โรงแรมนารายณ์ ปิดตำนาน หลังให้บริการมา 54 ปี เตรียมทุบทิ้งเพื่อสร้างใหม่ ปรับปรุงสู่โฉมใหม่ หวังเป็นแลนด์มาร์กของย่านสีลม
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรงแรมเก่าแก่ในกรุงเทพฯ สำหรับ โรงแรมนารายณ์ ซึ่งเดิมที ใช้ชื่อ โรงแรมวิคตอรี่ บนถนนสีลม ซึ่งเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Praphat Sirivongrangsan โพสต์แจ้งเรื่องการปิดตำนาน 54 ปี ของโรงแรมแห่งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 พร้อมเชิญพนักงานเก่าเข้าร่วมงานเพื่อบันทึกความทรงจำต่อกัน โดยจากนี้จะมีการทุบแล้วสร้างใหม่ต่อไปนั้น
ประวัติโรงแรมนารายณ์
โรงแรมนารายณ์ สีลม เปิดบริการมานานกว่า 50 ปี เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนกว่า 5 ทศวรรษ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 ชื่อโรงแรมมีที่มาจากพระนามของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ สมเด็จพระรามาธิบดี (ที่ 3) ซึ่งทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 27 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระปรีชาสามารถและเป็นที่เลื่องลือพระเกียรติยศ ในด้านการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การค้าและการทูตกับประเทศต่าง ๆ จนรุ่งเรือง ทางโรงแรมจึงอัญเชิญพระนามสมเด็จพระนารายณ์มาตั้งเป็นชื่อโรงแรมนารายณ์สืบมาจนถึงปัจจุบัน
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปกี่ยุคกี่สมัย ทางโรงแรมนารายณ์ยังคงรักษาเสน่ห์แห่งความเป็นไทยไว้จากรุ่นสู่รุ่น เรามีการจำลองสถาปัตยกรรมรูปปั้นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์และเรือสุพรรณหงส์มาประดับในโรงแรม เพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็นไทยแก่ชาวต่างชาติ รวมถึงได้มีการรีโนเวทพื้นที่ในส่วนห้องพักต่าง ๆ ให้ดูสะดวกสบายทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
จุดเด่นของ โรงแรมนารายณ์
โรงแรมนารายณ์ เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีห้องพัก 500 ห้อง ชื่อเสียงของโรงแรมนารายณ์ในช่วงเริ่มต้นประกอบด้วย
- โรงแรมที่มีภัตตาคารหมุนแห่งแรกของประเทศไทย
- เป็นตึกสูงที่สุดบนถนนสีลม
- มีห้องบอลรูมที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร ที่ไม่มีเสาภายใน โดยจุผู้เข้าร่วมได้มากถึง 1,000 คน
- นารายณ์พิซซ่าเรีย เป็นพิซซ่าแห่งแรกในประเทศไทย (ปัจจุบันคือห้องอาหาร Peperoni)
ข้อมูลทางการเงิน บริษัท นารายณ์โฮเต็ล จำกัด (ข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ)
- สินทรัพย์รวมในปี 2563 จำนวน 2,700 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปี 2562 ที่มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 2,711 ล้านบาท หรือลดลง 0.42%
- รายได้รวมในปี 2563 มีทั้งสิ้น 230 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 682 ล้านบาท หรือลดลง 66.23% แยกเป็นรายได้หลัก 205 ล้านบาท และรายได้อื่นอีก 25 ล้านบาท
- ผลการดำเนินงานในปี 2563 พบว่า มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 454 ล้านบาท โดยเริ่มขาดทุนมาตั้งแต่ปี 2561 จำนวน 32 ล้านบาท และในปี 2562 จำนวน 41 ล้านบาท
เส้นทางต่อไปของ โรงแรมนารายณ์
คุณนที นิธิวาสิน กรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ โฮเต็ล จำกัด เปิดเผยกับ กรุงเทพธุรกิจ ระบุว่า การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ถือเป็นความท้าทาย ปรับ เพื่อ เปลี่ยน สู่โฉมใหม่ และทำให้ย่านสีลมเฟื่องฟูเหมือนครั้งอดีต และทันสมัยตามเทรนด์ของคนยุคปัจจุบัน โดยการพัฒนาครั้งนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- เพิ่มพื้นที่สีเขียว สิ่งแวดล้อมที่ดี คืนให้แก่ชุมชนคนสีลม และให้ผู้คนหลากหลายกลุ่มสามารถใช้พื้นที่ร่วมกัน ทั้งการพักผ่อน ร้านอาหาร และจะเปิดให้ผู้ค้าเช่าพื้นที่ค้าขาย
- ปรับโซนห้องพักในระดับ Luxury
การปรับโฉมครั้งนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 ปี และอีกส่วนหนึ่งคือเตรียมจะอัญเชิญ องค์พระนารายณ์ ที่อยู่คู่โรงแรมมาตั้งแต่เริ่มต้น ลงมาไว้ให้คนทั่วไปได้สักการะ หวังให้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กใหม่ในย่านสีลม ปลุกให้สีลมกลับมาเป็น An Oasis ของคนกรุงเทพฯ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกลับมาด้วยแนวคิดของทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่จะสร้างโรงแรมนารายณ์ ให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ของคนกรุงเทพฯ อีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก Naraihotel, ฐานเศรษฐกิจ, กรุงเทพธุรกิจ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรงแรมเก่าแก่ในกรุงเทพฯ สำหรับ โรงแรมนารายณ์ ซึ่งเดิมที ใช้ชื่อ โรงแรมวิคตอรี่ บนถนนสีลม ซึ่งเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Praphat Sirivongrangsan โพสต์แจ้งเรื่องการปิดตำนาน 54 ปี ของโรงแรมแห่งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 พร้อมเชิญพนักงานเก่าเข้าร่วมงานเพื่อบันทึกความทรงจำต่อกัน โดยจากนี้จะมีการทุบแล้วสร้างใหม่ต่อไปนั้น
ประวัติโรงแรมนารายณ์
โรงแรมนารายณ์ สีลม เปิดบริการมานานกว่า 50 ปี เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนกว่า 5 ทศวรรษ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 ชื่อโรงแรมมีที่มาจากพระนามของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ สมเด็จพระรามาธิบดี (ที่ 3) ซึ่งทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 27 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระปรีชาสามารถและเป็นที่เลื่องลือพระเกียรติยศ ในด้านการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การค้าและการทูตกับประเทศต่าง ๆ จนรุ่งเรือง ทางโรงแรมจึงอัญเชิญพระนามสมเด็จพระนารายณ์มาตั้งเป็นชื่อโรงแรมนารายณ์สืบมาจนถึงปัจจุบัน
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปกี่ยุคกี่สมัย ทางโรงแรมนารายณ์ยังคงรักษาเสน่ห์แห่งความเป็นไทยไว้จากรุ่นสู่รุ่น เรามีการจำลองสถาปัตยกรรมรูปปั้นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์และเรือสุพรรณหงส์มาประดับในโรงแรม เพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็นไทยแก่ชาวต่างชาติ รวมถึงได้มีการรีโนเวทพื้นที่ในส่วนห้องพักต่าง ๆ ให้ดูสะดวกสบายทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
จุดเด่นของ โรงแรมนารายณ์
โรงแรมนารายณ์ เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีห้องพัก 500 ห้อง ชื่อเสียงของโรงแรมนารายณ์ในช่วงเริ่มต้นประกอบด้วย
- โรงแรมที่มีภัตตาคารหมุนแห่งแรกของประเทศไทย
- เป็นตึกสูงที่สุดบนถนนสีลม
- มีห้องบอลรูมที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร ที่ไม่มีเสาภายใน โดยจุผู้เข้าร่วมได้มากถึง 1,000 คน
- นารายณ์พิซซ่าเรีย เป็นพิซซ่าแห่งแรกในประเทศไทย (ปัจจุบันคือห้องอาหาร Peperoni)
ข้อมูลทางการเงิน บริษัท นารายณ์โฮเต็ล จำกัด (ข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ)
- สินทรัพย์รวมในปี 2563 จำนวน 2,700 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปี 2562 ที่มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 2,711 ล้านบาท หรือลดลง 0.42%
- รายได้รวมในปี 2563 มีทั้งสิ้น 230 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 682 ล้านบาท หรือลดลง 66.23% แยกเป็นรายได้หลัก 205 ล้านบาท และรายได้อื่นอีก 25 ล้านบาท
- ผลการดำเนินงานในปี 2563 พบว่า มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 454 ล้านบาท โดยเริ่มขาดทุนมาตั้งแต่ปี 2561 จำนวน 32 ล้านบาท และในปี 2562 จำนวน 41 ล้านบาท
เส้นทางต่อไปของ โรงแรมนารายณ์
คุณนที นิธิวาสิน กรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ โฮเต็ล จำกัด เปิดเผยกับ กรุงเทพธุรกิจ ระบุว่า การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ถือเป็นความท้าทาย ปรับ เพื่อ เปลี่ยน สู่โฉมใหม่ และทำให้ย่านสีลมเฟื่องฟูเหมือนครั้งอดีต และทันสมัยตามเทรนด์ของคนยุคปัจจุบัน โดยการพัฒนาครั้งนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- เพิ่มพื้นที่สีเขียว สิ่งแวดล้อมที่ดี คืนให้แก่ชุมชนคนสีลม และให้ผู้คนหลากหลายกลุ่มสามารถใช้พื้นที่ร่วมกัน ทั้งการพักผ่อน ร้านอาหาร และจะเปิดให้ผู้ค้าเช่าพื้นที่ค้าขาย
- ปรับโซนห้องพักในระดับ Luxury
การปรับโฉมครั้งนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 ปี และอีกส่วนหนึ่งคือเตรียมจะอัญเชิญ องค์พระนารายณ์ ที่อยู่คู่โรงแรมมาตั้งแต่เริ่มต้น ลงมาไว้ให้คนทั่วไปได้สักการะ หวังให้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กใหม่ในย่านสีลม ปลุกให้สีลมกลับมาเป็น An Oasis ของคนกรุงเทพฯ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกลับมาด้วยแนวคิดของทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่จะสร้างโรงแรมนารายณ์ ให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ของคนกรุงเทพฯ อีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก Naraihotel, ฐานเศรษฐกิจ, กรุงเทพธุรกิจ
