ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้น คดีทหารใช้ M16 ยิง ชัยภูมิ ป่าแส
นักเคลื่อนไหวชาวเขาเสียชีวิต ชี้ เป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย
เนื่องจากตำแหน่งที่ทหารยิงคือต้นแขนซ้าย บอกถึงเจตนาว่า
ไม่ได้ประสงค์แก่ชีวิต
ภาพจาก one31
วันที่ 26 มกราคม 2565 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ที่ศาลแพ่ง
ถนนรัชดาภิเษก ทนายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความในคดี
พร้อมทีมทนายสิทธิมนุษยชนและภาคีเครือข่ายครอบครัวของนายชัยภูมิ ป่าแส
เดินทางมาเพื่อรับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
กรณีนางนาปอย ป่าแส ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก จากเหตุการณ์ที่ทหารใช้อาวุธปืน M16 ยิงนายชัยภูมิ นักกิจกรรมเยาวชนผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองและคนไร้สัญชาติ เสียชีวิต บริเวณด่านบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อ 17 มีนาคม 2560
กรณีนางนาปอย ป่าแส ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก จากเหตุการณ์ที่ทหารใช้อาวุธปืน M16 ยิงนายชัยภูมิ นักกิจกรรมเยาวชนผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองและคนไร้สัญชาติ เสียชีวิต บริเวณด่านบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อ 17 มีนาคม 2560
ภาพจาก one31
ทั้งนี้ นายรัษฎา เปิดเผยหลังเข้ารับฟังคำพิพากษาว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คือยกฟ้อง พร้อมมีคำวินิจฉัยว่าทหารใช้ปืนยิงนายชัยภูมิ เพื่อป้องกันตัวเองโดยชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากตำแหน่งที่ทหารยิงคือต้นแขนซ้าย เป็นตำแหน่งยิงที่บอกเจตนาว่า ไม่ได้ประสงค์แก่ชีวิต
ส่วนครอบครัวของนายขัยภูมิ ไม่ได้เข้าร่วมรับฟังคำพิพากษา เนื่องด้วยสถานการณ์ระบาดของโควิด 19 ซึ่งตนได้แจ้งผลคำพิพากษาแก่ครอบครัวนายชัยภูมิแล้ว และจะหารืออีกครั้งเรื่องการต่อสู้คดีในชั้นฎีกา โดยมีเวลาในการยื่นขอให้ศาลอนุญาตฎีกา ภายใน 1 เดือน
ภาพจาก one31
ขณะที่นางอังคณา นีละไพจิตร นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน ได้เข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาครั้งนี้ด้วย และได้ให้ความเห็นว่า ไม่เห็นด้วยในประเด็นเรื่องดีเอ็นเอ ที่ไม่มีการนำขึ้นพิจารณา ซึ่งการตรวจพิสูจน์ไม่พบดีเอ็นเอของนายชัยภูมิ บนด้ามจับของก้านระเบิด ที่ทหารกล่าวอ้างว่านายชัยภูมิจะปาใส่เจ้าหน้าที่ โดยศาลรับฟังเพียงคำให้การของพยานบุคคล แต่ก็เคารพคำตัดสินของศาล
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้







