ต้องเข่าทรุด เมื่อเห็นกองเงินถูกฉีกกระจัดกระจายเกลื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเงินส่วนหนึ่งที่เธอแบ่งเก็บไว้จำนวน 6,000 หยวนหรือราว 30,000 บาท เงินที่ยากจะหามากลายเป็นซากไม่เหลือชิ้นดี ทำเอาเธอถึงนั่งทรุดตัวร้องไห้อย่างหนัก

            เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ยินเสียงร้องตกใจ ก็รีบเข้าไปดูนึกว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น ก่อนจะเหตุภาพสุดเศร้าสะเทือนใจ.. สามีนอนป่วยอยู่ขณะที่ภรรยาทรุดตัวลงร้องไห้ โดยมีเศษเงินหยวนกระจายอยู่เต็มพื้น


            ทางตัวแทนคณะกรรมการหมู่บ้านได้โทรศัพท์ไปยังธนาคารท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งทางหัวหน้าสาขาของธนาคารก็แจ้งว่าอย่าตกใจ ขอให้เก็บเศษเงินไว้ และในวันรุ่งขึ้นให้นำไปที่ธนาคาร จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยจัดการ

            และในวันถัดมา ทางพนักงานของธนาคารสาขาดังกล่าวก็ช่วยกันระดมกำลังต่อเงินที่ถูกฉีกขาด ราวกับต่อจิ๊กซอว์ ซึ่งต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก พนักงานทำงานหนักเป็นเวลา 2 วัน จนสามารถต่อธนบัตรได้ครบจำนวน 6,000 หยวน ก่อนที่จะโอนเงินเต็มจำนวนให้กับลูกค้า

            หวัง ชุน หัวหน้าสาขาธนาคาร กล่าวว่า "ธนาคารมีหน้าที่รับผิดชอบแลกเปลี่ยนเงินที่เสียหายให้กับลูกค้า สำหรับสถานการณ์ของครอบครัวนี้ ในฐานะธนาคารท้องถิ่น เราจำเป็นต้องช่วยเหลือและแก้ปัญหาของพวกเขา แม้ว่าเราจะต้องทำงานล่วงเวลามากขึ้น แต่เพื่อแก้ปัญหาของลูกค้า เราก็รู้สึกยินดีในหัวใจ เพราะเราได้ทำสิ่งที่มีความหมาย"