ศาลพิพากษาคดีเจ้าของร้านเพชร เบิกความเท็จ กล่าวหาพ่อค้าขายไก่ย่างฉกเพชร 15 ล้านบาท จนติดคุกฟรี น.ส.บุญญรัตน์ โดนสั่งจำคุก 3 ปี ด้านพ่อค้าไก่ย่าง เปิดใจ ชีวิตล้มละลายหลังตกเป็นแพะ จ่อเรียกค่าเสียหายคืน คาดสูงถึง 15 ล้านบาท
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
เคยเป็นข่าวโด่งดังในปี 2559 กรณีของ นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ พ่อค้าไก่ย่าง ชาว จ.นครพนม ที่ตกเป็นแพะคดีฉกเพชร 15 ล้านบาท ต้องติดคุกฟรี 7 เดือน 10 วัน ซึ่งต่อมามีการฟ้องร้อง น.ส.บุญญรัตน์ รัศมีสุขานนท์ หรือ เจ๊มุ้ย อายุ 69 ปี ผู้ประกอบการธุรกิจค้าเพชร ในข้อหาให้การเท็จ เป็นเหตุให้ผู้บริสุทธิ์ต้องติดคุก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.บุญญรัตน์ หรือ เจ๊มุ้ย เจ้าของร้านเพชร เคยแจ้งความตำรวจ สน.บางเสาธง เมื่อปี 2559 กล่าวหา นายพิสิษฐ์ วิ่งราวเพชรมูลค่า 15 ล้านบาท ออกไปจากบ้านเช่าย่านบางเสาธง กทม. ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาถูกจำคุก กระทั่งต่อมาภรรยาเดินหน้าร้องขอความยุติธรรมกับกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยเหลือ จนศาลยกฟ้องเมื่อปี 2561
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
โดยเมื่อคนร้ายวิ่งหนีไปพร้อมถาดแหวนเพชร ส่วน น.ส.บุญญรัตน์ ถูกขังอยู่ในบ้านพักดังกล่าว ต่อมาได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการส่งรูปบัตรประชาชนของนายพิสิษฐ์ให้ดู ซึ่ง น.ส.บุญญรัตน์ ดูแล้วแจ้งว่า นายพิสิษฐ์ คือ นายแดง ต่อมาเจ้าหน้าที่มีการสอบ นางประยอม แม่บ้าน ซึ่งรับเป็นพยาน สุดท้ายทั้งคู่เบิกความเท็จ ปรักปรำให้นายพิสิษฐ์ รับโทษทางอาญา
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า น.ส.บุญญรัตน์ เบิกความเท็จ จึงพิพากษาจำคุก 3 ปี และให้ยกฟ้อง นางประยอม แม่บ้าน เนื่องจากไม่ปรากฏว่าเคยพบกับนายแดงมาก่อนเกิดเหตุ โดยในวันเกิดเหตุ นางประยอมได้พบคนร้าย 2 ครั้ง แต่ละครั้งใช้เวลาไม่นาน และเมื่อวัดความสูงเปรียบเทียบนายพิสิษฐ์กับคนร้ายแล้ว ภายหลังนางประยอม จึงเบิกความใหม่ว่าโจทก์ไม่ใช่คนร้าย
นอกจากนี้ ยังสั่งยกฟ้อง บริษัท กาแล็คซี่ไดมอนด์ จำกัด และ นายดีวัง กุมาร ชีวันทิลาล ซังกาวี ซึ่งเคยมอบอำนาจให้ น.ส.บุญญรัตน์ เพื่อขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในการฟ้องนายพิสิษฐ์
ภาพจาก สำนักข่าวไทย
สำหรับการที่ตนต้องอยู่ในเรือนจำ ยังตามหลอกหลอนทุกวัน ทำไมต้องเจอคนที่ใส่ร้ายจนชีวิตพัง ต้องไปกู้เงินก้อนโตเพื่อยื่นประกันตัวและต่อสู้คดี เสียเวลามาก ชีวิตลำบากมากถึงขั้นล้มละลาย ไม่อยากให้คดีลักษณะนี้เกิดขึ้นกับใคร ให้มันจบที่ตน อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีให้ดีที่สุด ตรวจสอบว่าเขาผิดจริงไหมถึงจับกุม หลังจากนี้เตรียมหารือทนายเดินหน้าเอาผิดกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด เขาเรียกร้องค่าเสียหายสูงถึง 15.8 ล้านบาท ทางฝ่ายตนก็จะเรียกร้องเอาค่าชดเชยความเสียหายที่ต้องติดคุกฟรีในมูลค่าไม่ต่างกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีตัวเลขในใจ ขอปรึกษาทนายความก่อน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังศาลมีคำพิพากษาจำคุก 3 ปี น.ส.บุญญรัตน์ ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ โดยมีการยื่นหลักประกัน 150,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์, สำนักข่าวไทย