เปิดใจพ่อเจ้าของร้านทอง อ.พบพระ ยอมรับเป็นคนยิงลูกค้าเสียชีวิต หลังโจรปล้นทอง 187 บาท ได้ยินเสียงผิดปกติเลยสาดกระสุนรัว 3 นัด ลูกค้าสิ้นใจต่อหน้าภรรยา ด้านภรรยาเล่านาทีชีวิต อุตส่าห์ไปหลบในเคาน์เตอร์ แทนที่จะปลอดภัยกลับต้องตาย
จากเหตุการณ์คนร้าย 3 คน บุกปล้นร้านทองรูปพรรณ อ.พบพระ จ.ตาก ได้ทองคำน้ำหนัก 187 บาท ก่อนจะหลบหนีไป ซึ่งวันเกิดเหตุมีลูกค้าถูกยิงเสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า คนร้ายเป็นคนยิงขณะเข้าปล้น จนทำให้ลูกค้าที่มาเลือกซื้อทองถูกลูกหลง
อ่านข่าว : อุกอาจ ! 3 คนร้ายบุกปล้นร้านทองกลางเมือง ยิงลูกค้าเสียชีวิต
ล่าสุด วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายศราวุฒ อยู่แก้ว พ่อของเจ้าของร้านทองที่เกิดเหตุ ยอมรับว่าเป็นคนยิง นายชิด อากา อายุ 30 ปี (ชื่อตามหนังสือเดินทางแรงงานสัญชาติเมียนมา) ลูกค้าที่ไปซื้อสร้อยคอทองคำขณะเกิดเหตุ ตนไม่รู้ว่าเป็นใครเป็นใคร เมื่อทราบว่ามีโจรปล้นร้านก็รีบออกมาจากหลังร้านพร้อมกับปืนตนได้ยินเสียงในร้านไม่ทราบว่าเสียงอะไรดัง พอเปิดประตูเข้าไปก็ยิงสาดไป 3 นัดทันที กระทั่งพบชายคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งหลังจากนี้พร้อมที่จะรับผิดชอบ
ด้านภรรยาของผู้เสียชีวิต เดินทางไปร้องเรียนองค์กรช่วยเหลือแรงงานเมียนมา ที่ชายแดนไทย-เมียนมา เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนและสามีไปซื้อสร้อยทองให้ลูก ระหว่างเลือกสร้อยมีคนร้ายสวมหมวกกันน็อกใช้ปืนยิงใส่กระจกของร้าน ตนและสามีจึงเข้าไปหลบในเคาน์เตอร์ร้าน ส่วนลูก ๆ เจ้าของร้านไปหลบที่หลังร้าน
กระทั่งโจรออกไปแล้ว สามีก็คิดว่าปลอดภัยแล้วจึงลุกขึ้นยืน จังหวะนั้นพ่อเจ้าของร้านเปิดประตูจากหลังร้านเข้ามาเห็นพอดี เขาตกใจใช้ปืนยิงสามีเสียชีวิตต่อหน้าตนเอง ซึ่งทางร้านยังไม่ยอมมาพูดคุยเจรจาเรื่องการเยียวยา อีกทั้งศาลยังไม่ออกหมายจับในคดีนี้อีกด้วย
ทางด้าน พ.ต.อ. อำพล วงศ์ใหญ่ รอง ผบก.ภ.จว.ตาก กล่าวว่า กรณีของ นายศราวุฒ พ่อเจ้าของร้านทอง ตำรวจทราบแต่แรกแล้ว ซึ่งได้เก็บหลักฐานเป็นเขม่าดินปืน ปลอกกระสุนปืน และอาวุธปืนไว้ทั้งหมด เพียงแต่รอการติดตามจับกุมคนร้ายให้แล้วเสร็จ จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นถึงแก่ความตาย ยืนยันว่าตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนสามี-ภรรยา ลูกค้าที่เป็นผู้เสียหาย เป็นแรงงานเมียนมาที่เข้ามาทำงานในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำงานมานานกว่า 6 ปีแล้ว สำหรับเรื่องการเยียวยา หากทางร้านทองมีการเยียวยาดูแลญาติผู้ตายก็จะทำให้บรรเทาโทษได้
ขณะที่การติดตามคนร้าย ตอนนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 1 คน คือ นายวรพงษ์ แซ่ท้าว อายุ 23 ปี เป็นผู้ให้การสนับสนุนรถยนต์สีขาวกับอาวุธปืน และพาหนีไปด่านชายแดนไทย-เมียนมา ตำรวจ สภ.พบพระ ได้คุมตัวสอบสวนเพื่อขยายผลทางคดี
นอกจากนี้ ยังได้ประสานผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาส่วนท้องถิ่น (ทีบีซี.) เพื่อให้ทางฝ่ายเมียนมาจับตัวคนร้ายอีก 2 คน คือ นายคึ แซ่ท้าว อายุ 22 ปี, นายเต้อ แซ่ท้าว 23 ปี เพื่อส่งมาให้ทางไทยดำเนินคดี
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน, ข่าวช่องวัน
จากเหตุการณ์คนร้าย 3 คน บุกปล้นร้านทองรูปพรรณ อ.พบพระ จ.ตาก ได้ทองคำน้ำหนัก 187 บาท ก่อนจะหลบหนีไป ซึ่งวันเกิดเหตุมีลูกค้าถูกยิงเสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า คนร้ายเป็นคนยิงขณะเข้าปล้น จนทำให้ลูกค้าที่มาเลือกซื้อทองถูกลูกหลง
อ่านข่าว : อุกอาจ ! 3 คนร้ายบุกปล้นร้านทองกลางเมือง ยิงลูกค้าเสียชีวิต
ล่าสุด วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายศราวุฒ อยู่แก้ว พ่อของเจ้าของร้านทองที่เกิดเหตุ ยอมรับว่าเป็นคนยิง นายชิด อากา อายุ 30 ปี (ชื่อตามหนังสือเดินทางแรงงานสัญชาติเมียนมา) ลูกค้าที่ไปซื้อสร้อยคอทองคำขณะเกิดเหตุ ตนไม่รู้ว่าเป็นใครเป็นใคร เมื่อทราบว่ามีโจรปล้นร้านก็รีบออกมาจากหลังร้านพร้อมกับปืนตนได้ยินเสียงในร้านไม่ทราบว่าเสียงอะไรดัง พอเปิดประตูเข้าไปก็ยิงสาดไป 3 นัดทันที กระทั่งพบชายคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งหลังจากนี้พร้อมที่จะรับผิดชอบ
ด้านภรรยาของผู้เสียชีวิต เดินทางไปร้องเรียนองค์กรช่วยเหลือแรงงานเมียนมา ที่ชายแดนไทย-เมียนมา เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนและสามีไปซื้อสร้อยทองให้ลูก ระหว่างเลือกสร้อยมีคนร้ายสวมหมวกกันน็อกใช้ปืนยิงใส่กระจกของร้าน ตนและสามีจึงเข้าไปหลบในเคาน์เตอร์ร้าน ส่วนลูก ๆ เจ้าของร้านไปหลบที่หลังร้าน
กระทั่งโจรออกไปแล้ว สามีก็คิดว่าปลอดภัยแล้วจึงลุกขึ้นยืน จังหวะนั้นพ่อเจ้าของร้านเปิดประตูจากหลังร้านเข้ามาเห็นพอดี เขาตกใจใช้ปืนยิงสามีเสียชีวิตต่อหน้าตนเอง ซึ่งทางร้านยังไม่ยอมมาพูดคุยเจรจาเรื่องการเยียวยา อีกทั้งศาลยังไม่ออกหมายจับในคดีนี้อีกด้วย
ทางด้าน พ.ต.อ. อำพล วงศ์ใหญ่ รอง ผบก.ภ.จว.ตาก กล่าวว่า กรณีของ นายศราวุฒ พ่อเจ้าของร้านทอง ตำรวจทราบแต่แรกแล้ว ซึ่งได้เก็บหลักฐานเป็นเขม่าดินปืน ปลอกกระสุนปืน และอาวุธปืนไว้ทั้งหมด เพียงแต่รอการติดตามจับกุมคนร้ายให้แล้วเสร็จ จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นถึงแก่ความตาย ยืนยันว่าตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนสามี-ภรรยา ลูกค้าที่เป็นผู้เสียหาย เป็นแรงงานเมียนมาที่เข้ามาทำงานในไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำงานมานานกว่า 6 ปีแล้ว สำหรับเรื่องการเยียวยา หากทางร้านทองมีการเยียวยาดูแลญาติผู้ตายก็จะทำให้บรรเทาโทษได้
ขณะที่การติดตามคนร้าย ตอนนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 1 คน คือ นายวรพงษ์ แซ่ท้าว อายุ 23 ปี เป็นผู้ให้การสนับสนุนรถยนต์สีขาวกับอาวุธปืน และพาหนีไปด่านชายแดนไทย-เมียนมา ตำรวจ สภ.พบพระ ได้คุมตัวสอบสวนเพื่อขยายผลทางคดี
นอกจากนี้ ยังได้ประสานผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาส่วนท้องถิ่น (ทีบีซี.) เพื่อให้ทางฝ่ายเมียนมาจับตัวคนร้ายอีก 2 คน คือ นายคึ แซ่ท้าว อายุ 22 ปี, นายเต้อ แซ่ท้าว 23 ปี เพื่อส่งมาให้ทางไทยดำเนินคดี
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน, ข่าวช่องวัน
