สรุปดราม่าทุกมุม กรณีสาวรีวิวโรงแรมให้ 6 คะแนน เพราะราคาแพงไป แต่กลับถูกโรงแรมเรียกเงินค่าเสียหายกว่าฟ้อง 3 ล้าน งง โรงแรมรู้ได้ยังไงว่าเป็นใคร ส่วนชาวเน็ตรู้แล้ว โรงแรมนี้คือโรงแรมอะไร ตอนนี้รถทัวร์ลงจอดเพียบ
วันที่ 7 มกราคม 2565 กำลังมีประเด็นร้อน ๆ สะเทือนวงการท่องเที่ยวเขาใหญ่ เมื่อทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายชื่อดัง มีการโพสต์เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เล่าเรื่องลูกความแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกโรงแรมฟ้องเรียกเงิน 3 ล้านบาท และให้ลงหนังสือพิมพ์ขอโทษ 5 ฉบับเป็นเวลา 7 วัน หลังจากที่รีวิวให้คะแนนโรงแรม 6 เต็ม 10 โดยเรื่องราวทั้งหมดมีดังนี้
จุดเริ่มต้นเรื่อง รีวิวทุกอย่างตามจริง ที่พักไม่ตรงปก-แค่บอกให้ปรับปรุง
นักท่องเที่ยวที่ถูกฟ้องมีชื่อว่า คุณขิง เธอเดินทางไปเข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งที่ อ.เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13-14 มิถุนายน 2563 เมื่อพักเสร็จก็มีการให้รีวิวผ่านเว็บไซต์ agoda ให้ 6 คะแนนเต็ม 10 เหตุผลสำคัญคือ ราคาแพงเกินไป
นอกจากนี้ คุณขิง ยังอธิบายเพิ่มเติมในรีวิวด้วยว่า ตอนที่ไปพักที่ห้องไม่ดูใหม่เหมือนที่ลงในภาพ ไม่มีความสะอาด อุปกรณ์ต่าง ๆ มีปัญหา เช่น โทรศัพท์, โทรทัศน์, ห้องไม่เก็บเสียง แค่คนเดินผ่านก็ได้ยินแล้ว วิวห้องก็ไม่ดี
เรื่องอาหาร รสชาติก็พอได้ แต่อาหารมีให้เลือกน้อย ห้องอาหารเล็ก ทำให้มีการเบียดเสียดกัน ที่สำคัญคือ ทำเลของโรงแรมหาทางเข้าลำบากมาก ดังนั้น เมื่อเอาราคามาเทียบกับคุณภาพถือว่าแพงพอ ๆ กับที่พักที่มีชื่อ จึงอยากให้ปรับราคาและมาตรฐานให้สมราคากว่านี้ ถ้าปรับได้แล้วมีโอกาสจะกลับไปพัก
หลังจากรีวิว มีจดหมายมาถึงบ้าน เรียกเงิน 3 ล้านทำเสื่อมเสีย
ผ่านไปประมาณ 1 ปีครึ่ง กลับมีจดหมายเตือนจากทางโรงแรมส่งมาถึงบ้าน ระบุว่า รีวิวดังกล่าวของคุณขิงเป็นการใส่ความทำให้โรงแรมเสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่แน่ใจในการจองโรงแรม ดังนั้น จึงมีคำสั่งขอให้คุณขิงปฏิบัติตาม 3 ข้อ ได้แก่
1. ลบข้อความรีวิว หากไม่ดำเนินการจะคิดค่าเสียหายวันละ 50,000 บาท จนกว่าจะลบข้อความดังกล่าว
2. ให้ชำระค่าเสียหาย 3,000,000 บาท ภายใน 15 วันนับตั้งแต่ได้รับหนังสือฉบับนี้
3. ให้ลงโฆษณาขอโทษโรงแรมในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, เดลินิวส์, ข่าวสด, กรุงเทพธุรกิจ, มติชน รวม 5 ฉบับ เป็นเวลา 7 วัน
หากไม่ดำเนินการให้ครบถ้วน จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไป
คุณขิง งง โรงแรมรู้ได้ยังไงว่าใครรีวิว-ส่งอีเมลมาให้ประเมิน ก็ประเมินปกติ
หลังจากนั้น คุณขิง เดินทางมาพบกับทนายษิทรา พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า รีวิวไปตามจริงมีความผิดด้วยเหรอ แล้วทำไมโรงแรมถึงรู้ว่าใครที่รีวิว เพราะชื่อล็อกอินก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร แถมไปพักโรงแรมนี้นานแล้วด้วย เรื่องนี้ agoda ต้องให้คำตอบ
ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบไปที่ agoda พบว่า มีการลบรีวิวดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไปเรียบร้อย ทั้งที่คุณขิงไม่ได้สั่งให้ลบ
ช่อง 3 รายงานว่า คุณขิง ได้เล่าเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้งว่า ตอนเธอจองโรงแรม เธอจองผ่าน agoda และเมื่อเข้าพักเสร็จ agoda ก็ส่งแบบสอบถามมาเพื่อให้เธอประเมิน ซึ่งเธอก็เขียนประเมินไปตามความเป็นจริง ไม่มีจุดประสงค์กลั่นแกล้ง คิดว่ารีวิวผ่าน agoda เฉย ๆ เพื่อเก็บข้อมูล แต่ไม่คิดว่า agoda จะเอาข้อความที่เขียนไปลงในรีวิวของโรงแรม ที่สำคัญเธอก็ไม่มีสิทธิ์ลบข้อความนี้ได้ด้วย agoda ต้องเป็นคนลบเท่านั้น
หลังจากได้รับจดหมายเตือน เธอยังไม่ได้พูดคุยกับฝั่งโรงแรมและสำนักทนายความที่ส่งหนังสือมาแต่อย่างใด พยายามติดต่อ agoda เพื่อเคลียร์เรื่องนี้ก่อน แต่ติดต่อยากมาก จึงใช้วิธีส่งอีเมลไปแทน สอบถามไปว่า ทาง agoda ได้ให้ข้อมูลส่วนตัวเธอแก่โรงแรมหรือไม่ ทำไมโรงแรมถึงรู้ว่า เธอเป็นคนรีวิว ทาง agoda ปฏิเสธกลับมา ยืนยันว่า ไม่ได้ให้ข้อมูลกับใครเลย
จากนั้น เธอได้มาปรึกษาทนายษิทราว่า สิ่งที่เธอทำไปมันผิดไหม ทำไมหนังสือฝั่งทนายโรงแรมต้องเรียกค่าเสียหายเยอะขนาดนี้ ควรจะคุยกันก่อนไหม นอกจากนี้ เธออยากจะถามคนในสังคมว่า การเขียนรีวิวแบบนี้ ต้องจ่ายค่าเสียหายแพงเลยเหรอ
นอกจากนี้ เธอยังขอฝากถึง agoda ให้ช่วยมีบรรทัดฐานคัดกรองลูกค้า ปกป้องลูกค้าที่เขียนแบบสอบถาม แต่กลับถูกฟ้องค่าเสียหายเยอะ ๆ ว่า จะมีการป้องกันยังไง ถ้าหากรีวิวแล้วไม่ถูกใจ เธอก็พร้อมจะขอโทษ
ชาวเน็ตรู้แล้ว โรงแรมอะไร ทัวร์ลงเพจทันที
ส่วนชาวเน็ตที่ได้อ่านข่าวดังกล่าว ต่างมองว่า โรงแรมทำเกินไปจริง ๆ ทั้งที่คุณขิงก็วิจารณ์ดีด้วยซ้ำ ทางที่ดีโรงแรมควรปรับปรุงการบริการ มากกว่าไปไล่ฟ้องคนอื่น
ขณะที่ ชาวเน็ตบางส่วนไปสืบเสาะว่า โรงแรมดังกล่าวคือโรงแรมอะไร พอได้คำตอบ รถทัวร์ก็จอดกลางเพจทันที มีการแซวประชดแบบขำขัน เช่น มีเงิน 250 บาท เมนต์อะไรได้บ้าง, น่าเที่ยวมาก แต่ไม่ใช่ที่นี่, ระวังลูกค้าฟ้องกลับนะ, จ.น่าน เพิ่งทัวร์ไปหลายคดี ตอนนี้มาเขาใหญ่แล้ว
