x close

ส่องชีวิตหญิงชรา ทำงานหนัก 10 ปี ใช้หนี้เงินล้านแทนลูก ถือคำมั่น แม้ไม่จำเป็นต้องชดใช้


         แม่วัยชรา เกือบ 70 ปี ทำงานหนักใช้หนี้แทนลูกชาย หลังทิ้งหนี้สินไว้กว่า 3 ล้าน บากบั่นล้างจานวันละเกือบพันใบ ผ่านไปร่วม 10 ปี ในที่สุดก็ใช้หนี้หมด

ใช้หนี้แทนลูก
ภาพจาก sina

         วันที่ 17 มกราคม 2565 เว็บไซต์ sina มีรายงานเรื่องราวของหญิงชราวัยเกือบ 70 ปี ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องจากคนในสังคมให้เป็นคุณแม่ที่ซื่อสัตย์ที่สุด หลังจากที่เธอบากบั่นทำงานหนักแบบไม่มีวันหยุดพัก ใช้ชีวิตด้วยความอดออมตลอดระยะเวลานานกว่า 10 ปี เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการจ่ายหนี้กว่า 600,000 หยวน (ราว 3 ล้านบาท) ที่ลูกชายทิ้งไว้ให้หมดสิ้น

         เป็นเวลารวมกันหลายพันวันและคืนที่ ฉงฮุ่ยอวี้ คุณแม่ผู้นี้ ใช้ชีวิตอยู่กับการล้างจานปริมาณมหาศาล วันละเกือบ 1 พันใบ เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ก้อนโต ชนิดที่เธอไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีวันชดใช้ได้หมด แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ว่าตราบใดที่ยังมีชีวิตก็จะต้องชดใช้หนี้สินให้ได้ ในที่สุดเธอก็ทำมันได้สำเร็จ

ลูกชายจากไป พร้อมหนี้สินท่วมหัว


         ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน 2554 ฉงฮุ่ยอวี้ เกษตรกรจากหมู่บ้านฟางจวน มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ต้องทุกข์ใจอย่างสาหัสเมื่อลูกชายมาตายจากโดยไม่คาดคิด เธอได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายจากทางโรงพยาบาลว่าลูกชายล้มป่วยกะทันหันก่อนจากไป และต่อมาอีกไม่นานก็ต้องช็อกอีกรอบ เมื่อทางครอบครัวได้รับหมายเรียกจากศาล แจ้งว่าหลานชายวัย 6 ขวบ ถูกเจ้าหนี้ฟ้องให้จ่ายหนี้แทนพ่อของหลาน

         "ลูกชายของฉันเคยทำงานในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตอนที่เขาทำงานนั้นก็ใช้เงินตัวเองลงทุนไปจนหมด ขณะที่เจ้านายซึ่งรับเงินก้อนมากลับหนีไปพร้อมเงิน ทำให้พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าแรงคนงาน รวมถึงค่าวัสดุต่าง ๆ ได้ และเพราะไม่มีเงินทุนแล้วโปรเจกต์อื่น ๆ จึงไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เช่นกัน ทิ้งหนี้สินกว่า 600,000 หยวน รวมถึงดอกเบี้ยให้ลูกชายฉัน เพราะแบบนั้นลูกสะใภ้กับลูกชายจึงหย่ากัน" ฉงฮุ่ยอวี้ กล่าว
 
         ในบรรดาหนี้สิน แบ่งเป็นหนี้เงินกู้จากธนาคาร 300,000 หยวน (ราว 1.5 ล้านบาท) และส่วนที่เหลือมาจากเจ้าหนี้รายอื่น ๆ ซึ่งไม่นานหลังจากที่ลูกชายของฉงฮุ่ยอวี้เสียชีวิต ก็มีคนงาน 2 รายที่บริษัทฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องค่าแรง ในเดือนธันวาคม 2554 ศาลมีคำสั่งให้หลานชายของฉงฮุ่ยอวี้ต้องรับภาระใช้หนี้แทน แต่เนื่องจากเด็กเพิ่งมีอายุเพียง 6 ขวบ หลังจากนั้นอีก 2 ปี ศาลก็มีคำสั่งให้สิ้นสุดกระบวนการบังคับคดี

แม่ยืนกราน หนี้ของลูกชาย จะจ่ายให้


         อย่างไรก็ตาม ฉงฮุ่ยอวี้ตัดสินใจที่จะจ่ายหนี้แทนลูกชาย แม้ในทางกฎหมายเธอจะไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใด ๆ ก็ตาม โดยเธอให้คำมั่นกับเหล่าเจ้าหนี้ว่าจะขอทำงานหนักเพื่อหาเงินมาใช้คืนให้ ย้ำว่า "ฉันจะจ่ายหนี้ให้ลูกชายเอง"

         สำหรับเหตุผลนั้น ฉงฮุ่ยอวี้คิดว่าตัวเองต้องเป็นแบบอย่างที่ดีแก่หลานชาย ให้เด็กน้อยได้เข้าใจความสำคัญของความซื่อสัตย์  

 
         ด้วยเงินชดเชยหลังการเสีชชีวิตของลูกชาย พร้อมกับเงินอื่น ๆ ที่ได้มาในตอนนั้น ทำให้เธอสามารถจ่ายหนี้เงินกู้ธนาคารไปได้ รวมถึงเจ้าหนี้อีกหลายราย แต่ก็ยังเหลือหนี้อีก 300,000 หยวน เธอจึงคุยกับสามี และตัดสินใจจะหางานเสริมทำเพิ่ม

ทำงานตรากตรำ แม้เข้าสู่วัยชรา


ใช้หนี้แทนลูก
ภาพจาก sina

         ในแต่ละวัน ฉงฮุ่ยอวี้จะตื่นนอนตั้งแต่ 04.00-05.00 น. ขี่จักรยาน 20 นาที ออกไปทำงานในไร่ข้าวโพดของเธอ ก่อนจะรีบปั่นจักรยานเข้าไปในตัวเมืองก่อน 08.00 น. เพื่อไปทำงานในร้านอาหาร เธอเริ่มจากทำความสะอาดภายในครัว จากนั้นเมื่อเริ่มมีลูกค้าเข้ามา เธอก็ต้องล้างจานชามวนไป ยิ่งมีลูกค้ามากเท่าไหร่งานของเธอก็ยิ่งยุ่งมากเท่านั้น ช่วงมื้อกลางวันก็ยิ่งยุ่งหนัก กว่าจะมีเวลาพักหายใจก็เป็นช่วง 14.00 น. ที่ลูกค้าเริ่มซา

         แต่ก็ใช่ว่าเธอจะได้พักสบาย ๆ ฉงฮุ่ยอวี้ต้องรีบกลับไปบ้านเพื่อนทำงานบ้านต่าง ๆ ก่อนจะกลับมาลุยงานที่ร้านอาหารอีกครั้งในเวลา 16.00 น. ซึ่งเข้าสู่ช่วงมื้อเย็น และเธอก็ต้องล้างจานไปจนถึงเวลาร้านปิดตอน 22.00 น. โดยวันที่ยุ่งที่สุดเธอล้างจานไปเกือบ 1,000 ใบ  

ทำงานโดยไม่พัก เพื่อเป้าหมายหนึ่งเดียว


         ฉงฮุ่ยอวี้ยอมรับว่า เธอมีวันหยุด 1 วันต่อสัปดาห์ แต่เธอก็ไม่กล้าหยุดพักเพราะหากหายไปสักวัน จานชามต่าง ๆ ก็จะถูกทิ้งไว้กองโต และต้องกลับมาล้างทั้งหมดในวันต่อไป

         โชคยังดีที่ฉงฮุ่ยอวี้ยังมีรายได้อีกทางจากการให้ชาวบ้านเช่าที่นาส่วนหนึ่งไว้ทำไร่ ทำให้เธอสามารถหาเงินมาให้เจ้าหนี้ได้เรื่อย ๆ โดยเธอจะไม่ยอมให้พวกเขากลับไปมือเปล่า ต่อให้เหลือเงินติดตัวอยู่ไม่กี่ร้อยเธอก็จะนำเงินเหล่านั้นมาใช้หนี้ เพราะการใช้หนี้ของลูกชายให้หมดคือเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของเธอ


         แต่เพียงไม่ถึง 5 ปีหลังสูญเสียลูกชาย ฉงฮุ่ยอวี้ก็ต้องพบกับความสูญเสียอีกครั้งเมื่อสามีสิ้นใจจากอุบัติเหตุ ทำให้เธอต้องรับภาระในการหาเงินทั้งหมด

เจ้าหนี้สุดตื้นตัน ไม่คาดคิดจะได้เงินคืน

 
         ทั้งนี้ ในปี 2561 ฉงฮุ่ยอวี้ยังได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ศาลให้ช่วยติดต่อคนงาน 2 ราย ที่เคยฟ้องคดีในอดีต และเดินทางไปหาพวกเขาถึงประตูบ้านของพวกเขาเพื่อนำเงินก้อนไปใช้หนี้คืน สร้างความประหลาดใจแก่ทั้งคู่มาก เพราะพวกเขายอมแพ้ไปนานแล้ว คิดว่าคงไม่มีวันได้ค่าแรงคืน แต่หญิงชราผู้นี้กลับเป็นฝ่ายติดต่อมาและนำเงินมาให้

         เจ้าหนี้ทั้ง 2 รายตื้นตันมาก และต้องการแบ่งเงินส่วนหนึ่งให้เธอแทนความขอบคุณ แต่หญิงชรายืนกรานว่าไม่ขอรับเงินไว้ แถมยังกล่าวด้วยความรู้สึกผิด บอกว่าไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะหาเงินได้ เงินเหล่านี้จึงควรคืนให้ เธอไม่สามารถรับเงินไว้ได้จริง ๆ อีกทั้งสุขภาพของเธอก็ยังแข็งแรงดี ยังสามารถทำงานหาเงินได้

คนดีแห่งเจียงซู


         ทั้งนี้ เมื่อเรื่องราวของฉงฮุ่ยอวี้ถูกรายงานผ่านสื่อ ในปี 2563 เธอก็ได้รับเลือกให้มีชื่อติดทำเนียบคนดีประจำเจียงซู แต่เธอยังคงถ่อมตัว ยืนยันว่าทำไปเพื่อหลานชาย และหวังว่าเขาจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง เป็นคนดี ซื่อสัตย์

         อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฉงฮุ่ยอวี้สามารถใช้หนี้สินของลูกชายได้จนหมดแล้ว แต่เป้าหมายต่อไปของเธอก็คือการทำงานหาเงินเพื่ออนาคตของหลานชาย โดยตอนนี้หลานชายของเธอเพิ่งเข้าเรียนชั้น ม.4 และยังต้องเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยอีก เธอจึงตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดเพื่อนสนับสนุนหลานรักหลังจากนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก sina


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ส่องชีวิตหญิงชรา ทำงานหนัก 10 ปี ใช้หนี้เงินล้านแทนลูก ถือคำมั่น แม้ไม่จำเป็นต้องชดใช้ อัปเดตล่าสุด 18 มกราคม 2565 เวลา 15:03:54 12,731 อ่าน
TOP